โมริตะคาวาสึบาเมะกระโดดขึ้นฝั่ง กำลังภายในไหลเวียนไปทั่วร่างกายทันที ไอน้ำบนเสื้อผ้าระเหยแห้งไปในพริบตา ทำให้รู้สึกสดชื่น
เขาเอามือไพล่หลัง มองดูหน่วยลาดตระเวนด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด
“ท่านอ๋องโมริตะกับแม่ทัพโนจิริอยู่ที่ใด”
ทั้งหมดโค้งคำนับทันทีและพูดว่า “น่าจะอยู่ในห้องประชุม”
โมริตะคาวาสึบาเมะตอบอืม จากนั้นใช้วิชาตัวเบาตรงไปที่หอไม้ไผ่ที่อยู่ไกลออกไป
ณ ห้องประชุม
ท่านอ๋องโมริตะกำลังหารือเรื่องเป่ยไห่กับโนจิริและแม่ทัพคนอื่นๆ ในระหว่างการถกเถียง ประตูก็เปิดออก และโมริตะคาวาสึบาเมะก็เดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าสงบ
แม่ทัพโนจิริมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นทันที
“ท่านอ๋องน้อยกลับมาแล้ว!”
ท่านอ๋องโมริตะเป็นคนรูปร่างอ้วนเตี้ย เขามีหนวดเล็กๆ ที่ส่วนบน โกนศีรษะจนล้านเลี่ยนแค่ครึ่งหัว ท่าทางน่าขบขันยิ่งนัก
ท่าทีที่เขามีต่อโมริตะคาวาสึบาเมะก็ชวนขบคิดเช่นกัน ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก แต่กลับเหมือนลูกน้องที่ได้พบกับผู้บังคับบัญชา ผุดลุกขึ้นยืนทันที
“เจ้ากลับมาแล้วหรือ”
ท่านอ๋องโมริตะมีรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูประจบสอพลอ
ในสายตาของแม่ทัพคนอื่นๆ ท่านอ๋องน้อยมีความสามารถโดดเด่น ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋องมาก ทุกคนคุ้นเคยกับท่าทีที่ท่านอ๋องมีต่ออ๋องน้อยมานานแล้ว
โมริตะคาวาสึบาเมะพยักหน้า ยกเสื้อคลุมขึ้น และนั่งบนเก้าอี้ไม้ไผ่
“ที่เป่ยไห่เกิดความขัดแย้งภายใน ตาเฒ่าเซี่ยวถูกจับเข้าคุกเหล็กเนื้อแกร่ง เกิดจากศิษย์หลายสิบคนเสียชีวิตในชั่วข้ามคืน ตอนนี้คนจากทุกสำนักล้วนตื่นตระหนก เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับเราที่จะลงมือ”
โนจิริจูนิยิ้มแย้มแจ่มใสทันที
“ข้าก็ว่าแล้ว พวกจงหยวนมีคนเยอะ แต่กลับไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีคนมากมายมารวมตัวกันที่เป่ยไห่ ย่อมมีคนฉวยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่น แต่...ทางด้านแนวชายฝั่ง...”
ครั้งที่แล้วเขารอดพ้นจากความตายมาได้ แต่ยังคงมีความกลัวอยู่จนถึงทุกวันนี้
ความรู้สึกชาและปวดนั้นปวดแสบรวดร้าวมาก จนตอนนี้เมื่อนึกถึง โนจิริจูนิยังรู้สึกหนาวสะท้าน
ครั้นนึกถึงผู้ติดตามสองคนที่ลอยเหมือนปลาตายบนทะเล โมริตะคาวาสึบาเมะก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
เขากลับมาอย่างเร่งรีบเกินไป จึงไม่ได้ทำการสอบสวนสถานการณ์บนชายฝั่งอย่างรอบคอบ
เมื่อนึกถึงความแปลกประหลาดในวันนั้น โมริตะคาวาสึบาเมะก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทะเลผืนนั้นแปลกประหลาดอยู่บ้างจริงๆ ข้าก็มีอาการชาและปวดแสบปวดร้อนเหมือนกัน แต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นความรู้สึกก็หายไป อาจมีหารออกแบบกลไกบางอย่าง พวกเราเดินทวงอ้อมจากเมืองเติงหลงไปก็ได้”
โมริตะคาวาสึบาเมะเหลือบมองทุกคนแล้วพูดว่า “ทะเลกว้างใหญ่ ไม่อาจหยั่งรู้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะวางกลไก แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ทะเลทั้งหมดได้ ตราบใดที่เราหลีกเลี่ยงชายฝั่งเป่ยไห่ เราก็สามารถลดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายให้น้อยลงได้ ข้ายังได้ยินว่าศิษย์ทั้งหมดในเมืองเติงหลงถูกย้ายกลับไปที่เป่ยไห่ เพื่อสอบสวนการตายของศิษย์สำนัก ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่หายาก”
โนจิริจูนิอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
เมื่อวานนี้จักรพรรดิออกคำสั่งประหาร ต้องโจมตีเป่ยไห่ให้ได้ เป็นเพราะเหตุนี้เองที่พวกเขาจึงมารวมตัวกันที่นี่
เขาถ่มน้ำลายทันทีและพูดว่า “ในเมื่อมีโอกาสที่ดีเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามปล่อยให้หลุดรอดไปได้ ท่านอ๋อง พวกเรารีบระดมกำลังทหาร ฉวยโอกาสตีเหล็กตอนร้อน”
ท่านอ๋องโมริตะเหลือบมองไปที่คาวาสึบาเมะแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ข้ามทะเลตอนกลางคืน จัดการสังหารจนพวกเขาโจมตีไม่ทัน โนจิริจูนิ พวกเจ้าไประดมพลทันที”
“ขอรับ”
แม่ทัพหลายคนขานตอบ และลุกขึ้นจากหลังเก้าอี้
แม้ว่าในตงหลิวจะมีคนไม่มากนัก แต่ประสิทธิภาพในการทำงานก็ค่อนข้างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม นินจายอดฝีมือจำนวนสองร้อยคนก็ถูกเรียกตัวมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...