สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 879

สิ่งที่ทุกคนกำลังแข่งขันกันไม่ใช่พลังโจมตีของเครื่องดนตรีอีกต่อไป ตอนนี้ใครเสียงดังที่สุดก็มีสามารถข่มขู่ได้

ภายใต้เสียงสูงต่ำของกลองไทโกะและขลุ่ยชาคุฮาจิ เสียงกู่พิณอันทุ้มลึกของอินชิงเสวียนก็ถูกกลบจนมิดทันที

แม้ว่าซื่อเมี่ยวอินจะพยายามบรรเลงอยู่เบื้องหลังจนสุดกำลัง แต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อย

เพลงที่วุ่นวายทั้งสองด้านเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกกระสับกระส่าย มีเสียงดังหึ่งๆ ขึ้นในหู

เย่จิ่งอวี้กำลังต่อสู้กับแม่ทัพตงหลิวสองคน ไม่มีเวลามาช่วยนาง

เจ้าสำนักเซี่ยวและผู้อาวุโสสวีก็ถูกรายล้อมไปด้วยคนระดับหัวกะทิของตงหลิว ชาวตงหลิวทำสงครามกับเป่ยไห่มาหลายปีแล้ว ย่อมไม่อาจมองข้ามยอดฝีมือเช่นพวกเขาได้

ตอนนี้ถ้าต้องการทำลายสถานการณ์นี้ อินชิงเสวียนก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้น

ในเวลานี้ จู่ๆ นางก็รู้สึกกลุ้มใจ

เดิมทีคิดว่าศึกคราวนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดนตรีในหมู่ชาวตงหลิว ถึงขั้นขนกลองไทโกะเข้ามาในสนามรบด้วย

ช่างมั่วซั่วสิ้นดี

เมื่อคิดถึงคำว่า “มั่วซั่ว” ดวงตาของอินชิงเสวียนก็เป็นประกายขึ้น

ในเมื่อพวกเขากำลังเล่นกลสกปรก เช่นนั้นนางก็สามารถใช้เครื่องดนตรีเล่นมั่วซั่วได้ นัยน์ตาฉายแววเจ้าเล่ห์แสนกล อินชิงเสวียนนำพิณการเวกเข้าไปเก็บในมิติ แล้วแลกปี่ปากใหญ่ออกมา

แม้ว่านางจะเคยเรียนแค่การเป่าขลุ่ยดินเผา แต่ก็รู้วิธีเป่าปี่ปากใหญ่เช่นกัน

คุณย่าของอินชิงเสวียนมีปี่ปากใหญ่ ตอนเด็กคุณย่าเคยเกลี้ยกล่อมให้นางเล่น มักจะเป่าปี่ปากใหญ่เล่นมอญซ่อนผ้า ว่างๆ ก็มักจะสอนวิธีเป่าให้นาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์