สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 965

“เหนียงเหนียง เป็นอะไรเพคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่เพคะ?”

ยายหลี่วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ

“ไม่เป็นไร คงเพราะเมื่อวานตากลมเย็นน่ะ”

อินชิงเสวียนพูดออกไป

จังอวี้จิ่นเหลือบมองอินชิงเสวียน ลังเลครู่หนึ่งและพูดเสียงเบาว่า “เหนียงเหนียง พระองค์... พระองค์คงไม่ได้... มีพระครรภ์ใช่ไหมเพคะ?”

อวิ๋นฉ่ายเบิกดวงตาสองข้างในทันที และหันหน้าไปมองอินชิงเสวียน

พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “พระสนม หรือว่าพวกเราจะมีงานมงคลถึงสองเรื่องเลยเพคะ?”

เสี่ยวอานจื่อรีบพูดว่า “กระหม่อมจะไปตามหมอหลวงเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“อย่าเพิ่งไป”

อินชิงเสวียนรีบห้ามเขาไว้

“อย่าพูดมั่วไป ข้ารู้ร่างกายของตัวเองดี ก็แค่ท้องไส้แปรปรวนธรรมดา อย่าพูดเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทได้ยินล่ะ”

แม้อินชิงเสวียนจะปฏิเสธ แต่ก็มีความชั่งใจอยู่บ้าง

ดูเหมือนว่าเดือนนี้นางยังไม่มีระดู หรือว่า... นางตั้งครรภ์ลูกของเย่จิ่งอวี้แล้วจริงๆ?

การได้รู้เรื่องนี้ทำให้อินชิงเสวียนมีความสุขอยู่บ้าง แต่ไม่อยากหาหมอหลวงในตอนนี้ เพราะถ้าหากไม่มีจริงๆ จะไม่ใช่การดีใจเก้องั้นหรือ?

ค่อยหาโอกาสไปตรวจกับหมอพื้นบ้านนอกวังดีกว่า หากเป็นจริง ค่อยกลับมาบอกเย่จิ่งอวี้ก็ยังไม่สาย

นางพยายามระงับความคิดที่ปั่นป่วน และพูดกับเสี่ยวอานจื่อว่า “ไปพาจ้าวเอ๋อร์เข้ามาเถอะ ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เหนียงเหนียงไม่ต้องการเรียกหมอหลวง เสี่ยวอานจื่อก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนัก เขามาในด้านในเรือนและอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงที่กำลังเล่นกับไป๋เสวี่ยเข้ามา

เมื่อเห็นอินชิงเสวียนยกกระดานดำออกมา เสี่ยวหนานเฟิงก็นั่งบนเก้าอี้ไม้อย่างเชื่อฟังในทันที

“เข้าเรียนเรียน เรียนรู้รู้!”

อายุเขาแค่นี้คงไม่รู้ความลำบากในการเรียนหนังสือ จึงคิดว่าเสด็จแม่กำลังเล่นกับตัวเอง ทุกครั้งที่ได้ยินเสด็จแม่เรียก ก็นั่งรอบนเก้าอี้ด้วยอารมณ์ที่คึกคัก

บทเรียนที่อินชิงเสวียนสอนก็มีความสนุกสนานมากจริงๆ ประกอบกับมีรูปภาพหลากหลายชนิด และยังมีชอล์กหลากสี เสี่ยวหนานเฟิงจึงฟังอย่างออกรสออกชาติ มีปฏิสัมพันธ์เต็มเปี่ยม

เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กแค่นี้ อินชิงเสวียนก็แอบบ่นในใจ

หากรู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์แบบนี้ คงไปสมัครเป็นครูสอนเด็กเล็กแล้วล่ะ!

แต่เมื่อคิดดูอีกที นางก็คิดว่าตัวเองคงไม่มีความอดทนที่จะสอนลูกของคนอื่น ความสำคัญของเสี่ยวหนานเฟิงแตกต่างกัน เขาเป็นลูกของเจ้าของร่างเดิม นางต้องใส่ใจเขามากอยู่แล้ว จึงจะตอบแทนบุญคุณที่เจ้าของร่างเดิมปฏิบัติต่อคุณย่าอย่างดี

เพียงพริบตาเดียวก็ถึงเวลาเที่ยงวัน หลี่เต๋อฝูเข้ามาส่งข่าว บอกว่าฝ่าบาทต้องปรึกษากรมพิธีการเรื่องพิธีแต่งตั้งฮองเฮา จึงไม่มาเสวยมื้อเที่ยง

เมื่อหลี่เต๋อฝูออกไปแล้ว เสี่ยวหนานเฟิงก็ปีนขึ้นขาอินชิงเสวียน

“แม่สวยสวย ลูกอยากออกไปเล่น”

อินชิงเสวียนมองเสี่ยวหนานเฟิงด้วยความรักใคร่

“ได้สิ จ้าวเอ๋อร์อยากไปเล่นที่ไหน?”

เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กอ้วนท้วนออกมา และชี้ไปที่ด้านนอก

“บิน วู้ วู้~”

อินชิงเสวียนอุ้มก้นเล็กๆ ของเขาและถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “จ้าวเอ๋อร์อยากไปดูผีเสื้องั้นหรือ? ดูเหมือนตอนนี้จะไม่มีนะ”

เสี่ยวหนานเฟิงส่ายหน้า ชี้ไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง

“บินบิน~ บินบินให้สูงสูง~”

อินชิงเสวียนเข้าใจในทันที

“จ้าวเอ๋อร์อยากเล่นว่าวงั้นหรือ?”

เสี่ยวหนานเฟิงปรบมือเล็กที่อวบอ้วนด้วยความดีใจ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เล่นว่าวว่าว จ้าวเอ๋อร์อยากดูว่าวว่าว~”

“ได้สิ พวกเราไปหาเสด็จอาจของเจ้ากันดีกว่า ครั้งนี้พวกเราจะแลกว่างที่มีขนาดใหญ่มาก เสด็จอาของเจ้าก็ต้องชอบมากเช่นกัน”

เสี่ยวหนานเฟิงพูดตามด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย “ชอบชอบ!”

หลังจากมื้ออาหาร อินชิงเสวียนเข้ามิติเพื่อแลกว่าววงหนามที่มีขนาดความยาวสิบห้าเมตร ว่าวชิ้นนี้นับเป็นว่างที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด หากซื้อในยุคปัจจุบันน่าจะมีราคาถึงสองหมื่นหยวน แต่ในมิติใช้คะแนนสะสมเพียงยี่สิบคะแนนก็แลกมาได้แล้ว นับว่าคุ้มค่ามากจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์