สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 967

ฉางเฮิ่นเทียนก้มศีษะลง และพูดด้วยใบหน้าที่นอบน้อม “แม้เอาความกล้าทั้งสิบชาติของผู้เยาว์มารวมกัน ผู้เยาว์ก็ไม่อาจปิดบังผู้อาวุโสได้ขอรับ”

ผู้อาวุโสหันทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดว่า “ฮั่วเทียนเฉิงไปยังเป่ยไห่และหายไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้ข้าจึงต้องมาเชิญอินชิงเสวียนด้วยตัวเอง”

ฉางเฮิ่นเทียนถามลองเชิงว่า “ผู้อาวุโสไม่คิดจะพาเย่จิ่งอวี้ไปด้วยหรือขอรับ? ผู้อาวุโสของอิ๋นเฉิงเคยพูดว่า บางทีชายสกุลเย่อาจเป็นคนสำคัญในการเปิดวิถีแห่งสวรรค์”

ผู้อาวุโสหันเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

“หากเจ้าและเขามีความแค้นต่อกัน เจ้าก็ไปจัดการด้วยตัวเอง หากมีคนในอิ๋นเฉิงรู้เรื่องนี้จริง ทำไมพวกเขาไม่ไปตามหาด้วยตัวเองเล่า ต่อไปอย่าได้พูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้อีก”

ฉางเฮิ่นเทียนสั่นไปทั้งตัว

“ผู้อาวุโส... ของพวกเราพูดเช่นนี้จริงๆ ขอรับ ส่วนเรื่องอื่นๆ... ผู้เยาว์ก็ไม่อาจทราบได้”

เมื่อผู้อาวุโสหันจ้องหน้า ฉางเฮิ่นเทียนก็หุบปากในทันที

ขณะเดียวกันนั้น ร่างที่สวมชุดสีดำกฌเดินขึ้นไปบนชั้นสอง

พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “พนักงาน ข้าขอสั่งสุราหนึ่งไห”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย ผู้อาวุโสหันก็หันหน้ามาทันที ทันใดนั้นก็เห็นใบหน้าที่ยังคงมีเสน่ห์

คนคนนั้นก็มองเห็นเขาเช่นกัน แต่ยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับถูกสะกดจุดฝังเข็ม

“ฉุยอวี้ มองเห็นข้าแล้ว ทำไมยังไม่เข้ามาคารวะอีก!”

เสียงของผู้อาวุโสหันไม่ดังมากนัก ไม่นานก็จมหายไปท่ามกลางเสียงจอแจวุ่นวายของคนด้านใน แต่ยังคงลอยเข้าไปในหูของฉุยอวี้อย่างชัดเจน

นิ้วมือของนางสั่นเทาเล็กน้อย นางบินไปที่หน้าต่างและกระโดดลงไป

ผู้อาวุโสหันหัวเราะเบาๆ และนั่งไม่ขยับดังเดิม

เขาดื่มเหล้าจนหมดแก้วด้วยสีหน้าปกติ จึงพูดกับฉางเฮิ่นเทียนว่า “ไปคิดบัญชี”

ฉุยอวี้วิ่งกลับมาที่เรือนจุ้ยหงด้วยความตื่นตระหนก

“เฟิงอวิ๋นลี่ ข้าพบกับหันเถิง!”

เฟิงเอ้อร์เหนียงกำลังดีดลูกคิดอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ต้องตกใจ

“ท่านว่าอะไรนะ? ผู้อาวุโสหันมาจากยอดเขาบรรจบสวรรค์ง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร? ท่าน... ท่านไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?”

สีหน้าของฉุยอวี้แสดงความตื่นตกใจเป็นครั้งแรก

“ข้าจะมองผิดได้อย่างไร ต่อให้เขาเหลือเพียงเถ้าถ่านข้าก็จำได้ ด้วยวิทยายุทธ์ของเขา ไม่นานเขาต้องหาที่นี่เจอแน่ เจ้ารีบหนีไปยังทางลับ และเข้าวังไปหาชิงเสวียน!”

“คือว่า... วันนี้เป็นพิธีแต่งตั้งฮองเฮา ต่อให้ข้าไปก็ไม่อาจเข้าวังได้”

เฟิงอวิ๋นลี่ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาในทันที

“เช่นนั้นก็คิดหาวิธี ใช้เงินก็ดี ใช้ผู้หญิงก็ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องนำข่าวนี้ไปบอกนาง รีบไปซะ ก่อนที่จะไม่ทันการณ์”

ฉุยอวี้เปิดแผ่นเตียงที่อยู่ด้านหลังออก และโยนเฟิงอวิ๋นลี่เข้าไปโดยไม่พูดอะไรชักช้า

ขณะเดียวกันนั้น เสียงฝีเท้าก็ตรงเข้ามาจากด้านนอกประตู และประตูก็เปิดออกเสียงดังเอี๊ยด

ผู้อาวุโสหันยกชายชุดคลุมและเดินเข้ามาช้าๆ

“ฉุยอวี้ ทำไมเจ้าต้องวิ่งหนี บอกข้ามาว่าเฟิงอวิ๋นลี่อยู่ที่ใด พวกเจ้าใช้ชีวิตล่องลอยด้านนอกมานาน ถึงเวลากลับไปกับข้าแล้ว”

ใบหน้าของผู้อาวุโสหันมีรอยยิ้ม น้ำเสียงราวกับผู้อาวุโสใจดี แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเย็นยะเยือกจนไม่เห็นความอบอุ่นเลย

ฉุยอวี้รู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ข้า... ข้าไม่รู้”

ทันใดนั้นผู้อาวุโสหันก็ยกมือขึ้น ฉุยอวี้ถูกพลังมหาศาลดูดไปยังฝ่ามือของผู้อาวุโสหัน ลำคอติดอยู่ที่ปากเสือของเขาอย่างไม่เอนเอียง

ฉุยอวี้ที่เคยก่อตั้งสำนักเซียวเหยาด้วยมือตัวเอง กลับไร้เรี่ยวแรงต่อสู้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสหัน

“เช่นนั้นก็พาข้าไปตามหา...”

มือของผู้อาวุโสหันออกแรงเพียงเล็กน้อย ดวงตาของฉุยอวี้ถลนออกมา ด้านในลำคอมีเสียงดังแครกๆ

“ปล่อยข้า ข้า... ไม่รู้จริงๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์