เข้าสู่ระบบผ่าน

ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา นิยาย บท 6

“หากจวิ้นอ๋องต้องการหาคนรับใช้ พรุ่งนี้ข้าน้อยสามารถติดประกาศรับสมัครได้พ่ะย่ะค่ะ”

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สบตากัน ก่อนจะเอ่ยเสนอขึ้นมา

จวนใหญ่โตเช่นนี้ มีเพียงพวกเขาสองคนย่อมดูแลได้ไม่ทั่วถึง

จวนจวิ้นอ๋องที่กว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสาวใช้และบ่าวชายได้อย่างไร

ฉู่หนิงส่ายหน้า “ข้าต้องการผู้คุ้มกัน การเดินทางไปแนวหน้าครั้งนี้ อันตรายยิ่งนัก หากข้าไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของตัวเองได้ แล้วจะเอาชนะกองทัพศัตรูได้อย่างไร?”

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่พลันนิ่งเงียบไป

จวิ้นอ๋องอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง เสี่ยงอันตรายด้วยตนเอง หากไม่มีคนคอยคุ้มกันข้างกาย ย่อมตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

แม้ศึกครั้งนี้โอกาสชนะจะมีไม่มาก แต่จวิ้นอ๋องในฐานะองค์ชายกลับยินดีเดินทางไปแนวหน้าเพื่อบ้านเมือง รู้ทั้งรู้ว่าทำไม่ได้แต่ก็ยังจะทำ รู้ทั้งรู้ว่าศึกครั้งนี้ไปแล้วอาจไม่ได้กลับมา แต่ก็ยังมุ่งหน้าสู่สนามรบอย่างไม่ลังเล!

ในเมื่อสายเลือดราชวงศ์ยังทำได้ถึงเพียงนี้ แล้วพวกเขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?

สีหน้าของกวนอวิ๋นพลันจริงจังขึ้น ประสานมือแล้วกล่าวเสียงทุ้ม “จวิ้นอ๋องเข้าใจในหลักการอันยิ่งใหญ่ กวนผู้นี้ยินดีติดตามท่านอ๋องเพื่อรับใช้บ้านเมือง!”

“หากท่านอ๋องไม่รังเกียจ กวนผู้นี้ยินดีจะเรียกสหายร่วมรบในอดีตมาเพื่อรับใช้ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

การรับใช้ฉู่หนิง ก็คือการรับใช้บ้านเมือง

ศึกในครั้งนั้น ต้าฉู่พ่ายแพ้ มีเพียงไม่กี่ร้อยคนที่กลับมาได้ แต่กลับถูกผู้คนก่นด่า ในที่สุดคนส่วนใหญ่ก็ปลีกตัวไป มีเพียงเขาและจ้าวอวี่ที่ถูกเรียกตัวเข้าเป็นทหารรักษาพระองค์เพราะมีวรยุทธ์โดดเด่น

แต่ความอัปยศจากศึกครั้งนั้น ยังคงเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจปล่อยวางได้มาโดยตลอด

พวกเขาอยากจะกลับไปที่แนวหน้าอีกครั้ง เพื่อล้างความอัปยศ แม้จะต้องหลั่งเลือดในสนามรบ ห่อศพด้วยหนังม้าก็ตาม!

ในขณะนั้น จ้าวอวี่ก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านอ๋องไม่ทรงห่วงใยในความปลอดภัยของตนเอง ข้าน้อยซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง และยินดีติดตามท่านไปยังแนวหน้าเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”

องค์ชายยังไม่กลัวตาย แล้วเขาจะกลัวอะไรอีก?

อย่างมากก็แค่ตาย!

ในฐานะทหาร การพลีชีพในสนามรบคือเกียรติยศสูงสุด!

ฉู่หนิงยื่นมือออกไปพยุงทั้งสองคนขึ้น “ทั้งสองคนมิต้องทำเช่นนี้ พวกเจ้าไปแจ้งข่าวให้คนอื่น ๆ มาที่นี่ในเช้าวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเขาก็คือผู้คุ้มกันของข้า!”

กวนอวิ๋นถึงกับตะลึง “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องพบพวกเขาก่อนแล้วค่อยตัดสินใจหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“ไม่จำเป็น!”

ฉู่หนิงโบกมือแล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าเชื่อใจพวกเจ้า ก็ย่อมเชื่อใจสหายของพวกเจ้าเช่นกัน”

กล่าวจบ ฉู่หนิงก็หันหลังกลับเข้าห้องไปพักผ่อน

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่ทั้งสองคนซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

เพียงเพราะเชื่อใจพวกเขา ฉู่หนิงจึงรับสหายของพวกเขาทั้งสองคนมา เพียงแค่ความไว้วางใจนี้ พวกเขาก็ยอมรับฉู่หนิงเป็นนายแล้ว

“ท่านอ๋องช่างเป็นคนตรงไปตรงมานัก!”

“พวกเราจะทำให้ท่านอ๋องผิดหวังไม่ได้ รีบไปแจ้งข่าวให้คนอื่น ๆ เถอะ!”

ทั้งสองคนไม่ใช่คนพูดมาก หลังจากปรึกษากันแล้ว ก็รีบออกไปแจ้งข่าวแก่สหายคนอื่น ๆ ในคืนนั้นทันที

หนึ่งชั่วยามต่อมา ภายในพระราชวัง

ฮ่องเต้กำลังทอดพระเนตรป้ายชื่อสีเขียว พลางครุ่นคิดว่าคืนนี้จะให้สนมคนใดถวายการรับใช้ดี

ขณะนี้ องครักษ์เงาก็เข้ามารายงานอย่างเงียบ ๆ “ฝ่าบาท กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่ทั้งสองคนกำลังรวบรวมพรรคพวกเก่าของพวกเขาพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้เลิกคิ้วขึ้น ในดวงพระเนตรที่มองลงมายังใต้หล้านั้นฉายแววเฉียบคมที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น

“รวบรวมพรรคพวกเก่าหรือ? พวกเขาสองคนคิดจะทำอะไร?”

อารมณ์ที่จะเลือกสนมถวายการรับใช้หายไปในทันที วางป้ายชื่อกลับไปที่ถาด

องครักษ์เงาก้มหน้าตอบเสียงเบา “จ้าวอวี่ส่งข่าวมาว่า เผิงไหลจวิ้นอ๋องต้องการจัดตั้งกองกำลังคุ้มกัน เพื่อรับมือกับวิกฤตที่แนวหน้าพ่ะย่ะค่ะ”

กองกำลังคุ้มกันหรือ?

เจ้าฉู่หนิงนี่ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่า การไปแนวหน้าครั้งนี้มีโอกาสตายมากกว่ารอดมากนัก ต่อให้มีกองกำลังคุ้มกัน ก็เป็นเพียงการเพิ่มวิญญาณอีกไม่กี่สิบดวงเท่านั้น

จัดตั้งกองกำลังคุ้มกัน สู้ทูลขอปฏิเสธไม่ไปแนวหน้าเสียยังจะดีกว่า

เมื่อนึกถึงใบหน้าของฉู่หนิงที่คล้ายคลึงกับตนเองอยู่หลายส่วน ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย

เดิมทีก็ไม่มีบุญคุณในการเลี้ยงดูฉู่หนิงอยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะให้ฉู่หนิงไปตายอีก!

“เฮ้อ ช่างเถอะ ก็แค่กองกำลังคุ้มกันเองนี่ ปล่อยเขาไปเถอะ”

ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เขาจะรวบรวมได้เท่าไรก็เท่านั้น”

อย่างไรเสียก็จะไปตายที่แนวหน้าอยู่แล้ว คงไม่มีใครยอมเป็นผู้คุ้มกันให้ฉู่หนิงหรอก

“จวิ้นอ๋อง อย่าได้ลดเกียรติเพื่อพวกเราเลยพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวอวี่รีบคารวะตอบ

ทุกคนก็คารวะตอบพร้อมกับจ้าวอวี่

ฉู่หนิงยื่นมือพยุงจ้าวอวี่ขึ้น กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ทุกท่านล้วนเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อแคว้นฉู่ของข้า การคารวะครั้งนี้คือความเคารพนับถือที่ข้ามีต่อทุกท่าน!”

“วิกฤตที่แนวหน้าครั้งนี้ ทุกท่านสามารถยืนหยัดขึ้นมาในยามนี้ได้ การคารวะครั้งนี้ ทุกท่านคู่ควรที่จะรับไว้!”

“ข้าฉู่หนิงแม้จะไม่มีความสามารถอะไรมากนัก แต่ก็ยินดีที่จะรับใช้บ้านเมือง ต่อไปนี้หากข้าฉู่หนิงมีข้าวกิน ก็จะไม่มีวันทำให้ทุกท่านต้องลำบากแน่นอน!”

เหล่าทหารผ่านศึกต่างน้ำตาคลอเบ้าในทันที

ศึกในครั้งนั้น แม้พวกเขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงสหายที่ตายในสนามรบก็จะรู้สึกผิดอย่างยิ่ง

ประกอบกับความไม่เข้าใจของประชาชน ทำให้พวกเขาถูกเยาะเย้ยถากถางมาตลอดหลายปี

แต่วันนี้ องค์ชายฉู่หนิงได้มาทวงคืนชื่อเสียงให้พวกเขา!

พวกเขาสามารถกลับสู่สนามรบได้!

ครั้งนี้ พวกเขาจะต้องทวงคืนเกียรติยศที่เป็นของตนเองกลับมาให้ได้

แม้จะต้องพลีชีพในสนามรบก็ไม่เสียดาย

“พวกเรายินดีติดตามจวิ้นอ๋องไปจนตัวตาย!”

แม้จะรู้ว่าฉู่หนิงไม่มีอำนาจ ไม่สามารถนำเกียรติยศและความมั่งคั่งมาให้พวกเขาได้ และรู้ว่าการไปแนวหน้าครั้งนี้จะมีโอกาสตายมากกว่ารอดมากนัก

แต่พวกเขา ไม่มีใครเสียใจแม้แต่คนเดียว!

เพราะ พวกเขาคือทหารผ่านศึก คือทหารผ่านศึกของแคว้นฉู่

การไปครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อปกป้องฉู่หนิง แต่ยังเพื่อทวงคืนชื่อเสียงของตนเองด้วย

ฉู่หนิงมองทุกคนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น บนใบหน้าก็เผยความพึงพอใจออกมา

แม้จะมีเพียงสามสิบกว่าคน แต่ก็ค่อย ๆ สะสมเพิ่มขึ้นได้นี่นา

“ในเมื่อเป็นผู้คุ้มกันแล้ว ข้าก็จะไม่ทำให้ทุกท่านต้องลำบาก เสด็จพี่มอบร้านตีเหล็กสองแห่งให้ข้าพอดี ทุกท่านตามข้าไปตีอาวุธที่ถนัดมือสักสองสามชิ้นเถอะ!”

ฉู่หนิงโบกมือครั้งใหญ่ นำทุกคนมุ่งหน้าไปยังร้านตีเหล็ก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา