ท่าเรือ
เรือบรรทุกสินค้าขนาดเล็กที่มีโลโก้ของตระกูลยามาชิตะจอดอยู่ที่นี่
หลังจากคนทั้งห้าลงจากรถ พวกเขาเดินไปที่ท่าเรือตามคำแนะนำของท่านผู้อาวุโส เมื่อพวกเขาไปถึง ก็มีคนมาต้อนรับพวกเขาทันที "ผู้อาวุโสสาม ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ตามความต้องการของคุณแล้ว และน้ำมันบนเรือบรรทุกสินค้าก็เพียงพอสำหรับพวกคุณเดินทางจากโวกั๋วไป-กลับประเทศหนานเยว่ได้สามรอบ!"
"ดีมาก" ท่านผู้อาวุโสตบไหล่แล้วกล่าว
"ผมแค่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อาวุโสเท่านั้น" การได้รับคำชมจากผู้ท่านผู้อาวุโส ทำให้ชายผู้นี้รู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความโปรดปรานอย่างคาดไม่ถึง เขาโค้งตัวลงและพยักหน้า
"ผมจำได้ว่าท่าเรือที่นี่มีร้านค้าอยู่ไม่น้อย ถ้าพวกคุณต้องการสิ่งใดก็ไปเลือกเอาได้ ถ้าพวกคุณไม่ต้องการ พวกเราจะขึ้นเรือและเตรียมตัวออกเดินทาง" หลังจากชายคนนั้นจากไป ท่านผู้อาวุโสกล่าวกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม
"เฉินเกอไม่ให้พวกเราใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยอย่างแน่นอน!" ไป๋เสี่ยวเฟยอยากจะไปซื้อขนม แต่เมื่อรู้ว่าเฉินเกอไม่ชอบกินของพวกนั้น เขาก็บ่นเล็กน้อย
"เสียเงิน? ใครบอกว่าจะให้พวกคุณเสียเงิน?" ท่านผู้อาวุโสยิ้มกว้างขึ้น
"หมายความว่าอย่างไร?" ไป๋เสี่ยวเฟยลูบศีรษะของตนเอง
"ท่าเรือของโวกั๋วแห่งนี้ เป็นหนึ่งในทรัพย์สินของตระกูลยามาชิตะ เมื่อคืนผมได้แจ้งทางร้านค้าไว้แล้ว พวกคุณสามารถเลือกของทุกร้านได้ตามความต้องการ ตราบใดที่เรือสามารถรองรับได้ พวกคุณก็สามารถนำของทุกอย่างไปได้" ท่านผู้อาวุโสชี้ร้านค้าที่เปิดอยู่รอบ ๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ของกินและเครื่องดื่มไม่จำเป็นต้องนำขึ้นไปบนเรือ ผมคิดว่าบนเรือน่าจะมีการจัดเตรียมไว้แล้ว สิ่งที่ควรนำไปด้วยคือเสื้อผ้า คราวนี้ไม่เพียงแต่ไปประเทศหนานเยว่เท่านั้น แต่ยังต้องไปที่เกาะโยวหลงด้วย ซึ่งเกาะนี้ไม่ใช่ว่าวันสองวันก็จะสามารถหาพบได้ เมื่อถึงตอนนั้นจะได้ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าที่เหม็น"
เฉินเกอคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าว
ไปคราวนี้ก็เพื่อจะไปช่วยพ่อแม่และพี่สาวออกมา บางทีอาจจะได้ข่าวของไท่หยางเหมิงอีกด้วย เมื่อได้เห็นคนในครอบครัว ควรต้องแต่งตัวสะอาดสะอ้าน การที่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นเมื่อเจอพี่สาวแล้ว จะต้องโดนพี่สาวดุที่ตนเองไม่สนใจในเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างแน่นอน
เฉินเกอจำได้ว่าสมัยเป็นเด็กตอนที่เขาไปเล่นในบ่อโคลน ทุกครั้งที่เขากลับบ้าน เขาจะถูกพี่สาวดึงหูและโยนเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์พวกนั้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเฉินเกอ
"บนเรือมีอาหารและน้ำดื่มที่เพียงพอ พวกคุณไปเลือกเสื้อผ้าเถอะ บอกร้านค้าว่าผู้อาวุโสสามให้พวกคุณไป" ท่านผู้อาวุโสโบกมือ หลังจากกล่าวจบ เขาก็กระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้าโดยตรง
"โอ๊ย!"
เมื่อเห็นทักษะฝีมือของท่านผู้อาวุโส ไป๋เสี่ยวเฟยและทาตายุ รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
ความสูงห้าเมตร แม้แต่ราชันทหารอย่างพวกเขาอาจไม่สามารถทำได้ แต่เห็นได้ชัดว่าตอนที่ท่านผู้อาวุโสกระโดดขึ้นไปนั้นง่ายดายมาก เหมือนกับการกระโดดไปบนเก้าอี้
เฉินเกอไม่ได้เดินตามพวกเขา แต่เดินไปร้านขายเสื้อผ้าที่ใกล้ที่สุด จากนั้นเลือกเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นแล้วเดินกลับขึ้นไปบนเรือ
ในห้องโดยสาร ท่านผู้อาวุโสกำลังนั่งดื่มชาบนดาดฟ้า เมื่อเห็นเฉินเกอเดินเข้ามา เขาก็หยิบถ้วยใหม่และรินชาให้เฉินเกอ
"ท่านผู้อาวุโส ผมยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย" เฉินเกอวางเสื้อผ้าไว้ด้านข้าง แล้วกล่าวถามขณะที่นั่งอยู่ตรงหน้าท่านผู้อาวุโส
"แค่ชื่อเท่านั้น คุณเรียกผมว่าท่านโจวเถอะ" ท่านผู้อาวุโสโบกมือราวกับไม่ใส่ใจชื่อขอบตนเอง นับเวลาแล้วเขาไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตนเองมาหลายสิบปีแล้ว สำหรับเขาแล้ว ชื่อเป็นเพียงนามที่ไม่มีความหมายอะไร
"ท่านโจว" เฉินเกอพยักหน้า และจำชื่อของเขาเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...