"ถ้าอย่างนั้นนายก็ได้แต่หามันต่อไปเท่านั้น ฉันเองก็บังเอิญไม่ได้เจอใครมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว นายอยู่เป็นเพื่อนคุยฉันแล้วกัน" ชายชราอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
"เมื่อกี้นี้คุณไม่ได้ออกไปซื้อของมาหรอกหรือ?" เฉินเกอมองดูขยะที่เขาเพิ่งเก็บกวาดขึ้นมา
"นี่ไม่เหมือนกันสักหน่อย ถ้าวันนี้นายไม่อยู่ที่นี่ ฉันก็จะไม่ออกไปข้างนอก ก่อนหน้านี้ฉันเคยออกไปเดินเล่นๆสัปดาห์ละครั้ง เอาแต่อยู่ในห้องศิลานี่ คงต้องเป็นบ้าเข้าสักวันไม่ช้าก็เร็ว"
ชายชราหันกลับมาพูดต่อ "เมื่อสองสามปีก่อน ยังพอมีบางคนที่คิดจะบุกเข้ามาบ้างและพอได้แกล้งพวกเขาหาความสนุกได้ แต่ตอนนี้กลับไม่เคยเจออีกเลย"
"แกล้งพวกเขา?"
เฉินเกอมองขึ้นไปที่ปากถ้ำและเห็นโครงกระดูกจำนวนมากบนพื้น นั้น จนทำให้เขารู้สึกทันใดว่ามีลมเย็นพัดผ่านที่ด้านหลัง
"อดแกล้งไม่ได้" ชายชราส่ายหัว
"อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการของหนานเยว่เองก็เคยเข้ามาที่นี่ไม่ใช่หรือ ตอนนั้นผมตามหลังเขามาถึงได้มาที่นี่ได้" จู่ๆ เฉินเกอก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นและพูดขึ้น
"เขาก็แค่ยืนอยู่ที่ปากถ้ำเท่านั้นเอง ตามเนื้อผ้าแล้วนอกจากผู้ที่มีพลังเทพจิตเก้าภพ คนอื่นล้วนไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ทั้งนั้น นี่เป็นกฎที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ" ชายชราหันกลับมามองเฉินเกออีกครั้ง
"ดูเหมือนว่าต้องขอบคุณเทพจิตเก้าภพในตัวของผมแล้ว ไม่อย่างนั้นเกรงว่าผมคงต้องอยู่ที่นี่" เฉินเกอชี้ไปที่กองกระดูกยังปากถ้ำและพูดด้วยความกริ่งเกรงอยู่บ้าง
"ก็ไม่แน่ ด้วยความแข็งแกร่งของนาย หากคิดจะบุกเข้ามาให้ได้ ฉันเองก็ห้ามนายไม่อยู่ บางทีนายอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วหนีไปล่ะมั้ง" ชายชรามองเฉินเกออย่างประเมินและเอ่ยขึ้น
"บาดเจ็บสาหัส..." เฉินเกอรู้สึกว่ายิ่งชายชราพูดมากเท่าไหร่เรื่องก็ยิ่งออกไปไกลเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงหยุดพูดตอบ
"อ้อใช่ ผู้อาวุโส ผมยังมีคำถามอีกข้อ" เฉินเกอต้องการสูบบุหรี่ เมื่อมือแตะกระเป๋าจู่ๆเขาก็เข้าที่ภาพไห่ซินดังนั้นเขาจึงรีบเอ่ยปากพูดขึ้น
"ถามมาเถอะ" ชายชรากล่าวอย่างเรียบๆ
"ภาพไห่ซินนี้" เฉินเกอหยิบภาพไห่ซินออกมา จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าชายชรา "ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นเกาะโยวหลงจากภาพไห่ซิน แต่มันเคลื่อนไหวตลอดเวลา และกินเวลาไม่ถึงนาทีก็หายไป หลังจากนั้น ผมก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย"
"นายอยากถามฉันว่า นี่เกิดอะไรขึ้น อีกทั้งยังอยากถามว่าต้องทำอย่างไรให้ภาพไห่ซินปรากฏเกาะโยวหลงขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ระบุตำแหน่งของเกาะจากแผนที่นี้ หากสามารถหาวิธีที่จะขึ้นเกาะได้ด้วยก็จะยิ่งดี?"
ชายชราเหลือบดูภาพไห่ซินอยู่สองรอบ จากนั้นก็โยนทิ้งไปทางหนึ่ง
"ถูกต้อง!" เมื่อได้ยินชายชราเอ่ยสิ่งที่ตัวเองคิดในใจออกมา เฉินเกอก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้นแล้วรอคอยอย่างเงียบ ๆ
"ฉันไม่รู้" ใครจะคาดคิดว่า คำพูดที่ออกจากปากของชายชรากลับทำให้เฉินเกอรู้สึกหดหู่อย่างมาก
"ผมคิดว่าคุณรู้ซะอีก" เฉินเกอเก็บภาพไห่ซินกลับมา จากนั้นก็ใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
"ฉันเป็นแค่คนเฝ้ารักษาที่นี่เท่านั้น ไม่ใช่สารานุกรมสักหน่อย จะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร" ชายชราลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็หยิบกล่องเหล็กออกมาจากข้างเตียง
เขาหยิบกระดาษบุหรี่ออกมา จากนั้นก็ใส่ยาสูบที่หั่นแล้วหนึ่งกำมือลงไป หลังจากม้วนขึ้นและปิดมันด้วยน้ำลายแล้วก็คาบไว้ที่ปาก "มีไฟไหม?"
"มีครับ" เฉินเกอหยิบไฟแช็กออกมาและจุดบุหรี่ให้กับชายชรา ตัวเขาเองก็สืบอยู่ด้วยเช่นกัน
"ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ แต่เมื่อฟังจากสิ่งที่นายพูด ฉันรู้สึกว่าเกาะโยวหลงนี้ไม่ใช่ที่ธรรมดาๆ อีกทั้งยังต้องหายากอย่างยิ่ง ไม่รู้จริงๆ ว่าปู่ของนายไปค้นพบมันได้อย่างไร" ชายชราสูบบุหรี่และพูดออกมาทีละประโยคๆ
"ถ้าผมรู้ก็คงจะดีสิ" เฉินเกอพ่นควันออกมาและพูดช้าๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...