ยิ่งกว่านั้นในห้องและคุกก็ยังมีประตูเหล็กหนาชั้น จนแสงไม่สามารถส่องผ่านมาได้
"นายว่า เพียงเพราะผู้หญิงคนนั้น คนที่ถูกขังที่นี่ทั้งหมดถึงได้ถูกย้ายออกไป คุ้มแล้วหรือ?" เมื่อเขาขึ้นมา ชายในชุดเครื่องแบบของหน่วยรบหนานเยว่ก็ถามขึ้น
ทั้งสองล้วนเป็นทหารของหน่วยรบ พวกเขาได้รับคำสั่งให้ปกป้องเหลียงลู่อยู่ที่นี่ หนึ่งในนั้นเป็นหัวหน้าทีมเล็กๆ ของหน่วยรบ ส่วนอีกคนคือสมาชิกในทีมของเขา
"อย่าถามมั่วซั่ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราควรรู้ ในเมื่อเบื้องบนมอบหมายภารกิจนี้ให้เราแล้ว พวกเราก็แค่ทำตามคำสั่งก็พอ ระวังจะเกิดปัญหา!" คนที่เพิ่งขึ้นมาจากคุกเป็นหัวหน้าทีม เมื่อเได้ยินคำพูดของสมาชิกในทีม เขาก็รีบตะโกนใส่เสียงต่ำ
"ที่นี่มีแค่เราสองคน อีกทั้งผมเองก็แค่บ่นกับหัวหน้าเท่านั้นเอง ผมจะไปพูดเรื่องพวกนี้กับคนอื่นได้อย่างไรกัน" หลังจากอยู่ที่นี่มาสองวัน สมาชิกในทีมก็รู้สึกเบื่อหน่ายอย่างมาก
เว้นเสียแต่คนขับรถที่มาส่งอาหารและน้ำดื่มตรงเวลาทุกเช้า เขาก็ไม่เห็นใครเลยตลอดทั้งวัน แม้แต่เสียงอื่นๆก็ไม่ได้ยิน
"ถึงอย่างนั้นก็พูดจาไร้สาระไม่ได้ เท่าที่ฉันรู้ เรื่องนี้สำคัญมาก ภารกิจของเราเป็นภารกิจลับของหน่วยรบ ถ้าหากนายไม่กลัวตาย ก็สามารถพูดถึงเรื่องนี้ต่อไปได้ แต่ถ้าเจอเรื่องยุ่งยากอะไรขึ้นมาอย่าลากฉันไปด้วยก็พอ"
เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าทีมไม่กล้าพูดอะไรอีก เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดลงกะทันหัน
สมาชิกในทีมเองก็ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน
แต่ไม่คาดคิดว่า เมื่อพวกเขาเพิ่งจะพูดจบ จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งเข้ามาจอดอยู่ด้านนอก
"จำไว้ว่าห้ามพูดจาไร้สาระ นายอยากตาย แต่ฉันไม่อยากตาย!" หลังจากที่หัวหน้าทีมเอ่ยกระซิบเสียงเบา เขาก็วิ่งเหยาะๆ เพื่อเปิดประตู
"รับทราบ" สมาชิกในทีมพยักหน้าและรีบเคลียร์โต๊ะตรงหน้าพวกเขา
ยังไม่ทันที่หัวหน้าทีมจะได้เปิดประตู ประตูก็ถูกผลักเปิดออกก่อน ชายวัยกลางคนสวมปลอกแขนระดับอาวุโสของหน่วยรบหนานเยว่ก็เข้ามา ข้างหลังเขายังมีทหารถือปืนอีกสี่นาย
"มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?" เมื่อเข้ามา ชายวัยกลางคนก็เอ่ยถาม
"ไม่ ตั้งแต่ที่ถูกจับมาขังอยู่ที่นี่ เธอก็อยู่ในนั้นอย่างว่าง่าย ขณะที่ส่งอาหารผมก็ได้ทำตามที่คุณกำชับเป็นพิเศษ พูดเป็นภาษาหัวเซี่ยกับเธอ ตอนนี้เธอยังคงสงสัยว่าตนเองอยู่ในหนานเยว่หรือหัวเซี่ย" หัวหน้าทีมยืนตรงและเอ่ยขึ้น
"ทำได้ไม่เลว รอให้เรื่องนี้จบแล้ว ฉันจะเลื่อนตำแหน่งให้พวกนาย!" ชายวัยกลางคนตบไหล่เขาด้วยความพอใจ
หากสังเกตดีๆ จะพบว่าชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ทะเลที่รายงานต่อลู่เฉิงคุนว่าเฉินเกอมาถึงน่านน้ำของหนานเยว่และต้องการส่งกองเรือไปทำลายล้าง
นับตั้งแต่เขารู้สึกว่าลู่เฉิงคุนไม่ได้ทำอะไรเลยหลังจากที่ได้ขึ้นเป็นผู้นำ เขาจึงตัดสินใจที่จะจัดการเอาเองอย่างลับๆ รอให้เขาทำทุกอย่างสำเร็จเมื่อไหร่ เขาก็จะสามารถเข้าแทนที่ลู่เฉิงคุนและกลายเป็นผู้บัญชาการคนใหม่ของหนานเยว่ได้
อีกทั้งเขาก็เชื่อว่า หลังจากที่เขาพูดถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดที่ตนได้ทำไปขึ้นมา ทั้งหน่วยรบก็จะสนับสนุนเขาเช่นกัน
"ขอบคุณครับหัวหน้า!" หัวหน้าทีมและสมาชิกในทีมพูดพร้อมกัน
"วันนี้มาหาพวกนายที่นี่ ไม่ใช่แค่เพื่อดูสถานการณ์เท่านั้น แต่ยังต้องบอกพวกนายสักหน่อยว่า ตั้งแต่วันนี้ไป ไม่ใช่แค่พวกนายสองคนที่จะอยู่ที่นี่ ฉันจะส่งทีมเล็กพร้อมอาวุธปืนจากหน่วยรบมาด้วยในทุกวัน" ชายวัยกลางคนชะงักไปและพูดต่อ
"มีอันตรายอะไรงั้นหรือครับ?" เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งสองคนก็กลัวอยู่บ้างและถามขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ตอนนี้ยังไม่มี" ชายวัยกลางคนปฏิเสธ
อันที่จริง สาเหตุที่เขาทำแบบนี้นั้นง่ายดายมาก เขาลักพาตัวเหลียงลู่มาก็เพราะเมื่อเฉินเกอออกจากหนานเยว่ไปในก่อนหน้านี้ เขาได้ส่งคนในหัวเซี่ยไปจับตาดูตระกูลเหลียงเอาไว้ เมื่อเขาเห็นเหลียงลู่จากไป เขาก็ติดตามไปด้วยและถือโอกาสลักพาตัวเธอขณะมาถึงหนานเยว่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...