“นี่ๆๆ ฉันถามพวกนายสามคนอยู่นะ? พวกนายสามคนมาทำอะไรกัน? มากินข้าวที่นี่เหรอ? หึๆๆ แถมยังพาเด็กสาวสามคนมาด้วย!”
ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว หลินเจียวในตอนนี้เปลี่ยนไปมากเหลือเกินจริงๆ
ใส่เสื้อผ้ายี่ห้อดังทั้งตัวอย่างไม่ต้องบอก ตั้งแต่ถูกจ้าวชานรับเป็นน้องสาวบุญธรรม สถานะตำแหน่งดั่งน้ำขึ้นเรือย่อมสูงด้วย
ได้ยินสวีเสียบอกแบบนั้น สายตาหลินเจียวในตอนนี้ก็มีเพียงจ้าวยีฟานคนเดียวแล้ว
คนอื่นๆ หล่อนล้วนไม่สนใจ
มักคิดว่าตัวหล่อนเองกับคนอื่นๆ เดิมทีไม่ใช่คนโลกเดียวกัน
สรุปแล้วบ้าคลั่งเป็นพิเศษ ในสายตาไม่สนใครเป็นพิเศษ
ช่วยไม่ได้ คนอื่นเขามีพี่ชายแสนดี และคอยซื้อเสื้อผ้าซื้อกระเป๋าให้
หลี่ปินฟังคำถามของหลินเจียวอยู่
พลางดึงมุมเสื้ออย่างประหม่าอยู่บ้าง หลินเจียวคนนี้เมื่อก่อนยังเคยสัมผัสมาไม่น้อย หล่อนรู้จักตื้นลึกหนาบางของตัวเขาเป็นอย่างดี
ไอ้เวร อึดอัดจริงๆ เลย!
“พวกเรามากินข้าวกันเถอะ ไม่ต้องคุยกันแล้ว พวกเราขึ้นไปก่อนนะ”
เฉินเกอไม่อยากคุยต่อนาน โดยเฉพาะเฉินเกอมองดูแล้ว วันนี้คนที่มากินข้าวกับหลินเจียวนั้น ไม่ใช่ลูกน้องคนนั้นของจ้าวชานเหรอ ตอนนั้นที่มามหาวิทยาลัย ซูเจี๋ยคนนั้นที่ใช้รถหมุนตนเองไปกองที่พื้น?
ว่ากันตามที่สังเกตโดยทั่วไป ซูเจี๋ยคนนี้น่าจะเป็นผู้ติดตามของจ้าวชานที่ชอบหาเรื่องมากคนหนึ่ง
เห็นหลินเจียวอยู่ใกล้กับเขาเป็นพิเศษ ทั้งสองคนคงไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบคู่รักหรอกมั้ง?
เฉินเกอจะกลัวซูเจี๋ยได้อย่างไรกัน เพียงแต่เป็นเพราะเห็นได้ชัดว่าตัวหลักในวันนี้เป็นหลี่ปินไม่ใช่ตนเอง ดังนั้นจึงไม่อยากหาเรื่องมากเท่านั้นเอง
“หึๆ นามสกุลเฉิน นายหยุดเลยนะ!”
แต่ทว่าหลินเจียวก็มองเฉินเกอด้วยท่าทางหงุดหงิดเต็มที่
ตอนนี้หล่อนไม่เรียกชื่อของเฉินเกอแล้ว เพราะเฉินเกอไม่คู่ควรให้หล่อนเรียกเขา
หึๆ เมื่อก่อนนายเฉินเกอเก่งนักนะ! ช่างเก่งเหลือเกิน
หากไม่รู้คงยังคิดว่านายเป็นคุณชายเฉินอยู่ล่ะ เก่งกาจได้แค่ไหนก็เก่งกาจได้แค่นั้น
ฉันหลินเจียวเคยชอบนายจริง แม้กระทั่งมีวันหนึ่งยังไม่เสียดายที่จะล้มแนบบนเตียงไปกับนายทันที
แต่นายนามสกุลเฉินไงล่ะ?
นายยอดเยี่ยมจนถึงขั้นไม่เคยเห็นฉันหลินเจียวในสายตา
ยังจำช่วงก่อนหน้านี้ได้ดี นายอยู่ที่สาขาวิทยุกระจายเสียงตามจีบจ้าวยีฟานเหรอ? ทั้งที่ที่นายก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย แต่นายยังไม่สนใจฉันอีก!
หลินเจียวเกลียด เกลียดจนมันเขี้ยว
ตอนนี้หล่อนน่ะเหรอ โอกาสมาโชคชะตาเปลี่ยน กลายเป็นน้องสาวของคุณชายจ้าว ซูเจี๋ยเพื่อนรักของคุณชายจ้าวก็มีความรู้สึกต่อหล่อนอยู่บ้าง ตอนนี้ความสัมพันธ์ทั้งสองจึงคลุมเครือมาก
พวกเขามีตรงไหนที่แกร่งเทียบกับนายเฉินเกอไม่ได้บ้าง?
ดังนั้นหลินเจียวไม่ได้พุ่งเป้าใส่ใคร จะพุ่งเป้าที่เฉินเกอเพียงผู้เดียว!
“นามสกุลเฉิน เมื่อก่อนนายไม่ได้เก่งมากเหรอ? ตอนนี้คุณชายจ้าวมาแล้ว ทำไมนายไม่เก่งแล้วล่ะ?”
หลินเจียวกอดอกยิ้มถาม
“อีกอย่างหลายวันก่อนที่โรงอาหาร ไม่ใช่กินข้าวด้วยกันกับซูมู่หานเหรอ? ตอนนี้ล่ะ ทำไมถึงมากับผู้หญิงสองสามคนนี้แล้ว?”
“นี่ๆๆ เธอเป็นใคร เธอเพ้อเจ้ออะไร อะไรเรียกว่าพวกฉันมากับเขา พวกฉันเป็นเพื่อนสนิทของแฟนคุณชายหลี่!”
เวลานี้ หลินเยว่กลับทำหน้าเย็นชาโต้กลับ
พูดตามจริงหลินเยว่ยังดูถูกเฉินเกอที่แต่งตัวไม่มีระดับอะไรอยู่บ้าง
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นลูกน้องของหลี่ปิน หลินเยว่คงไม่คิดจะมองเขา
ดังนั้นตอนนี้พอได้ยินหลินเจียวพูดว่าตนเองกับลูกน้องที่ชื่อเฉินเกอมาด้วยกัน จึงอดจะตอบโต้กลับไปไม่ได้
ประเด็นคือมองหลินเจียวที่โวยวายแล้วไม่ถูกชะตา
“หืม? คุณชายหลี่? คุณชายหลี่คนไหน?”
เวลานี้หลินเจียวขมวดคิ้วถาม
“หลี่ปิน คุณชายหลี่ยังไงล่ะ?”
หลินเยว่กับหลินเจียวนั้น ถือว่าวางมวยกันแล้ว
และคำพูดนี้ทำให้เฉินเกอกับหลี่ปินต่างลูบหน้าผากอย่างจิตใจห่อเหี่ยว
ทำไมถึงรีบชวนไปที่ห้องอาหารกัน ไม่ใช่เพราะกลัวจะคุยมาถึงขั้นนี้เหรอ
จากนั้นยังกลัวจริงๆ ว่าอะไรๆ จะออกมา
“ฮ่าๆๆๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...