เฉินเกอมีความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ต่อจ้าวยีฟาน
แม้ว่าเธอจะเป็นคนสวยมากและอารมณ์ดี
แต่เธอเป็นคนประเภทดูถูกคนจนชอบคนรวยไปหน่อยจึงทำให้เฉินเกอรู้สึกอึดอัด
ไม่รู้ว่าเสี่ยวหนานกำลังคิดอะไรอยู่ถึงอยากให้ทั้งสองสนิทสนมกัน
ดังนั้นเฉินเกอจึงไม่อยากไปเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดแบบนั้น
แต่ก็ไม่สามารถหยุดการคะยั้นคะยอของหยางฮุยได้
เพราะไม่อยากขัดความสุขของเพื่อนจึงตอบตกลงไป
สถานที่นัดหมายคือร้านอาหารตะวันตกที่มีชื่อว่าซิงหุย
แน่นอนว่าหยางฮุยไม่สามารถไปโรงแรมห้าดาวใดๆเหมือนอย่างทายาทเศรษฐีอย่างสวี่ตงและลู่หยาง
การออกไปทานอาหารคราวนี้ คนที่มาก็มีจ้าวยีฟาน สวีเสียและสาวๆที่หอพักรวมเป็นหกคน
ทั้งหกคนในหอพักของเฉินเกอและหม่าเสี่ยวหนาน
เฉินเกอไม่ได้ออกไปพร้อมกันกับหยางฮุยและคนอื่นๆเพราะเขากลับไปที่หอพัก
“ความจริงแล้วฉันเห็นว่าหอพักของเสี่ยวหนานและหยางฮุยมีหกคน พวกเราสิบสองคนออกมาเที่ยวพร้อมกันเป็นกลุ่มก็ดีแล้ว!”
จ้าวยีฟานนั่งลงบนที่นั่งและนั่งห้อยขากำลังดื่มน้ำผลไม้
ความหมายในคำพูดนั้นชัดเจนในตัวเอง
เธอค่อนข้างประทับใจในตัวหยางฮุย เพราะหยางฮุยดูเป็นคนสุขุมอย่างมาก
เพียงแต่พ่อแม่ของหยางฮุยเป็นเพียงครูโรงเรียนมัธยมธรรมดาๆ จึงยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานภายในใจของจ้าวยีฟาน
“อืมๆ แต่อย่าให้เฉินเกอคนนั้นมาล่ะ! พอเห็นเขาแล้ว ฉันก็นึกถึงเรื่องพวกนั้นที่เขาทำ! ตลกชะมัด!”
สวีเสียยังกล่าวติดตลก
“เอาล่ะๆ ยีฟาน สวีเสีย พวกเธอก็อย่าไปเกลียดเฉินเกอแบบนั้นเลย ที่จริงเขาเป็นคนดี พวกเธอลองคบไปนานๆก็จะรู้!”
หม่าเสี่ยวหนานพูดยิ้มๆ
“ใช่แล้ว พี่เฉินเป็นคนดี...”
หยางฮุยและคนอื่นๆพูดเสริมทัพ
“หึหึ คนดี? ถ้าดีจริงคงไม่ปล่อยให้พวกเราสิบสองคนนั่งรอเขาอยู่คนเดียวหรอก สวีเสียเธอว่าไง?”
จ้าวยีฟานส่งเสียง ฮึ
“อ๊ะ! เฉินเกอมาแล้ว!”
ในขณะนี้หม่าเสี่ยวหนานก็ลุกขึ้นโบกมือให้เฉินเกอที่อยู่หน้าประตูเพื่อเรียกเฉินเกอเข้ามา
“โทษที ฉันกลับไปคุยโทรศัพท์ที่หอ พอดีมีเรื่องที่ต้องจัดการนิดหน่อยก็เลยมาสาย!”
เฉินเกอยิ้ม
หม่าเสี่ยวหนานและจ้าวยีฟานนั่งอยู่ตรงข้ามกัน
ในขณะเดียวกันดวงตาที่สวยงามของเธอก็สังเกตโดยรอบและลุกขึ้นลากเฉินเกอมานั่งตรงที่นั่ง “เฉินเกอ นายมานั่งตรงนี้สิ!"
เฉินเกอไม่เข้าใจการกระทำของหม่าเสี่ยวหนาน
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากและนั่งลง
“หลินเจียว เรามาสลับที่กันเถอะ!”
ไม่คิดว่าพอเฉินเกอนั่งลง จ้าวยีฟานที่มีใบหน้าเย็นชาก็พูดกับเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พี่ยีฟาน ฉันไม่อยากสลับที่นั่ง ฉันไม่อยากนั่งกับคนจนคนนี้! ไม่รู้ว่าเขาจะคิดว่าเขาเป็นแฟนฉันหรือเปล่า!”
“อะไรนะ? เธอไม่พอใจหรือที่ได้เฉินเกอเป็นแฟน เธอดูสิ เฉินเกอซื้อได้แม้กระทั่งกระเป๋าใบละสามแสนกว่า! คิกคิก”
“จริงด้วยหลินเจียว ถ้าเธอได้ผู้ชายแบบเฉินเกอก็ดีไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หลินเจียวแต่งตัวสวยและรู้จักการเเต่งหน้า
ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม
และแน่นอนว่าเธอดูถูกเฉินเกออย่างมาก
เมื่อได้ยินเพื่อนร่วมหอพูดติดตลก เธอก็หมดคำพูด “อัยหยา ในเมื่อพวกเธอเห็นเฉินเกอดีเสียขนาดนั้นก็เอาเขาไปเป็นแฟนเลยสิ!”
“อ๊ะ! ยอมแล้วๆ!
เมื่อได้ยินแบบนั้น สาวๆจึงไม่มีใครกล้าล้อเล่น
เห็นได้ชัดว่าพวกเธออ่อนไหวต่อคำพูดที่ว่าได้เฉินเกอเป็นแฟน ก็เหมือนกับว่าหากเฉินเกอได้เป็นแฟนใคร คนคนนั้นก็จะโดนเยาะเย้ย
เมื่อหยางฮุย หลี่ปินและพวกเขาที่นั่งอีกฝั่งได้ยินคำพูดแบบนี้ ความจริงก็รู้สึกโมโหเล็กน้อย
แต่ก็ต้องทนเอาไว้
เฉินเกอถูกจ้าวยีฟานปฏิเสธที่จะนั่งกับเขาไปตรงๆ แม้ว่าจะไม่สมเหตุสมผลแต่ก็เป็นไปตามคาด
“เสี่ยวหนาน ฉันนั่งตรงนั้นก็ได้! เธอรีบนั่งเร็ว!”
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างหดหู่ ในสายตาของผู้หญิงหลายคน เขาดูเหมือนเทพแห่งโรคระบาดอะไรอย่างนั้น
ทายาทเศรษฐีคนอื่นๆมีเงิน 30,000 ถึง 50,000 อยู่ในมือก็สามารถปั้นหน้าต่อหน้าผู้หญิงสวยๆและได้รับความโปรดปรานจากผู้หญิงเหล่านั้น
ในมือเฉินเกอไม่รู้ว่ามีรายการทรัพย์สินจำนวนเท่าใด
แต่ทำไมถึงไม่ได้รับความโปรดปรานจากผู้หญิงสวยๆพวกนั้นล่ะ?
เฉินเกอก็เคยคิดจะใช้เงินโอ้อวด แต่เขาไม่ทำ!
ฮึ!
ในขณะที่พูดเฉินเกอก็ลุกขึ้นเดินไปอีกฝั่ง
หม่าเสี่ยวหนานต้องการจะโน้มน้าวให้ยีฟานตามเฉินเกอมาอีกครั้ง คราวนี้เธอคิดอยากจะปรับความเข้าใจกับคนทั้งสองจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...