เฉินเกอบอกกับไป๋หลางให้ถือโอกาสนี้พาผู้หญิงสามคนนั้นมาด้วย!
ก็แค่จะขู่พวกเธอนิดหน่อย ทำให้พวกนั้นเลิกเสแสร้งก็พอ ถึงยังไงเฉินเกอะก็ไม่ได้คิดจะเอาพวกเธอมาโยนทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ
แถมเด็กหนุ่มผมขาวนั่น ก็คือไป๋หลางบอดี้การ์ดมือหนึ่งของจ้าวจื่อซิ่งเหมือนกับหลี่เฟยหงที่คอยตามรับใช้หลี่เจิ้นกั๋วไม่ห่าง เป็นคนที่จ้าวจื่อซิ่งพามาจากฮ่องกงด้วย
“คุณจ้าว พวกเธอออกมาแล้ว ผมไม่สะดวกพบผู้หญิงพวกนั้น ผมคงต้องขอตัวก่อน เตรียมรถไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
เฉินเกอหันไปถามจ้าวจื่อซิ่งที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ
“เตรียมไว้หมดเรียบร้อยแล้วครับคุณชายเฉิน! ทางนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไป๋หลาง! เขาจะพาพวกคุณหนูหม่าไปส่งที่โรงเรียนอย่างปลอดภัยครับ”
ทันใดนั้นรถบ้านคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ข้างๆ เฉินเกอถึงได้เช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผาก แล้วหมุนตัวเดินขึ้นรถบ้าน ออกจากสถานที่แห่งนี้ไปพร้อมกับจ้าวจื่อซิ่ง
เมื่อครู่ หลังจากที่ค้นหาสถานที่จนแน่ชัด เฉินเกอให้หลี่เจิ้นกั๋วไปคอยจับตาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไห่ชานกรุ๊ปพร้อมกับตำรวจ ส่วนเขารีบขึ้นรถมากับจ้าวจื่อซิ่ง
ใครจะไปมีกะจิตกะใจนั่งรถบ้านที่จ้าวจื่อซิ่งเตรียมมาให้กัน
ตอนนี้ได้เห็นหม่าเสี่ยวหนานปลอดภัยแต่ยังตกใจนิดหน่อย ภูเขาในใจของเฉินเกอ ก็เหมือนถูกยกออกในที่สุด...
“เสี่ยวหนาน เสี่ยวหนาน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? คนพวกนี้เธอเป็นคนเรียกมาหรอ?”
ผู้หญิงทั้งสี่คนเดินออกมา
ตู้เยว่หันไปที่หม่าเสี่ยวหนานด้วยสายตานับถือ
เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้ก็มาเพื่อช่วยเหลือหม่าเสี่ยวหนาน
อีกอย่างสถานการณ์แบบนั้น ก็ทำให้คนตะลึงงงงวย
รถไมบัคที่มาทีเดียวพร้อมกันหกคัน
ไหนจะรถMPVระดับไฮเอนด์
ที่ด้านล่าง ยังมีบอดี้การ์ดที่ต่างจากบอดี้การ์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดประมาณสิบยี่สิบคนยืนเฝ้าอยู่
ที่ปรึกษาเมิ่งไฉ่หรูนี่จะเทพไปหน่อยมั้ง ตอนนั้นที่มีก็แค่รถโรลส์รอยซ์ไม่กี่คัน
ยิ่งไปกว่านั้นคือทีมบอดี้การ์ดครั้งนี้ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยเฉพาะพ่อหนุ่มผมขาวนั่นที่เท่ระเบิดไปเลย
หานเฟยเอ๋อกับเมิ่งไฉ่หรูต่างมองไปที่หม่าเสี่ยวหนานด้วยความสงสัย
“ห้ะ? ฉันไม่รู้เรื่อง คนพวกนี้ฉันไม่รู้จักสักหน่อย! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
หม่าเสี่ยวหนานตั้งคำถามขึ้น
“เอ่อพี่ชายคะ ขอถามหน่อยได้ไหมว่าใครเป็นคนส่งพี่มาช่วยพวกเรา?” เมิ่งไฉ่หรูอดถามขึ้นไม่ได้
ไป๋หลางยังคงมีสีหน้านิ่งสงบ ราวกับไม่ได้ยินอะไรแบบนั้น
เมิ่งไฉ่หรูจึงหันไปส่งซิกกับหม่าเสี่ยวหนานให้เธอเป็นคนถาม
“พี่คะ ใครเป็นคนส่งพี่มาช่วยพวกเราคะ เผื่อวันหน้ามีโอกาสพวกเราจะได้ขอบคุณเขา!”
หม่าเสี่ยวหนานจึงถามออกไป
“คุณหนูหม่า เบื้องบนของผมสั่งมาว่าไม่ให้เผยสถานะของบุคคลนั้น เพราะอย่างนี้ต่อให้เป็นกับคุณหนู ผมก็ไม่สามารถบอกได้!”
ไป๋หลางมีท่าทีเคารพหม่าเสี่ยวหนานอย่างมาก
“อ้ะ! ฉันนึกขึ้นได้แล้ว หรือว่าเป็นเฉินเกอคนนั้น?”
จู่ตู้เยว่ก็นึกขึ้นมาได้จึงร้องออกมา
“เฉินเกอ?”
หานเฟยเอ๋อและเมิ่งไฉ่หรูต่างก็ผงะไปพร้อมๆกัน
“จริงสิ พวกเธอลองคิดดูนะ ถึงแม้ว่าเมื่อกี้พวกเราจะอยากโทรศัพท์ แต่ว่ามีแค่เสี่ยวหนานคนเดียวที่ได้ออกไป แล้วเสี่ยวหนานก็โทรไปหาแค่เฉินเกอไม่ใช่หรอไง? นั่นก็หมายความว่ามีแค่เฉินเกอที่รู้ว่าพวกเราเกิดเรื่อง!”
ตู้เยว่ค่อยๆวิเคราะห์ สีหน้าของเธอไม่อยากจะเชื่อและไม่ค่อยอยากจะยอมรับสักเท่าไหร่
ส่วนหานเฟยเอ๋อกับเมิ่งไฉ่หรูยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“จะเป็นไปได้ไง ต่อให้เธอจะโทรไปหาเฉินเกอ แต่หมอนั่นจะมีปัญญาเอาบอดี้การ์ดชั้นหนึ่งเยอะขนาดนี้มาหรอ? นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด!”
หานเฟยเอ๋อว่า
เมิ่งไฉ่หรูหันไปมองหม่าเสี่ยวหนานอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวหนาน เธอลองคิดให้ดีๆสิ แน่ใจนะว่าคนที่โทรไปหาเป็นเฉินเกอจริง? หรือว่าเธอกดเบอร์ผิดแล้วโทรไปหาคนอื่น คนในครอบครัวของเธอมีใครรู้จักกับคนมีเส้นสายใหญ่โตหรือเปล่า?”
แน่นอนว่าพวกเธอตื่นเต้นกันใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...