ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 272

บทที่272 เกิดเรื่องขึ้นอีก

“เฉินเกอ ฉันขอโทษ โปรดยอมรับคำขอโทษของฉัน!”

หวางเหม่ยน่ามาหาเฉินเกอด้วยความเสียใจ

และก้มหัวให้เฉินเกออย่างสุดซึ้ง

ในฉากนี้ ไม่เพียงแต่เฉินเกอเท่านั้นที่ประหลาดใจ แต่แม้แต่เพื่อนร่วมงานในแผนกการตลาดทั้งหมดก็ยังตกตะลึง

“ฉันอยากได้ตั๋วหนึ่งใบจริงๆ เฉินเกอ คุณขายให้ฉันหนึ่งใบได้ไหม”

หวางเหม่ยน่ามองไปที่เฉินเกอ

ไม่คาดคิดว่าหวางเหม่ยน่าจะคลั่งไคล้หลงใหลดาราขนาดนี้

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เฉินเกอค่อนข้างโกรธเธอ แน่นอนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ

แต่ตอนนี้ เธอทำถึงขนาดนี้

ถ้าไม่ให้เธอหนึ่งใบ ก็คงจะทำไม่ลงคอ

“เอาล่ะ ฉันจะให้เธอหนึ่งใบ ยังไงฉันก็ยังเหลืออีกมาก!”

เฉินเกอให้ตั๋วหวางเหม่ยน่าหนึ่งใบ

หวางเหม่ยน่ามองหน้าเฉินเกออย่างขอบคุณ พยักหน้าและรับไว้

"อ๊ะ เฉินเกอเฉินเกอ ฉันก็อยากได้ฉันก็อยากได้!”

“เฉินเกอ ฉันก็อยากได้!”

“เฉินเกอ พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานด้วยกัน นายขายให้พวกเราได้ไหม?”

ในบริษัท ยังคงมีเจ็ดหรือแปดคนที่คลั่งไคล้ดาราเหมือนอย่างหวางเหม่ยน่าเดินเข้ามาด้วยสายตาโปรยเสน่ห์

ส่วนเพื่อนร่วมงานหญิง กลุ่มหนึ่งสองสามและสี่ รวมกันได้ 30 คน

คนนี้ได้และคนนี้ไม่ได้

ในตอนนี้เฉินเกอต้องโยนตั๋วสิบใบลงบนโต๊ะ

“ยังไงฉันก็ใช้ไม่หมด พวกเธอใครอยากไปเที่ยว ก็เอาตั๋วไปสิ!”

เฉินเกอพูด

“ว้าว!”

พวกผู้หญิงเข้ามาแย่งกันอย่างดุเดือด

สำหรับหลิวย่าหนาน เธอมองไปที่เฉินเกอด้วยใบหน้าที่สับสน

เฉพาะตั๋วพวกนี้อย่างเดียว ไม่ต้องพูดถึงว่าเฉินเกอได้มาอย่างไร ตั๋วแต่ละใบไม่ใช่ถูกๆ

นี่ราคาเท่าไหร่?

ดูเฉินเกอไม่ใส่ใจเลย?

เป็นไปได้ไหมที่เฉินเกอรวยแล้ว?

ตอนนี้หลิวย่าหนานรู้สึกอึดอัดใจแค่ไหน

รายชื่อปาร์ตี้เมื่อคืนนี้ หวังคังมาบอกขอให้กำจัดรายชื่อเฉินเกอออกไป เขาก็ตกลงโดยไม่คิดทบทวน

แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าหวังคังไม่ต้องการให้ใครคลุกคลีเฉินเกอ จากนั้นก็จะบีบเฉินเกอออกไป

เป็นผลให้วันนี้ หัวใจของผู้คนทั้งหมดมุ่งไปที่เฉินเกอ

แม้ว่าหลิวย่าหนานต้องการตั๋วหนึ่งใบเพื่อไปเที่ยว แต่หลังจากคิดแล้ว ก็ช่างมันเถอะ

เธอไม่ยอมเปิดปากขอร้องคนที่เธอเคยดูถูก

สำหรับหวังคัง วันนี้ถือว่าโชคร้ายที่สุด

สาวก็จีบไม่ติด ตำแหน่งรองหัวหน้ากลุ่มก็โดนปลด ตอนนี้เขาเป็นพนักงานธรรมดา

หัวหน้าแผนกหลี่เป็นคนอนุมัติ และยังอยู่ในช่วงการตรวจสอบ

พอถึงเวลากินข้าวเที่ยง.

เพราะชั้นสามและสี่เป็นโรงอาหารของพนักงาน.

สาวงามในแผนกการตลาดต่างก็นั่งกินข้าวด้วยกัน

“เอ๊ะ พวกเธอคิดว่า เฉินเกอเป็นทายาทเศรษฐีที่ร่ำรวย? ทายาทเศรษฐีร่ำรวยซ่อนตัวมา แล้วมาที่บริษัทของเราเพื่อมา

สัมผัสชีวิต?”

มีผู้หญิงคนหนึ่งถือตั๋วไว้ในมือ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

“อ๊ะ? นี่หมายความว่าไง?”

พวกผู้หญิงอยู่ด้วยกัน ก็ชอบพูดนินทา

หลิวย่าหนานที่กำลังทานอาหารอยู่ก็เงยหน้าขึ้น พร้อมกับขมวดคิ้วขณะฟังพวกเขา

“พวกเธอคิดซิ ตั๋วพวกนี้ราคาเท่าไหร่? และที่สำคัญ คุณไม่สามารถซื้อตั๋วแถวสุดท้ายได้ด้วยซ้ำ แต่เฉินเกอ หยิบตั๋วสิบหรือ

ยี่สิบใบออกมา และเขาก็ไม่ใส่ใจ นั่นแสดงว่า เฉินเกอคงมีตั๋วมากกว่านี้!”

“ภูมิหลังของเขาคืออะไร และมันคงไม่ง่ายอย่างที่พวกเราเห็น พวกเธอว่าไง!”

ผู้หญิงถาม

“อืมอืม ใช่แล้ว เฉินเกอไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่เหมือนที่ใครบางคนพูดในงานเลี้ยงเมื่อคืน ว่าเขาจนมาก! ฮ่าฮ่า!"

ผู้หญิงคนหนึ่งเหล่ตามองและทำหน้าบึ้งตึงใส่หลิวย่าหนาน

“ใช่แล้ว งานเลี้ยงเมื่อคืน เวลาส่วนใหญ่ก็พูดเกี่ยวกับเรื่องความทุเรศของเฉินเกอ ช่างเป็นเรื่องหน้าแตกจริงๆ!”

หวางเหม่ยน่าก็พูด

ชัดเจนว่าพวกเขาประชดใคร

นั่นก็คือหลิวย่าหนาน

“ขี้หมาซิเขาเป็นทายาทเศรษฐีร่ำรวย ตั๋วพวกนี้ ยังไม่รู้ได้มาจากไหน มีอะไรน่าโอ้อวด ไม่กินแล้ว!”

หลิวย่าหนานรู้สึกกังวลทันที และกระแทกถ้วยชามตะเกียบบนโต๊ะอาหารแล้วเดินจากไป

สำหรับผู้หญิงกลุ่มนี้ไม่สนใจ พวกเขาทั้งหมดคุยกันว่าต่อไปจะดีกับเฉินเกอให้มากๆ

ดังนั้นในช่วงบ่าย

โต๊ะของเฉินเกอเต็มไปด้วยชานมและผลไม้

“สหายทุกคน ฉันกลับมาแล้ว!”

ในขณะนี้ หนุ่มหล่อในแผนกการตลาดเดินเข้ามา

เขาตะโกนอย่างตื่นเต้นทันทีที่เข้ามา

ทำท่าทางอยากกอดด้วย

จากนั้น……

“เฉินเกอเฉินเกอ บอกพวกเราหน่อยว่าตั๋วพวกนี้เอามาจากไหน อย่าปิดปังพวกเราเลย?”

จากนั้นผู้หญิงกลุ่มนี้ต่างให้ความสนใจเฉินเกอ

ไม่มีใครสนใจเขาเลย

“อ๊ะ? พี่จุ้นเชิง คุณกลับมาจากการไปทำงานที่อื่นแล้วเหรอ!”

มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น และมองไปที่หวางจุ้นเชิง

จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่หลิวย่าหนาน

หวางจุ้นเชิงคือใคร?

เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ 2 คราวนี้เขาไปอบรมที่เมืองจินหลิง และได้ไปเยี่ยมชมบริษัทในเมืองฮ่องกงและการค้าที่อื่น ๆ

ความหมายชื่อเหมือนตัวตน เป็นชายหนุ่มรูปหล่อ

อายุน่าจะมากกว่าเฉินเกอหนึ่งปี

ตอนที่หลิวย่าหนานพึ่งเข้าบริษัทการลงทุนครั้งแรก หวางจุ้นเชิงเป็นคนที่สอนงานเธอ

อีกอย่าง หลิวย่าหนานก็จะแอบรักหวางจุ้นเชิงมาตลอด

นี่คงไม่ใช่ความลับในบริษัทอีกต่อไป

แต่หวางจุ้นเชิงคนนี้ เป็นคนหยิ่งผยองเล็กน้อย และบ้าอำนาจ หลิวย่าหนานแสดงความรักออกมาให้เขาหลายต่อหลายครั้ง

แต่เขาทำเป็นเมินเฉย

แต่ว่าหวางจุ้นเชิงช่วยเหลือหลิวย่าหนานและหวังคังน้องคนนี้

“ย่าหนาน คนนี้เป็นใคร? ยังไม่เคยเห็นมาก่อน?”

ก่อนหน้านี้หวางจุ้นเชิงเป็นคนที่คนอื่นยกย่องมาตลอดแต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจ เขารู้สึกหน้าเสีย

“ฮึ่ม เขาชื่อเฉินเกอ เพื่อนร่วมชั้นมัธยมต้นคนหนึ่งของฉัน แต่พี่จุ้นเชิงอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่เคยสนใจเขาเลย!”

หลิวย่าหนานพูด

“เฉินเกอ? แค่คนมาใหม่ ไม่ตั้งใจทำงาน ในเวลางานยังมาคุยเล่นกับเพื่อนร่วมงาน นี่กฎระเบียบบริษัทยังมีอีกไหม?”

หวางจุ้นเชิงพูด

ในขณะที่นี้ ดูเฉินเกอพยักหน้าอย่างเย็นชา

ในช่วงเย็นใกล้เลิกงาน

บริเวณที่เฉินเกออยู่ก็เงียบลงเล็กน้อย

“ตูม!”

มีแก้วน้ำวางลงบนโต๊ะของเฉินเกอ

“นาย รอให้น้ำเดือด ไปเอาน้ำร้อนมาให้ฉันหนึ่งแก้ว!”

คนนี้คือหวางจุ้นเชิง

“ เอาน้ำเหรอ? นี่คงไม่ใช่งานที่ฉันต้องรับผิดชอบ?”

เฉินเกอมองคนที่ไม่รู้โกรธใครมา และเขาก็ไม่ตามใจเขา

“นึกไม่ถึงคนที่มาใหม่อย่างนายจะก้าวร้าวอย่างนี้!”

หวางจุ้นเชิงพูดอย่างเย็นชา

“เฉินเกอ พี่จุ้นเชิงขอให้นายไปเอาน้ำให้เขา เพราะเขาให้เกียรตินาย นายก็ไปเอาซิ นายกำลังพูดไร้สาระอะไร คิดว่าตัวเอง

เป็นทายาทร่ำรวยจริงๆเหรอ!”

ในขณะนี้หลิวย่าหนานเข้ามา และเห็นเฉินเกอโต้เถียงกับหวางจุ้นเชิงเธอทำท่าโกรธมาก

“ทำไมฉันต้องไปเอาน้ำ?ให้เหตุผลฉันหน่อย?” เฉินเกอนั่งนิ่ง

“เพราะจุ้นเชิงเป็นแชมป์แผนกฝ่ายขาย ฮ่าฮ่า เฉินเกอนายคงยังไม่รู้? โครงการอำเภอผิงอันที่บริษัทลงทุนประสบ

ความสำเร็จ หกสิบเปอร์เซ็นต์ของกิจการบริษัท ก็มาจากผลงานของพี่จุ้นเชิงนายยังมาว่ามีสิทธิ์อะไรใช้นาย!”

“และนายรู้หรือไม่ว่าฐานะบ้านของพี่จุ้นเชิงเป็นอย่างไร ฮ่าฮ่า ยังมาบอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่ง!”

หลิวย่าหนานมองเฉินเกออย่างดูถูก

ในเวลาเดียวกันเมื่อพูดถึงหวางจุ้นเชิง ใบหน้าของหลิวย่าหนานเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

เมื่อหวางเหม่ยน่าและคนอื่น ๆ โกรธมากที่หลิวย่าหนาน และหวางจุ้นเชิงรังแกเฉินเกอ และพวกเธอต้องการช่วยเฉินเกอ

โทรศัพท์มือถือของหวางจุ้นเชิง ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ในขณะนี้ หวางจุ้นเชิงรับสาย

“ใช่ ฉันเอง……อืม? คุณพูดอะไร! เป็นไปได้ยังไง! คุณพูดอีกครั้ง!!!”

ทันใดนั้นหวางจุ้นเชิง ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง เวลาต่อมา ใบหน้าของเขาก็ขาวซีดขึ้นมา……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน