ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 273

บทที่273 หลิวย่าหนานเลี้ยง

“พี่จุ้นเชิงมีเรื่องอะไรเหรอ?”

หลิวย่าหนานถามอย่างกังวล

“เกิดปัญหา!”

หวางจุ้นเชิงพูดด้วยใบหน้าซีดเซียว

จากนั้นเขาก็รีบลงไปชั้นล่าง

หลิวย่าหนานรีบไล่ตามออกไป

หลังจากที่หวางจุ้นเชิง คุยโทรศัพท์เสร็จ หลิวย่าหนานจึงเดินเข้าไปถาม

“พี่จุ้นเชิงมีเรื่องอะไร? อย่าทำให้ฉันตกใจ!”

หลิวย่าหนานถาม

หวางจุ้นเชิงเกิดมามีใบหน้าหล่อเหลา และในขณะเดียวกัน เขาก็มีบ้านอยู่ในเมืองจินหลิง พ่อแม่ของเขาก็ทำงานเป็น

เจ้าหน้าที่รัฐ ฐานะครอบครัวก็สมบูรณ์แบบ

เมื่อเทียบกันแล้ว จะดีกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆในบริษัทมาก

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่หลิวย่าหนานชอบหวางจุ้นเชิง

เพราะในอนาคต ตัวเองก็สามารถแต่งงานที่เมืองจินหลิง แม้จะมีการโยกย้ายงาน ก็อาจจะได้อยู่ที่จินหลิงด้วย

เนื่องจากพ่อของหลิวย่าหนานเป็นผอ.ของโรงเรียนมัธยมต้น เพราะฉะนั้นตั้งแต่เล็กจนโตหลิวย่าหนานจะเห็นความสำคัญ

เกี่ยวกับชื่อเสียงและผลประโยชน์เหล่านี้มาก

ตัวอย่างที่เห็นคือ แต่เล็กจนโตผู้ชายที่หลิวย่าหนานชอบต้องมีอำนาจและร่ำรวย

“แย่แล้วย่าหนาน เธอยังจำได้ไหมครั้งก่อนฉันกับรองหัวหน้าแผนกหยาง ที่ทำด้วยกันกับบริษัทนั้น? คราวนี้เกิดข้อผิดพลาด

หลิวย่าหนานรู้

บริษัทนั้น ดำเนินการโดยหวางจุ้นเชิงและรองหัวหน้าแผนกหยาง ทำตามคำแนะนำของหัวหน้ากลุ่มบริษัทการลงทุน

ตอนนี้บริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปได้ลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ คนจำนวนมากต่างพากันอิจฉา

เพราะมันเป็นเรื่องของเงิน

ดังนั้นมีคนเลยสมรู้ร่วมคิดเพื่อให้ได้มา

รายงานต่อสำนักงานใหญ่ด้วยตัวเอง จากนั้นสำนักงานใหญ่จะอนุมัติเงิน

ปัจจุบัน บริษัท นี้ได้รับเงินทุนมากกว่า 50 ล้าน

เรื่องนี้ ก็คือหลิวย่าหนานหวังคังและหวางจุ้นเชิงคนสนิทที่รู้กัน

อีกอย่างทางสำนักงานใหญ่ ได้ทำการตรวจสอบและอนุมัติเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทการลงทุนหลายแห่ง จะตรวจสอบทำไม ที่สำคัญ บริษัทนี้ยังได้ทำประกันสองชั้น มีการเชื่องโยงกับบริษัทในท้องถิ่นอื่นๆด้วย

เกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร?

“ฉันไม่รู้จริงๆว่าผู้บริหารสำนักงานใหญ่เป็นบ้าอะไร ครั้งนี้คิดจะมาตรวจสอบ อีกอย่างฉันก็โชคไม่ดีเลย พอจะตรวจสอบก็

จะมาตรวจบริษัทนี้ เมื่อกี้มีคนบอกฉันว่า สำนักงานใหญ่ดูเหมือนว่าจะตรวจสอบโดยมีจุดประสงค์ พอมาถึงก็ตรวจสอบ

บัญชีทันที แต่ตอนนี้ดีล่ะ บัญชีต่างๆไม่ตรงกัน ตอนนี้ผู้บริหารมีข้อสงสัยว่าเป็นการดำเนินการภายในเอง!”

หวางจุ้นเชิงวิตกกังวลมากขึ้น

นี่ต้องรับโทษตามกฎหมาย

“มันแปลก บริษัทนี้มีขนาดเล็ก และการลงทุนก็ไม่มาก แต่ยังเชื่อมโยงกับที่อื่น ตรวจสอบออกมาได้อย่างไร!”

“ไม่เข้าใจ ตอนนี้ผู้บริหารกำลังเริ่มสอบสวนหัวหน้าแผนกหยางและผู้นำคนนั้น และคาดว่าในเร็วๆนี้ฉันก็แย่แน่ ฉันจะทำ

อย่างไรดี? ทำอย่างไรดี? ถ้าบริษัทแจ้งตำรวจฉันต้องถูกจับ!”

หลิวย่าหนานมองไปที่หวางจุ้นเชิงอย่างกังวลและเธอก็กังวลเช่นกัน

เขาตบหัวตัวเองและพูดว่า “ฉันคิดหาวิธีได้แล้ว พี่จุ้นเชิงก็หาแพะรับบาปซิ ให้คนอื่นรับโทษแทน แล้วพี่ก็เอาตัวรอดเอง

อย่างนี้ก็หมดเรื่องแล้ว?”

“ว้าว แล้วจะหาใครล่ะ?เรื่องแบบนี้มันร้ายแรง!”

“ฮึ่มฮึ่ม ฉันมีวิธี!”

หลิวย่าหนานนิ้วของเขาชี้ไป

พูดถึงเฉินเกอ

ตอนนี้กำลังจัดเรียงข้อมูลในสำนักงาน

ฟางเฟยจ้องไปที่เฉินเกอและยิ้ม: "เฉินเกอเฉินเกอ นายทำงานขยันขนาดนี้ เห็นนายยังจัดเรียงบริษัทนี้ไม่เสร็จ และยังต้อง

ตรวจสอบข้อมูลอีกบริษัทหนึ่ง!”

เฉินเกอยิ้มและพูดว่า “วิธีนี้ฉันสามารถเข้าใจรายละเอียดได้ชัดเจน อีกอย่างฉันได้รับผลตอบแทนสูง!”

ใช่ บริษัทนั้นถูกตรวจสอบออกมา ส่วนใหญ่เป็นเพราะ หลิวย่าหนานพูดว่าหวางจุ้นเชิง นั้นไม่ธรรมดา

ฉันยังได้ยินมาว่าหวังคังและหวางจุ้นเชิงมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก

เฉินเกอจึงตั้งใจตรวจสอบโครงการที่พวกเขาส่งมา

หลังจากตรวจสอบแล้ว ก็พบจุดผิดปกติจริงๆ

เนื่องจากบริษัทที่หวางจุ้นเชิง ส่งมานั้น เป็นบริษัทของพ่อลี่เหวินหยาง

เดิมทีมันไม่เป็นอะไร

บริษัทไหนล่ะจะไม่มีบริษัทย่อย?

แต่ครอบครัวของลี่เหวินหยาง เฉินเกอจะค่อนข้างเข้าใจดีกว่า

เปิดบริษัทธุรกิจที่ไม่เข้ากันกับธุรกิจหลักของบริษัท?

เฉินเกอจึงตั้งใจตรวจสอบ

ผลที่ได้คือมีปัญหาจริงๆ

ดังนั้นเขาจึงส่งข้อความไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว และขอให้เขาช่วยดู

“นายรีบพูดมา มีผลตอบแทนอะไร” ฟางเฟยยิ้ม คิดว่าก็แค่ทำเอกสารจัดเก็บถาวร ทำเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ไปได้?

“เธอไม่เข้าใจ ยังไงคือผลตอบแทนสูงมาก! ฮ่าฮ่า!”

เฉินเกอยิ้ม

ในขณะที่พูดคุยกัน จู่ๆหลิวย่าหนาน ก็โทรมา

สิ่งนี้ทำให้เฉินเกอประหลาดใจ

“เฉินเกอ? หลังเลิกงานตอนกลางคืนนายมีเวลาว่างไหม?”

“มีอะไร?เธอมีธุระอะไรเหรอ?” เฉินเกอถามเบาๆ

แม้ว่าตอนแรกเฉินเกอจะมีความรู้สึกดีกับหลิวย่าหนาน แต่ต่อมา การกระทำที่เย็นชาของหลิวย่าหนาน ก็ทำให้เฉินเกอเสีย

ความรู้สึก

“อืมอืม ฉันอยากเลี้ยงข้าวนาย นายมาทำงานบริษัทก็สองวันแล้ว ยังไม่มีโอกาสเลี้ยงข้าวนายเลย คืนนี้ออกมากินข้าว

ด้วยกันสักมื้อนะ?”

หลิวย่าหนานพูดด้วยรอยยิ้ม

“มีใครบ้าง” เฉินเกอถาม ดูเหมือนว่าหลิวย่าหนานจะมีธุระอะไร

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เฉินเกอรู้ว่าหลิวย่าหนาน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหวางจุ้นเชิง ดังนั้นเขาจึงต้องการทราบข้อมูล

เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ก็มีแต่ฉันคนเดียว นายว่าจะมีใครอีก!”

หลิวย่าหนานพูดอย่างคับแค้นใจ และตกลงกับเฉินเกอในเรื่องเวลาและสถานที่

จากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์

หลังจากนั้น ก็ไม่เห็น หลิวย่าหนานกลับมาทำงานอีก หลังเลิกงานเฉินเกอก็ตามไป

และไม่ค่อยไกล

ใกล้ๆบริษัทมีผับเล็กๆและอยู่ในห้องวีไอพี

เมื่อเฉินเกอเห็นหลิวย่าหนาน เธอมาคนเดียวจริงๆ

“เฉินเกอมาแล้วเหรอ รีบนั่งเร็ว! เป็นไงบ้าง ผับร้านนี้ดีไหม?” หลิวย่าหนาน ยิ้ม พลางเปิดขวดไวน์แดง แล้วรินให้เฉินเกอ

“ก็ไม่เลวนะ ทำอะไรใหญ่โตขนาดนี้? แค่พาผมไปกินอะไรง่ายๆก็ได้!”

เฉินเกอยิ้มจาง ๆ

“โอ้ย จะไปกินอะไรง่ายๆได้ไง ที่จริงเฉินเกอก็รู้ สองสามวันนี้อยู่ที่บริษัทฉันอยากคุยกับนายตลอด และคุยกันดีๆ แต่ว่า อยู่

บริษัทไม่ค่อยสะดวก นี่ก็มีโอกาสพอดี เราสามารถอยู่ด้วยกัน เราสามารถย้อนอดีตความสัมพันธ์ครั้งก่อนของเราได้ นาย

คิดอย่างนั้นไหม!”

ในขณะที่พูดหลิวย่าหนานก็ขยับมาพิงเฉินเกอ

แขนของเธอ สัมผัสกับแขนของเฉินเกอเล็กน้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คีบอาหารให้เฉินเกอ เธอขยับหน้าอกเข้ามาถู ทำให้เฉินเกอสับสน

ฉันสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไรอยู่

แต่ก็ยังคงสนทนากันต่อไป

อย่างไรก็ตามเฉินเกอสังเกตเห็น คำพูดของหลิวย่าหนานเหมือนกำลังแสดงความรักเล็กน้อย และจากนั้นเขาก็อยากรู้ว่า

เฉินเกอซื้อตั๋วเหล่านั้นได้อย่างไร

แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่จุดประสงค์หลักของเธอ

คุยไปคุยมาก็ดื่มเหล้าเข้าไปมาก

หน้าเฉินเกอเริ่มแดงระเรื่อ และเริ่มเมา

“ย่าหนาน ไม่ดื่มแล้ว? ถ้าดื่มอีกจะดื่มมากเกินไป!”

เฉินเกอส่ายหัว

“อืมอืม งั้นก็เลิกดื่มกันเถอะ พวกเรากลับกันเถอะ ช่วยส่งฉันกลับได้ไหม!”

“ตกลง”

หลังจากที่หลิวย่าหนานชำระเงินเรียบร้อย เฉินเกอก็พาเธอกลับไปยังห้องพักเธอ

เดิมที เฉินเกอวางแผนที่จะสืบเรื่องจากปากของหลิวย่าหนาน แต่ว่า เธอหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เลยไม่มีโอกาสถาม

หลังจากมาถึงบ้านของเธอ.

เฉินเกอจึงอยากกลับ

“เฉินเกออย่าไป!”

ทันใดนั้น หลิวย่าหนานก็ดึงแขนของเฉินเกอ……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน