ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 274

บทที่274 สับเปลี่ยน

หลิวย่าหนานดึงแขนของเฉินเกอ และมองไปที่เฉินเกอด้วยสีหน้าสับสน

สายตานี้ เย้ายวนเล็กน้อย

“หลิวย่าหนานเธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เฉินเกอก็ตกใจเล็กน้อย

“ฉันมีธุระ อยากให้นายอยู่เป็นเพื่อน ได้ไหม?”

ในขณะที่พูดหลิวย่าหนาน ก็ขยับตัวเข้าใกล้เฉินเกอ

เขาผลักเฉินเกอลงบนโซฟา

เขาถอดสายกระโปรงของตัวเอง และล้มลงไป

ตูม

เฉินเกอกลืนน้ำลาย

บอกตามตรงหลิวย่าหนานก็สวยมาก ผิวขาวสดใส และหุ่นเซ็กซี่

เมื่อมันเป็นเช่นนี้ มันได้จุดไฟเสน่ห์หาที่ไม่ทันตั้งตัว

คอแห้งมาก

หลิวย่าหนานยังเริ่มต่อ กำลังจะเปิดเผยร่างกายส่วนบนของเธอ

ทันใดนั้นเอง!”

ประตูถูกเตะออก

ในเวลาเดียวกัน หลิวย่าหนานนอนอยู่บนเตียง คลุมตัวเองด้วยเสื้อผ้าและตะโกน

“แม่งเอ๋ย ถ่ายรูปไว้ ถ่ายให้หมดเลย!”

มีคนมาสองคน

หนึ่งคือหวังคังเป็นตากล้อง

อีกคนคือหวางจุ้นเชิง

“ช่วยฉัน พี่จุ้นเชิงช่วยฉันด้วย!”

หลิวย่าหนานร้องไห้

“อย่ากลัว ย่าหนาน พวกเราอยู่ที่นี่ สัตว์เดรัจฉานตัวนี้ไม่สามารถทำอะไรได้! คิดไม่ถึงว่า เฉินเกอคนนี้ปกติดูเหมือนคนซื่อสัตย์

ที่แท้เหมือนสัตว์เดรัจฉาน แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นเก่าของเขาก็ยังคิดไม่ดี!”

“ฉันไม่คิดเลยว่า วันนี้ฉันแค่อยากเลี้ยงข้าวเฉินเกอ และหลังจากที่กินข้าวเสร็จ เขาก็บอกว่าอยากส่งฉันกลับ และเขาก็ทำ

ฉัน…… ก็ทำอย่างนี้กับฉัน นี้โชคดีที่พวกคุณมาทันเวลา!”

หลิวย่าหนานร้องไห้

"ฮึ่ม ไม่ต้องกังวล เราบันทึกไว้หมดแล้ว ไปแจ้งตำรวจเลย!”

หวังคังหัวเราะเยาะ

ในใจคิดคราวนี้นายตายแน่

สำหรับเฉินเกอ พึ่งนึกได้

ที่แท้ โดนคนกลุ่มนี้ทำเรื่องบ้าๆบอๆ

ในความเป็นจริง เมื่อหลิวย่าหนานถอดเสื้อและเข้าหาตัวเขา เขาก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เนื่องจากวันนี้ตั้งแต่เริ่มแรก หลิวย่าหนาน กระตือรือร้นเกินไป

กระตือรือร้นจนน่ากลัว

แต่ว่าเฉินเกอไม่คาดคิด หลิวย่าหนานจะให้เพื่อนร่วมชั้นคนนี้ เล่นมุกอย่างนี้

บ้าๆบอๆ?

หลิวย่าหนานฉันรู้จักเธอมาเจ็ดหรือแปดปีแล้ว

“เฉินเกอ นายจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” หวางจุ้นเชิง พูดอย่างเย็นชาในขณะนี้

“จะทำยังไงดี? ฮ่าฮ่า พวกนายซิควรพูดว่าจะเอายังไง? พวกนายต้องการให้ฉันทำอะไร?” เฉินเกอยิ้มจาง ๆ

“แม่งเอ๋ย ไอ้เด็กน้อยตอบได้ตรงประเด็นมาก!”

หวังคังหัวเราะเยาะ

“มันง่ายๆ นายลงนามในข้อตกลงการเปลี่ยนแปลง มอบบริษัทให้กับนายฟรีๆ นายเป็นผู้รับผิดชอบ ก็แค่นี้เอง!”

หลังจากพูดจบ หวางจุ้นเชิง ก็เอาสัญญาออกมา

ดูสัญญาและชื่อบริษัทด้านบนแล้ว

เฉินเกอเข้าใจอย่างชัดเจน

เป็นบริษัทมีปัญหาที่เขาขอให้หลี่เจิ้นกั๋วช่วยตรวจสอบ

ดูเหมือนว่าการคาดเดาของฉันจะถูกต้อง หวางจุ้นเชิง มีปัญหาจริงๆ และเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับบริษัทของลี่เหวินหยาง

สงสัยเรื่องถูกเปิดเผย ก็เลยต้องรีบหาแพะรับบาป

ต้องเข้าใจ ว่านี่คือการวางแผนที่ต้องเห็นผล

จากนั้นเมื่อเขาเซ็นชื่อลงไป เมื่อหลี่เจิ้นกั๋วตรวจสอบออกมา ตัวเองจะกลายเป็นคนที่หักหลังบริษัท และคนที่โทร

แจ้งตำรวจก็คือตัวเขาเอง

นี่ต้องการจะสับเปลี่ยนใช่ไหม

เฉินเกอยิ้มจาง ๆ

คิดว่าพวกเขาคงไม่นึกไม่ฝัน บริษัทนี้เป็นของตัวเอง?

ตอนนี้เขามองไปที่หลิวย่าหนาน และอยากเล่นสนุก “ย่าหนานเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมต้นที่ดีต่อกัน และเป็นเพื่อนร่วมชั้น

มัธยมปลาย ทำไมเธอถึงต้องทำอย่างนี้? ทำไมเธอกลายเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไร?”

“หึ! อย่ามาผูกมิตรกับฉัน ไอ้สารเลว คืนนี้ให้ยาจกอย่างนายได้เปรียบ ฮ่าๆ ยังมี วันนี้ตอนที่นายแจกตั๋ว มันเท่ห์มากเลย

ตอนนั้นนายทำไมไม่คิดถึงมิตรภาพของเรา? มอบให้ฉันหนึ่งใบล่ะ?”

“สิ่งที่น่าโมโหที่สุดคือ นายช่างไม่รู้จักเจียมตัวเลย? การกระทำในวันนี้นายคิดว่าฉันชอบนายเหรอ? คิดว่า

ฉันอยากจะให้นายจริงๆเหรอ นายฝันไปเถอะ!”

ตอนนี้ไม่ได้อัดวิดีโอแล้ว ดังนั้นหลิวย่าหนานจึงไม่แคร์อะไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฉินเกอ

เพราะเธอรู้จักและเข้าใจเฉินเกอมาก และรู้ว่าเฉินเกอเป็นคนยากจนที่ไม่มีเงินและภูมิหลัง ดังนั้น เมื่อใช้แผนการนี้

หลิวย่าหนานเลยไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่

ไม่กลัวเลยสักนิด

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าฉันคิดมากเกินไปจริงๆ!” เฉินเกอยิ้มแหย่ๆ

“แม้ว่าฉันจะไม่เชื่อ แต่ฉันก็รู้สึกจริงๆว่า วันนี้เธอเห็นแก่มิตรภาพครั้งก่อนของเรา ถึงเลี้ยงข้าวฉัน ต่อไปเราจะยังคงเป็น

เพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นอย่างนี้แล้ว ในอนาคตถ้าเธอมีปัญหาอะไร ฉันก็ไม่สามารถช่วยเธอได้!”

เฉินเกอพูด

ตั้งแต่เริ่มต้นโทรศัพท์มา เฉินเกอ รู้ว่า หลิวย่าหนานมีปัญหาบางอย่างที่ต้องทำ

แต่เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับมิตรภาพก่อนหน้านี้ที่โต๊ะอาหาร เฉินเกอยังคงรู้สึกอบอุ่นในใจ

จากนั้นเขาเลยกลับบ้านพร้อมหลิวย่าหนาน

และยังแอบตัดสินใจว่า ถ้าหลิวย่าหนานประสบปัญหาใดๆ ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์จะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็คงจะยื่นมือเข้า

ช่วย แต่ตอนนี้ หัวใจของเฉินเกอเย็นชา

เธอสามารถทำเรื่องอย่างนี้ได้

“ช่วยฉัน?นายเหรอ นายมีคุณสมบัติอะไรมาช่วยฉันได้ รีบเซ็นเร็ว อย่าบอกว่าไม่ดูแลนาย ฮึ บริษัทนี้ยกให้นายเลย!”

“ให้ฉันเซ็นต์ก็ได้ พรุ่งนี้นะ วันนี้ไม่ได้แน่นอน เพราะฉันไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา และฉันจำเลขบัตรประชาชนไม่ได้!”

เฉินเกอหาเหตุผลมาอ้าง

“บ้าเอ้ย แค่เลขบัตรประชาชนยังจำไม่ได้เหรอ?”

หวางจุ้นเชิงด่า

แต่พอคิดได้ ก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว ในเมื่อวิดีโออยู่ในมือแล้ว

เซ็นชื่อพรุ่งนี้ก็ได้

“ได้ รอพรุ่งนี้ไปที่บริษัท นายก็เซ็นสัญญานี้ อีกอย่าง เรื่องนี้นายห้ามไปบอกใคร ถ้าพูดออกไปคำเดียว ฉันจะโทรแจ้ง

ตำรวจทันที!”** ไม่รู้ว่าผิดถูกแต่มีหลักฐาน”

หวางจุ้นเชิงพูด

“เอาล่ะถ้าอย่างนั้นก็พรุ่งนี้!”

เฉินเกอพูด

ด้วยวิธีนี้ พวกเขาเลยยอมปล่อยเฉินเกอ

หลังจากลงมาถึงชั้นล่าง เฉินเกอก็รีบโทรหาหลี่เจิ้งกั๋วทันที และเล่าเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เรื่องนี้

พูดตามตรง เฉินเกอไม่มีความสุข

รู้สึกเสียใจต่อการกระทำของหลิวย่าหนาน

การเป็นสายลับครั้งนี้ สามารถจับได้หนึ่งคน แน่นอนสามารถล่อออกมาได้อีกหลายคน

แต่ไม่คาดคิด ว่าเรื่องนี้เพื่อนร่วมชั้นของเขาจะเกี่ยวข้องด้วย

รอจนถึงวันรุ่งขึ้น

เมื่อเฉินเกอมาถึงบริษัท พอนั่งลง

หวางจุ้นเชิงกับหลิวย่าหนาน ก็เข้ามา

“เฉินเกอ มาหาพวกเราที่ห้องทำงาน!”

หวางจุ้นเชิงขยิบตาให้เฉินเกอ

เตือนเฉินเกอให้นำบัตรประชาชนมาด้วย

“อ่ออ่อ ได้!”

เฉินเกอเดินตามพวกเขาไป หวังคังรออยู่ข้างในแล้ว

ออฟฟิตนี้เป็นห้องพิมพ์ และมักจะไม่มีใครอยู่

“รีบเซ็นชื่อ เซ็นเสร็จแล้วทำตามขั้นตอนอื่นๆ เร็วเข้า!”

หวางจุ้นเชิงดึงสัญญาออกและพูดว่า

จากนั้น ก็เห็นเฉินเกอนั่ง โดยนั่งไขว่ห้าง ทำเหมือนไม่อยากเคลื่อนไหว

“แม่งเอ๋ย นั่งเหม่ออะไร รีบเซ็นเร็วเข้า!”หวางจุ้นเชิงเตือน

เฉินเกอมองไปที่นาฬิกาของเขา “รออีกหน่อย เดี๋ยวมาแล้วค่อยเซ็นด้วยกัน พอทำขั้นตอนต่อไปนายจะได้ไม่ต้องหาคนอื่น

“นาย หมายความว่าไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน