ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 290

บทที่290 เฉินเกอฉลองวันเกิด

“อ๋อใช่แล้วครับ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของผมครั้งนี้ไม่อยู่บ้านนะครับ ผมจองโรงแรมเอาไว้ พวกคุณมีเวลาไปหรือเปล่า?”

เฉินเกอถามขึ้น

ปีที่ผ่านๆมา เป็นอากงหวูกับอาม่าหวูที่จัดงานวันเกิดให้เฉินเกอตลอด

ปีนี้แน่นอนว่าก็ไม่ต่างไป

แต่ว่าตามธรรมเนียมแล้ว เฉินเกอก็ควรจะเลี้ยงพวกเขาสักครั้ง

“เหอะๆ พวกเราใครจะไปมีเวลาล่ะ พรุ่งนี้พวกหวูเฟิงเขาทำงานกันหมด ใครจะไปมีเวลาฉลองวันเกิดให้แกกัน!”

ในตอนนี้สะใภ้สามพูดขึ้นนิ่งๆ

“ใช่น่ะสิ ว่าไปแล้ว เฉินเกอถ้าแกจะฉลองวันเกิดแค่กินอะไรง่ายๆที่บ้านก็ได้แล้วไหม ไปโรงแรมทำอะไรกัน จริงๆเลย พอหลังจากมีเงินหน่อยก็ลืมกำพืดตัวเอง!”

สะใภ้สองเองก็พูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย

พูดอย่างสรุปแล้ว ก็คือแต่ก่อนเฉินเกอจน ใครๆก็ดูถูก พอตอนนี้ถูกรางวัลลอตเตอรี่แล้วรวยขึ้นมา ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นสุขกัน

ดังนั้นคำพูดตำจาก็เลยไร้มารยาทมากกว่าเมื่อก่อน

“พวกเรายุ่งกันหมด แกอยากฉลองก็ฉลองไปคนเดียว!”

พวกพี่ใหญ่เองก็พูดขึ้นมานิ่งๆ

ทันใดนั้นในตอนนี้ พี่ใหญ่ก็รับโทรศัพท์สายหนึ่ง

“ฮัลโหลครับ สวัสดีครับประธานหวาง อะไรนะครับ ได้ครับๆๆ วันมะรืนพวกเราทั้งครอบครัวจะไปแน่นอนครับ ไม่ยุ่งครับไม่ยุ่ง รอให้จัดการเรื่องพรุ่งนี้ให้เรียบร้อยก็ไม่ยุ่งแม้แต่นิดเดียวเลยครับ! ฮ่าๆ!”

พี่ใหญ่พูดจบก็วางสายอย่างอารมณ์ดี

“เรื่องอะไรเหรอ?”

สะใภ้คนโตถาม

“วันมะรืนเป็นวันเกิดอายุแปดขวบของลูกชายประธานหวาง ถามว่าพวกเราจะไปไม่ไป พวกเราต้องไปแน่อยู่แล้ว!”

“หา? แต่ไม่ใช่ว่าวันมะรืนคุณมีประชุมหอการค้าที่สำคัญต้องเข้าร่วมไม่ใช่เหรอ?”

“หึ ประชุมหอการค้าผมเลื่อนออกไปได้ ลูกชายของประธานหวางฉลองวันเกิดเรื่องอะไรก็ต้องเลื่อนทั้งนั้นแหละ!”

พี่ใหญ่พูดอย่างใจกว้าง

“พี่ใหญ่พี่สะใภ้ ผมว่าพวกเรากินข้าวกันก่อนเถอะครับ รอพรุ่งนี้ผมยังมีเรื่องให้ไปทำอีก ต้องรีบพักผ่อน! คืนนี้กลับไปผมยังต้องทำสรุป พรุ่งนี้พวกเรายังต้องรอดูเจียงเคออีก!”

ในตอนนี้หวูเฟิงพูดขึ้น

เขาเป็นคนภายใน พรุ่งนี้แน่นอนว่ามีเรื่องให้ทำ

“เจียงเคอไม่ใช่ว่าถึงแล้วเหรอ บอกว่าวันนี้จะเลี้ยงข้าวเจียงเคอนี่ อย่ามองว่าเขาเป็นแค่หัวหน้าแผนก แต่ก่อนเป็นถึงคนใหญ่คนโตนะ เส้นสายในอำเภอผิงอันเยอะมาก!”

ในตอนนี้พี่สามก็พูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

“เสียดายเย็นนี้เขาไม่มีเวลา ภัตตาคารก็ต่อแถวจนเต็มแล้ว!”

ทุกคนก็เริ่มพูดขึ้น

ส่วนเฉินเกอเหรอ ฟังความหมายแล้วเจียงเคอคนนี้คงจะเป็นเจียงเว่ยตงสินะ?

แต่ว่าก็ไม่พูดอะไร

เห็นว่าทุกๆคนต่างไม่มีเวลา เฉินเกอก็ไม่ได้รบเร้าอีก

ช่างมันเถอะ พวกเขาก็ต่างมีงาน

บอกกับที่บ้านของอากงหวูคำหนึ่ง แล้วเฉินเกอก็กลับไปแล้ว

เพราะว่าซูมู่หานโทรศัพท์มาหา

“เฉินเกอ สุขสันต์วันเกิดนะ!”

ซูมู่หานว่า

“ยังไม่ถึงวันเกิดของฉันเลย สุขสันต์วันเกิดนี่รีบพูดไปหน่อยนะ!”

นอนอยู่บนเตียง เฉินเกอก็ยิ้ม

“ฉันบอกตอนนี้ เที่ยงคืนของคืนนี้ก็จะบอกกับนายอีก ใครให้ฉันกลับไปไม่ได้กันล่ะ อ๋อใช่แล้วเฉินเกอ อีกสองวันนายจัดการงานเสร็จมาหาฉันได้ไหม? ตอนนี้ฉันอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ วันนี้เพิ่งจะมีนักข่าวฝึกงานย้ายมา ในที่สุดฉันก็ได้ทำในเรื่องที่ฉันอยากทำแล้ว!”

ซูมู่หานพูดอย่างอารมณ์ดี

เรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ซูมู่หานก็บอกกับเฉินเกอไปแล้ว

เรื่องจะสมัครสอบนักข่าวฝึกหัด

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ผ่านแล้ว เฉินเกอเองก็ดีใจกับเธอด้วย

“โอเค รออีกสองวันฉันจะไปหาเธอ ไปฉลองให้เธอกัน!”

เฉินเกอยิ้ม

“โอเค แต่ว่าก็ไม่แน่ อีกไม่กี่วันฉันจะมีวันหยุดสั้นๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน พรุ่งนี้นายตั้งใจว่าจะฉลองวันเกิดยังไงเหรอ?”

เฉินเกอก็คุยเรื่องจะฉลองวันเกิดกับซูมู่หาน

พอคุยกันจบแล้ว ซูมู่หานก็ต้องไปอาบน้ำ ก็เลยวางสายกันไปก่อน

แต่เพิ่งจะวางสาย โทรศัพท์ของตัวเองก็ดังขึ้นมาอีก

ครั้งนี้เป็นฉินหยาที่โทรมา

“เฉินเกอ พรุ่งนี้นายมีงานวันเกิดใช่ไหม?”

แค่เริ่มคุยฉินหยาก็ถามขึ้น

เฉินเกอแค่ตอบรับว่าอืมไปคำหนึ่ง

“เหอะ ทำไมนายไม่เห็นชวนฉันเลย วันนี้ฉันกำลังรอ รอว่าเมื่อไหร่นายจะมาชวนแต่กลายเป็นว่าจนถึงตอนนี้ก็นายก็ไม่ชวน นายลืมฉันไปแล้วใช่ไหมล่ะ?”

“ฉันเปล่านะ ก็แค่ฉันอยู่ที่บ้านน่ะ ก็แค่ฉลองกันง่ายๆก็โอเคแล้ว!”

เฉินเกออธิบาย

บอกตามตรง เฉินเกอเองนั่นแหละที่ไม่คิดจะชวนฉินหยา

ถึงแม้จะรู้ว่าฉินหยาดีกับตัวเองมากๆ

แต่ว่าตอนนี้เฉินเกออยากจะคบกับซูมู่หานดีๆ แล้วก็ไม่มีทางหลายใจให้ไปตามตอแยฉินหยานี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

แถมครั้งก่อนที่เกิดเรื่องกับฉินหยาขึ้นที่นี่ เฉินเกอเองก็เกรงใจที่ขอให้ฉินหยามาอีกครั้ง

“ไม่ว่านายจะชวนหรือไม่ชวน พรุ่งนี้ฉันก็จะไปหานายที่บ้าน! ยกเว้นนายจะบอกว่านายไม่ใช่เพื่อนของฉันแล้ว!”

กลางห้องในวิลล่า

ฉินหยากำลังพิงอยู่กับหัวเตียง แล้วกำลังใช้โทรศัพท์บ้านคุย

สุดท้ายเฉินเกอก็พยักหน้าอย่างหน่ายๆ

แล้วก็หาข้ออ้างว่าตัวเองยุ่ง แล้วก็วางสายไป

“หึ ไอ้คนบ้า ช่างทำตัวเย็นชากับฉันเสียจริง!”

ฉินหยาวางโทรศัพท์ลงพูดขึ้นด้วยแววตาเศร้าๆ

ตอนแรกเธอคิดว่าเฉินเกอจะเป็นคนมาชวนเธอก่อน แต่กลับไม่มี ถ้าไม่ใช่เธอเป็นคนโทรไป เขาคงไม่มีทางชวนตัวเอง

แถมช่วงนี้ มีเวลาที่ตัวเองไปหาเพื่อจะคุยกับเฉินเกอ เขาก็แค่ตอบกลับมาไม่กี่คำอย่างเย็นชา

นี่ทำให้ภายในใจของฉินหยารู้สึกแย่ไม่น้อย

ยิ่งรู้สึกแย่ ก็ยิ่งคิดเรื่องนี้

ก๊อกๆๆ.....

ในตอนนี้ ประตูห้องก็ดังขึ้น

“เสี่ยวหยา หลับหรือยัง? แม่กับพ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกนิดหน่อย!”

ในเวลานี้พ่อกับแม่ของฉินหยาก็ถามขึ้น

“พ่อ แม่ หนูยังไม่หลับค่ะ พ่อกับแม่เข้ามาเถอะค่ะ!”

จากนั้นพ่อฉินแม่ฉินก็เดินเข้ามา

แต่ว่าใบหน้าของพ่อฉินในตอนนี้ มีแววโศกเศร้าอยู่เล็กน้อย

“เสี่ยวหยา เรื่องๆนี้พ่อก็รู้ว่าลูกไม่อยากได้ยิน แต่ว่าครั้ง ฉินหยาแห่งเยี่ยนจินบังคับลงมา สั่งให้ลูกหมั้นกับคุณชายสามของตระกูลหลงแห่งเยี่ยนจิง เรื่องนี้มันไม่มีวิธีแล้วจริงๆ ครั้งก่อนหน้าเป็นคุณชายเฉินเกอที่ช่วยพวกเรา คลายปัญหาด้านการเงินของครอบครัวเรา แต่ว่าในสายตาตระกูลฉินยังคงมีความกดดันอยู่ ช่วยไม่ได้ยังไงเราก็ขอร้องให้คุณชายเฉินเกอช่วยตลอดไม่ได้ เรื่องที่จะนัดหมั้นกับตระกูลหลงลูกคิดว่ายังไง?

คุณพ่อฉินถามขึ้น

ส่วนคุณแม่ฉินเองก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถึงแม้ว่าตอนนั้นพวกเรากับตระกูลฉินจะตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว แต่ว่าผลกระทบที่มีต่อพวกเราก็มีอยู่มาก ลุกก็อย่าโทษพ่อขอลูก พ่อของลูกก็ไม่มีวิธีแล้วเหมือนกัน ยังไงก็ต้องคิดถึงบริษัทเอาไว้ก่อน ต้องคิดเผื่อคุณลุงคุณน้าแล้วก็พวกพนักงานของพวกเราเอาไว้ก่อนนะ!”

“พ่อ ถ้าเกิดว่าคิดวิธีไม่ออกแล้ว ก็ไปขอให้เฉินเกอช่วยอีกทีซิ เฉินเกอจะต้องช่วยหนูแน่ๆ!”

ฉินหยาพูดขึ้นด้วยขอบตาแดงก่ำ

“เห้อ ถึงอำนาจของคุณชายเฉินเกอจะมีมาก แต่ว่าบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ปก็มีอำนาจแค่ในเมืองจินหลิงเท่านั้น แต่ว่าทางฝั่งตระกูลฉินแห่งเยี่ยนจิงแล้วก็ตระกูลหลงก็มีบริษัทเหมือนกันนี่!”

คุณพ่อฉินถอนหายใจ

“อีกอย่างพรุ่งนี้คุณชายสามของตระกูลหลงอาจจะมา ลูกก็อยู่ในบ้านเตรียมตัวเอาไว้ ลองเจอหน้ากันก่อน ถ้าเกิดว่าไม่ประทับใจเลยจริงๆ ค่อยคิดหาวิธีก็ยังไม่สาย!”

คุณพ่อฉินบอก

“ไม่ได้ค่ะ พรุ่งนี้หนูไม่มีเวลา วันเกิดของเฉินเกอ หนูจะไปฉลองวันเกิดให้เขา!”

ฉินหยาพูดขึ้นอย่างโมโห

“ไม่ได้ ลูกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น อย่าเอาเรื่องนี้ไปรบกวนคุณชายเฉินเกออีก ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้ไม่รู้ความเลย!”

พูดจบคุณพ่อฉินก็ลากตัวคุณแม่ฉินออกไป

ฉินหยาโมโหจนน้ำตาไหลออกมา.......

กลับไปพูดถึงเฉินเกอ

รอจนอีกวันหนึ่ง พอหกโมงกว่าๆเฉินเกอก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

เมื่อคืนก็โทรหาหลี่เจิ้นกั๋วแล้ว พวกเขาน่าจะมากันแต่เช้า เพราะฉะนั้นเฉินเกอจะต้องเก็บบ้าน

ต้อนรับวันเกิดอายุครบยี่สิบสองของตัวเอง

“เฉินเกอ ได้ยินว่าแม่ฉันบอกว่านายกลับมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าฉันมาหานายกี่ครั้ง นายก็ไม่เคยอยู่เลย”

ในเวลานี้ที่ประตูบ้าน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน