ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 289

บทที่289 คืนก่อนงานเลี้ยงวันเกิด

คู่สามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งพร้อมกับคู่สามีภรรยาวัยกลางคนอีกคู่หนึ่งแถมเด็กวัยรุ่นอีกคนหนึ่งเดินออกมา

เห็นว่าเจียงหรานหรานกำลังคุยอยู่กับเฉินเกอ

ทันใดนั้น คนวัยกลางคนคนแรกก็ทำเสียงเยาะเย้ย แล้วก็เดินมาหา

และคนวัยกลางคนคนนี้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นเจียงเว่ยตง

“พ่อ พ่อทำอะไรคะ หนูช่วยเฉินเกอซื้อของ!” เจียงหรานหราน พูดขึ้นอย่างข้องใจ

“อะไรนะ? ลูกยังช่วยซื้อของให้เขาอีก? เหอะ ต่อให้หายพ่อก็ไม่ให้เขาหรอก!”

เจียงเว่ยตงกระชากสายไฟแล้วโยนทิ้งลงไปบนพื้น

ครั้งก่อนเจียงเว่ยตงยอมลดศักดิ์ศรีลงเตรียมจะไปขอให้เฉินเกอช่วยเหลือ ผลลัพธ์ออกมาก็คือเขาไม่สนใจเลยสักนิด

ทำให้เจียงเว่ยตงโมโหมากๆ

“ใช่แล้วลูก หรานหรานไม่ใช่ว่าเคยบอกลูกแล้วเหรอว่าอย่ามายุ่งกับคนพวกนี้บ่อยๆ เด็กคนนี้ทำไมถึงไม่เคยจำเลยนะ?”

ถังหรานก็เดินมาหาเหมือนกัน มองเฉินเกอด้วยสายตาดูถูกแล้วพูดขึ้น

“คุณอาเจียง คนนี้ใครเหรอครับ?”

ส่วนวัยรุ่นคนนั้นก็เดินมาแล้วก็ถามขึ้น

“เป็นลูกของคนที่รู้จักคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวกู่ในเมืองนี้แหละ!”

เจียงเว่ยตงพูดยิ้มๆ

“เจ้าเจียง ทำไมนายถึงดูเหมือนมีการเข้าใจผิดกันกับเด็กหนุ่มนี่กันล่ะ?”

ส่วนคนวัยกลางคนอีกคนหนึ่งก็ถามขึ้น

ที่พวกเขารวมกลุ่มกันมาครั้งนี้ นอกจากเรื่องนั้นแล้ว ยังมีอีกเป้าหมายหนึ่ง ก็คือมาจับคู่ให้กับเด็กๆ

ตอนนี้เห็นว่าหรานหรานกับเด็กหนุ่มตรงหน้านี่ก็ดูเข้ากันได้ดี เห็นว่าลูกชายก็กังวลเรื่องนี้ดังนั้นชายวัยกลางคนคนนั้นก็เลยถามขึ้น

“เหอๆหัวหน้าหวาง ไม่ใช่แค่เข้าใจอะไรผิด คนๆนี้ไม่มีแม้แต่มารยาทเลยด้วยซ้ำ ครั้งก่อนเจ้าเจียงไปหาเขากลายเป็นว่าแม้แต่เงาของเขาก็ไม่มี ปล่อยให้พวกเราไปฟรีๆตั้งครั้งหนึ่ง!”

ถังหรานพูดอย่างโมโห

“เหอะ หรานหรานกลับ ต่อไปถ้าพ่อเห็นว่าลูกคุยกับคนชั้นต่ำแบบนี้อีก อย่าหาว่าพ่อไม่เตือน!”

เจียงเว่ยตงพูดขึ้นเสียเย็น

พูดจบยกเหยียบสายไปฟที่เจียงหรานหรานซื้อมาเมื่อกี้อีกแล้วเดินไป

“คุณเจียง!”

ในตอนนี้เฉินเกออดทนที่จะไม่พูดไม่ไหวแล้ว

แน่นอนว่าคนอย่างเฉินเกอไม่มีทางเรียกลุง เรียกน้าอะไรแบบนั้นหรอก

“เหอะ แกมีเรื่องอะไรอีก?”

เจียงเว่ยตงพูดขึ้นเสียงด้วยเสียงเย็นชา

“ครั้งก่อนผมก็ระดมทุนให้คุณแล้วตั้งห้าแสน ก็นับได้ว่าช่วยคุณไปเรื่องหนึ่งแล้ว คุณมาพูดจากับผมแบบนี้ ถ้าเกิดมีข่าวออกไป เกรงว่าผลกระทบคงไม่ดีมั้งครับ? อีกอย่างที่น้าถางพูดว่าทั้งครั้งก่อนพวกคุณมาหาพวกเรา แล้วปล่อยให้พวกคุณไปฟรีๆเนี่ย บางทีคุณเจียงอาจจะลืมไปแล้วปีนั้นที่ผมกำลังจะขึ้นมัธยมปลาย ผมกับพ่อของผมรอคุณอยู่ที่ข้างล่างตึกของคุณตั้งสามสี่ชั่วโมงถึงจะได้เจอคุณ คุณแค่พูดว่าไม่มีเวลาคำเดียวก็ไล่พวกคุณไปแล้ว? ทำไมครับ? แค่พวกคุณมาเสียเที่ยวผมก็ผิดแล้วอย่างนั้นเหรอ?”

เฉินเกอว่าขึ้น

“เหอะ หมายความว่ายังไง? แบบเจ้าเจียงนั่นคือกำลังยุ่ง ใครจะไปมีเวลานั้นสนใจพวกเธอสองคนพ่อลูกกัน ตอนนั้นที่ไม่สนใจพวกเธอน่ะถือว่าถูกแล้ว! ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด!”

ถังหรานด่า

เห้อ ดูแล้วการเข้าใจนี่มันค่อนข้างจะใหญ่อยู่นะ ตอนแรกก็คิดว่าจะให้พ่อหนุ่มบ้านนอกคนนี้พาเที่ยวรอบๆหมู่บ้านเสียหน่อย เป็นมัคคุเทศก์น้อยอะไรพวกนี้ ตอนนี้ดูแล้วช่างมันเสียเถอะ!”

วัยรุ่นคนนั้นยิ้มดูถูก

“จะมาเป็นมัคคุเทศก์ พวกเราเป็นใครกัน ถ้าเกิดจะหาคนก็หาคนที่มีความสามารถทางด้านนี้โดยเฉพาะ หึ!”

หญิงวัยกลางคนอีกคนเห็นว่าถังหรานกับเจียงเว่ยตงเกลียดคนๆนี้มาก ตัวเองก็เริ่มรู้สึกเกลียดขึ้นมาเหมือนกัน

เวลาพูดก็ไม่ค่อยให้เกียรติ

เฉินเกอไม่โกรธ กลับยังยิ้มกริ่ม

“ดีครับ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน คุณเจียงไว้เจอกันใหม่!”

ทันใดนั้น เฉินเกอก็ขับรถจากไป

แต่รอจนตอนที่เฉินเกอขับรถ

วัยรุ่นคนนั้นถึงได้เห็นว่ารถออดี้A6คันนั้น ก็คือของเฉินเกอ?

“โอ้โห เด็กหนุ่มคนนั้นขับรถดีขนาดนี้เชียว?”

วัยรุ่นคนนั้นถึงกับงงงวย

นี่เป็นอะไรที่คิดไม่ถึงจริงๆ เมื่อกี้ยังดูถูกเขาอยู่เลย กลายเป็นว่าตัวเองแม้แต่ออดี้ยังไม่มีปัญญาใช้

“มีอะไรที่น่าภูมิใจนักหนา แค่มองก็รู้แล้วว่ามือสอง ตอนนี้ดูแล้วเขาเองก็ไม่มีปัญญาซื้อมือหนึ่งขับหรอก เห็นเขาแล้วมันช่างกระทบกระเทือนจิตใจของพวกเราเสียจริงๆ!”

ถังหรานพูดขึ้น

“หึ ไม่พูดถึงขาแล้ว!”

เจียงเว่ยตงทำเสียงขึ้นจมูกครั้งหนึ่ง

พูดถึงเฉินเกอหลังจากที่โมโหจนเต็มที่แล้วนั้น ตอนนี้ก็มาถึงบ้านแล้ว

หลังจากที่ถึงบ้าน

หน้าประตูบ้านของอากงหวูมีรถจอดอยู่ไม่น้อย

ดูแล้วคงจะเป็นพี่ใหญ่พี่รองพี่สามกลับมาแล้ว

เฉินเกอบีบแตรอยู่สองครั้ง อยากจะหาให้คนมาช่วยยกของ

พอดีที่ในสวนหน้าบ้าน ก็มีคนยืนอยู่สองสามคน

ทันทีที่เห็นรถออดี้หน้าประตูก็ลุกขึ้นยืนอย่างสงสัย

อากงหวูอาม่าหวูก็ออกมาเหมือนกัน

ตอนที่เฉินเกอเปิดประตูรถออกมา พวกเขาทั้งหมดก็ชะงักไป

“เฉินเกอ? ทำไมแกถึงได้ขับรถออดี้ล่ะ?”

ลูกสะใภ้คนโตอึ้ง

ถ้าเป็นแบบนี้ เหมือนจะเก่งกว่าลูกชายของตัวเองอีกนะ!

“เหอะ ดูรถออดี้คันนี้ ทำไมถึงดูเหมือนรถมือสองนะ!”

สีหน้าของหวูเฟิงก็เปลี่ยนเป็นโมโหขึ้นมาในทันทีเหมือนกัน ยังไงรถคันที่ตัวเขาขับก็แค่สองแสนเอง ตอนนี้เฉินเกอกลับขับรถออดี้A6 แน่นอนว่าก็เริ่มอยู่ไม่สุข

ตอนนั้นก็เลยพูดออกไป

แถมยังเหยียบไปบนล้อของรถออดี้ท่าทางดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก “ไม่ต้องตกใจกันไปครับ รถมือสองเอามาทำใหม่แบบนี้เห็นได้บ่อยๆ ถ้าเกิดหาเพื่อนหาคนที่สนิทๆด้วยได้ ไม่กี่แสนก็ซื้อได้แล้ว ตอนนั้นเพื่อนของผมยังยุให้ผมซื้อรถออดี้มือสองคันละไม่กี่แสนขับอยู่เลย เท่จะตายไป แต่ว่าผมปฏิเสธไป คนที่จนมากๆถึงจำเป็นจะต้องขับรถดีขนาดนี้เพื่ออวด!”

“ก็ใช่น่ะสิ เฟิงจื่อพูดถูก ออดี้มีแค่เจ้าของกิจการรวยๆถึงจะขับ!”

คนหนุ่มอีกคนพูดขึ้น

เขาชื่อหวูเจี๋ย

ครั้งนี้ดูเหมือนจะกลับบ้านแล้ว

“พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่รถของผมเป็นของคนอื่นที่ให้ผมยืมขับสองสามวัน!”

เฉินเกอยิ้มบางๆ

“เหอะ ก็นึกว่านายได้เลื่อนขั้นแล้วซื้อรถเองเสียอีก ที่แท้ก็ยืมมา!”

พวกลูกสะใภ้ก็สบายใจขึ้น แล้วยิ้มเยาะ

ส่วนเฉินเกอก็แค่มองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นหวูเชี่ยน

ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่มา แต่ก็ไม่ได้ถาม

“อากงหวู นี่เป็นของที่ผมซื้อมาให้ครับ พวกเรามายกเข้าไปกันเถอะครับ!”

เฉินเกอหันไปมองทางอากงหวู

“เจ้าเด็กคนนี้ ทำไมถึงได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายอีกแล้ว แถมยังซื้อขอมาเยอะขนาดนี้อีก!”

อาม่าหวูทำเหมือนว่าโกรธ ว่าเฉินเกอใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย

“ไม่เป็นไรครับ นี่ก็เป็นของใช้จำเป็นทั้งนั้น ไม่ได้แพงเท่าไหร่ หม้ออัดแรงดันอันนี้ สามารถซื้อพวกกระดูกชิ้นใหญ่ๆมาตุ๋นซุปกิน ดีต่อร่างกายครับ!”

เฉินเกอยิ้มๆ

ส่วนคำพูดดูถูกของคนอื่นๆเฉินเกอก็ได้เมินไปเสีย

“เหอะๆ หม้ออัดแรงดันนี่มียี่ห้อด้วยนะ? จ่ายไปเท่าไหร่ล่ะ?”

ลูกสะใภ้รองพูดขึ้นด้วยความอิจฉา

“ไม่มากเท่าไหร่ครับ ห้าร้อยกว่าๆ!” เฉินเกอบอก

“เหอะๆ อย่างนั้นหม้อใบนี้ก็สู้ใบที่ตำแหน่งของหวูเฟิงแจกให้ไม่ได้น่ะสิ หม้อใบที่คนอื่นเขาให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน ได้เข้าไปทำงานในตำแหน่งก็ดี แถมของที่ไม่ต้องจ่ายเงิน พอได้ใช้ถึงจะเป็นของที่ใช้ดีจริงๆ!”

ตอนนี้สะใภ้สามกำลังอวดตัวหวูเฟิง

“หวูเชี่ยนของพวกเราก็ไม่น้อยหน้านะ พวกน้ำมันถั่วลิสงเอย ปลาหมึกเอย ปลาดาบเงินใหญ่ อะไรต่อมิอะไร ทุกสองเดือนบริษัทจะแจกครั้งนึง พวกเราก็กินไม่หมดกองไว้อยู่ที่บ้านโน่นแน่ะ ของพวกนี้ไหนที่จะต้องจ่ายเงินซื้อ! จริงๆเชียว!”

สะใภ้สองก็พูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ “ใช่สิ วันนี้เพื่อนร่วมงานของเสี่ยวเชี่ยนก็เรียกไปกินข้าวด้วยกัน เหมือนว่าแทบจะได้โดนเลี้ยงข้าวทุกวัยเลยมั้ง ไม่ได้ทำอาหารกินที่บ้านด้วยซ้ำ ของพวกนี้ไม่ได้ใช้เลย.....”

คนกลุ่มหนึ่งพูดกันเจี้ยวจ้าว

ไม่มีใครมาช่วยเฉินเกอยกของ

สุดท้ายก็เป็นอากงหวูอาม่าหวูมาช่วยกันยกของเข้าไปด้วยกัน

“อ๋อใช่......”

หลังจากที่เข้าไปทั้งหมดแล้ว เห็นว่าพวกเขาก็เข้าบ้านมากันหมดแล้ว

เฉินเกอก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องจะบอกกับพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน