เมื่อได้ยินข่าวนี้ เฉินเกอเองรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร
เรื่องของจ้าวยีฟาน ทั้งที่ตัวเองนั้นเป็นคนจัดการ
เฉินเกอไม่อยากจะยุ่งกับจ้าวยีฟานแล้วจริง ๆ แค่อยากจะช่วยแค่นั้นเอง เพราะเห็นแก่หน้าของหม่าเสี่ยวหนาน
แต่ตอนนี้จ้าวยีฟานนั้นเข้าใจผิดไปเอง เธอคิดว่าคนที่ช่วยเธอคือจวงเฉียง และเป็นวีรุบุษ
และสุดท้ายก็ตกลงปลงใจกับจวงเฉียง
จ้าวยีฟานสวยมาก ไม่เคยคบกับใครมาก่อน เป็นผู้หญิงในอดุมคติแน่นอน
สำหรับผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์สวยแบบนี้ หากพูดว่าไม่ชอบมันเป็นคำโกโหหรอก
ตัวเองจะหาโอกาสบอกความจริงกับจ้าวยีฟานดีไหม ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้สึกอยากขอบคุณตัวเอง แต่ก็ดีกว่าที่เธอจะเข้าใจผิดแบบนี้ แล้วเลือกคบกับคนอื่น
เฉินเกอกำลังครุ่นคิดภายในใจ
และคนที่จะไปร่วมงานนี้ต่างก็ไปนั่งรถแท็กซี่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มุ่งหน้าตรงไปยังภัตตาคารหมิงหวางบนถนนการค้าจินหลิง
พิธีเปิดภัตตาคารหมิงหวาง โดยเส้นสายของพ่อกับลูกจากตระกูลจวง แน่นอนว่าคึกคักไม่ธรรมดา
ทั้งห้องโถงใหญ่แขกเหรื่อแน่นขนัด
เดินเข้าเดินออกต่างก็ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงทั้งนั้น
“คุณชายจวงสุดยอดจริง ๆ ยีฟาน ต่อไปนี้ภัตตาคารหมิงหวางบนถนนการค้าจินหลิงจะเป็นของบ้านจวงแล้ว พวกเราสามารถมาบ่อย ๆ ได้ไหม”
หลินเจียวพูด
“ได้สิ ไม่ดูเลยหรอว่ายีฟานเป็นใคร เมื่อมีจวงเฉียงแล้ว คงไม่ลืมพวกเราหรอก ใช่ไหมยีฟาน”
กลุ่มสาว ๆ เมื่อเดินเข้ามาแล้ว สายตาก็กวาดมองไปรอบ ๆ รู้สึกดีใจแทบบ้า
“อืม ๆ พวกเราต่างก็เป็นเพื่อนกัน ได้อยู่แล้ว” จ้าวยีฟานพยักหน้าเล็กน้อย
“ที่จริงแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ทุกคนไม่รู้ ภัตตาคารหมิงหวางนี่ ก็ไม่ใช่จะเป็นของบ้านจวงซะทั้งหมด”
พวกเธอต่างดื่มเหล้าและเดินไปทั่วงาน ส่วนจ้าวยีฟานเองก็พูดไปด้วย
“อะไรนะ นี่ไม่ใช่ครอบครัวคุณชายจวงซื้อไว้แล้วหรอ”
“ไม่ใช่หรอก บ้านของจวงเฉียงซื้อภัตตาคารหมิงหวางโดยการรับมอบอำนาจ คนที่ได้ผลกำไรที่จริงแล้ว คือ นายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของถนนการค้าจินหลิง เพราะถนนเศรษฐกิจทั้งสายนี้ ก็เป็นของนายใหญ่คนนี้แหละ ”
จ้าวยีฟานพูด สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป
“ทั้งหมดนี้เป็นของคนคนเดียวหรอ ไม่ใช่หอการค้าจินหลิงร่วมกันทำหรอ”
“โอ้ย ใครจะไม่รู้ล่ะว่าเงินที่ถนนการค้าจินหลิงนั้นเยอะอย่างกะน้ำท่วม และกระแสน้ำท่วมสายนี้ไม่รู้จักหยุดด้วย ข่าวเองยังรายงานว่า ถนนทั้งสายนี้ในแต่ละวันมีเงินไหลสะพัด ทะลุถึงหนึ่งร้อยล้าน หนึ่งเดือนก็สามพันกว่าล้านแล้ว”
“แค่ภัตตาคารหมิงหวางร้านเดียว ก็มีรายได้ต่อเดือนประมาณสิบกว่าล้านแล้ว หนึ่งปีก็ร้อยกว่าล้าน ธุรกิจของบ้านคุณชายจวงถึงแม้ว่าจะเติบโตดี แต่เงินที่ไหลผ่านไปผ่านมาแบบนี้ ก็ได้กำไรเต็ม ๆ แล้ว ”
หลินเจียวและคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินก็แทบพากันช็อค
ที่จริงแล้ว ถนนการค้าจินหลิงไม่ใช่หอการค้าจินหลิงร่วมกันสร้างขึ้น แต่เป็นของคนแค่คนเดียวสร้างขึ้น
เชี่ย มูลค่ามันเท่าไรนี่
“ไม่ไหว ๆ ฉันจะบ้าตาย ไม่รู้ว่าเฒ่าแก่คนนี้จะมีลูกชายไหม หากมี ฉันได้แต่งงานกับเขาก็พอใจแล้ว”
หลินเจียวและสาว ๆ คลั่งไคล้กันใหญ่
จ้าวยีฟานยิ้มอย่างฝืน ๆ พร้อมกับส่ายหน้า “วันนี้ช่วงเที่ยงจวงเฉียงบอกฉันว่า เฒ่าแก่ที่อยู่เบื้องหลังคนนี้ มีพี่สาวอีกคนหนึ่ง เฒ่าแก่ผู้ชายมีหุ้นทั้งหมด 70% บนถนนสายนี้ และได้ยินมาว่า ทุกคนเรียกเขาว่า คุณชายเฉิน ช่วงเที่ยงผ่านมาดูเหมือนว่าเขาก็มาจินหลิงนะ ยังหนุ่มอยู่ แต่ทายาทเศรษฐี เสียดาย ที่บ้านจวงเพิ่งจะได้อำนาจในการซื้อแทนเมื่อช่วงบ่าย เลยไม่มีวาสนาได้เจอกับท่านผู้นั้น”
เธอคิดในใจ
ท่านผู้นี้จะเป็นคนอย่างไรนะ แล้วจะสนใจผู้หญิงธรรมดา ๆ ไหม
เป็นไปได้อย่างไร ที่จ้าวยีฟานเองยังชื่นชมท่านผู้นี้ และต้องการที่จะเช็คข้อมูลของเขา แต่ข้อมูลที่เกี่ยวกับเขาในอินเทอร์เน็ตไม่มีแม้แต่น้อย
อ่ะ !
เฉินเกอที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
โดยเฉพาะที่จ้าวยีฟานบอกว่า ท่านผู้นั้นยังหนุ่มอยู่ แล้วก็เป็นทายาทของเศรษฐีด้วย
ตัวเองดังขนานี้เลยหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...