หยางเสว่ควงแขนของลู่หยางอย่างสนิทสนม
เธอดูตกใจที่เห็นเฉินเกอกับหม่าเสี่ยวหนานและคนอื่น ๆ
และคิดไม่ถึงว่า งานเลี้ยงที่หรูหราขนาดนี้ พวกเขาจะมาได้
เฉินเกอมองหยางเสว่ที่แต่งตัวด้วยเครื่องประดับอันสวยหรู ที่แท้เช้านี้ลู่หยางซื้อของให้หยางเสว่นั้นเพื่อมางานเปิดภัตตาคารหมิงหวางเอง
เมื่อเห็นหยางเสว่ดูมีความสุข
เฉินเกอเลยคิดว่า บางทีหยางเสว่กับลู่หยางอาจจะเป็นรักแท้
เพราะเมื่อก่อนตัวเอง เป็นได้แค่เครื่องมือที่ทำให้หยางเสว่คลายเหงา
แค่คิดก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นตลก ที่เมื่อวานตัวเองยังเป็นห่วงหยางเสว่อยู่เลย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่ต้องการความห่วงใยจากเฉินเกอแล้ว
“คุณชายจวง ไม่คิดว่าคุณจะรู้จักกับเฉินเกอและคนอื่น ๆ อีก”
ลู่หยางพูดขึ้นด้วยความเคารพและเกรงใจ
กำไรโรงงานของบ้านของลู่หยางนั้น เทียบกับกำไรธุรกิจของบ้านของจวงเฉียงไม่ได้หรอก แม้แต่สักนิด
ที่เขามาในวันนี้ ก็เพราะแม่ของลู่หยางและแม่ของจวงเฉียงเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกัน และพักหอพักเดียวกันด้วย เป็นเพื่อนสนิทกันและมีการติดต่อกันโดยตลอด
ดังนั้น ครั้งนี้ที่หมิงหวางได้เปิดกิจการนั้น แม่ของลู่หยางเลยกำชับให้เขาพาหยางเสว่มาร่วมงานด้วย
“เฮอ ๆ พวกเขาต่างล้วนเป็นเพื่อนของยีฟาน ลู่หยาง แล้วคนเหล่านี้ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนายหรอ”
จวงเฉียงถามขึ้นลอย ๆ
“ใช่แล้วครับคุณชายจวง พวกเขาเป็นเพื่อนห้องข้าง ๆ ครับ”
“พี่จวงเฉียง เฉินเกอนี้มันกระจอก ขนาดภัตตาคารหมิงหวางหรูหราอย่างนี้ คุณยังให้เขามา มันจะไม่ทำให้ราคาดูตกไปหรอ แล้วระดับของหมิงหวางล่ะ คุณดูเขาแต่งตัวสิ”
หยางเสว่มองเฉินเกอด้วยสายตาที่เหยียดหยามแล้วพูดขึ้นว่า
เธอจับมือทั้งสองของลู่หยางไว้ ยิ่งเป็นการเพิ่มความสนิทสนมมากขึ้น
หยางเสว่ทำอย่างนี้ก็เพื่อให้เฉินเกอดู ที่เธอนั้นหลังจากแยกกับเขาแล้วมีสถานะเป็นอย่างไร แม้แต่พิธีการเปิดภัตตาคารหมิงหวางก็ยังสามารถมาร่วมได้
ใช่ เฉินเกอนี่ดวงเขาดีจริง ๆ ถูกรางวัลมูลค่าสองแสน แต่เมื่อเทียบกับเขา เขาแทบเทียบชั้นไม่ติด
และ จวงเฉียงมีความเห็นคล้าย ๆ กับคำที่หยางเสว่พูดออกมา มือของทั้งสองล้วงที่กระเป๋าแล้วพูดขึ้น
“ทำให้เกรดตกก็ทำไปเถอะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็สามารถชื่นชมได้ จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในเกรดดี ๆ เสมอไป”
“ฮา ๆ ๆ คุณชายจวงยังไงก็เป็นคุณชายจวง คำพูดคำจาไม่ธรรมดาเลยนะ”
“ก็จริง คุณชายจวงเป็นใคร แต่ว่าก็ฟังดูมีเหตุผล หากไม่มีเกรดต่ำ ๆ แล้วเกรดสูง ๆ จะมาได้จากที่ไหนกัน”
“พอเถอะ พอเถอะ กล่าวหาเฉินเกอแบบนี้มันดีหรอ ถึงแม้จะพูดถูกก็เถอะ ฮา ๆ ๆ”
ทีนี้หยางเสว่กับหลินเจียวและคนอื่น ๆ เหมือนจะรู้ใจกัน ที่เห็นด้วยกับคำพูดของจวงเฉียง
และเฉินเกอเองก็ฟังอยู่ข้าง ๆ รู้สึกโกรธมาก
ในใจคิดว่า พวกเธอชอบเงินขนาดนี้หรอ เดี๋ยวรอก่อน จะเอาฟาดหัวพวกเธอให้ดู
เหอะ เหอะ แย่แล้ว
ในเวลานี้จวงเฉียงมองยังเฉินเกอแบบยิ้ม ๆ “เฉินเกอ นายอย่าเข้าใจผิดนะ เมื่อครู่ฉันแค่พูดล้อเล่นเฉย ๆ นายคงไม่โกรธใช่ไหม ฉันรู้ ว่านายคงไม่โกรธหรอก ทำไมจะเป็นคนที่คนอื่นหยอกล้อไม่ได้ใช่ไหม”
เฉินเกอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “จวงเฉียง วันนี้นายตั้งใจจะหายเรื่องใช่ไหม”
เฉินเกอยังคิดว่าจ้าวยีฟานเป็นคนให้ตัวเองมา เพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกับและความสัมพันธ์กับจวงเฉียง
เขากับจวงเฉียงดีกันแล้ว แต่อย่างน้อยตัวเองก็เคยเลี้ยงข้าวพวกเธอในสถานที่ที่ดีที่สุดมาแล้ว
นี่มันมีเหตุมีผล
แต่ตอนนี้เฉินเกอเข้าใจแล้ว ว่านี่คือการตั้งใจทำให้ตัวเองอับอาย
“โอ๋ ๆ ๆ โกรธแล้วหรอ คุณชายจวงให้เกียรตินายแล้วนะ ที่ให้นายมานี่มันก็เป็นคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว แล้วจะโมโหทำไม เหอะ ๆ ”
หยางเสว่เห็นทุกคนต่างดูถูกเฉินเกอ รู้สึกว่าสะใจมาก และยังมองออกว่าจวงเฉียงนั้นเกลียดเฉินเกอไปแล้ว
ที่เป็นแสดงตัวตนเองของตัวเอง อย่างน้อยก็เป็นความประทับใจที่อยู่ในใจของคุณชายจวง
“พอได้แล้ว จวงเฉียง นายจัดที่นั่งไว้ตรงไหน”
จ้าวยีฟานถามขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...