ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 330

บทที่ 330 หยางเสว่ที่ร้อยเล่ห์มารยา

ในใจฉินหยาแค่คิดง่ายๆว่า

ถ้าตัดขาดเยื่อใยอันเด็ดขาดอย่างนี้กับเฉินเกอ

ถ้าพูดถึงในแง่ของผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าบอกว่าเต็มใจคงเป็นไปไม่ได้

ถึงตัวเองจะแย่ขนาดไหนก็คงไม่ถึงขั้นไม่มองตัวเองสักแวบเดียวหรอกมั้ง

และถ้าหากเฉินเกอทำอะไรเพื่อเธอสักเรื่องหนึ่ง ในใจฉินหยาจะได้ไม่ต้องเสียใจมากเท่าไหร่นัก

มันไม่ใช่แผนการชั่วร้ายอะไร

ก็แค่อยากจะให้เฉินเกอทำเพื่อเธอสักเรื่องหนึ่ง พิสูจน์ว่าตัวเองยังมีความสำคัญต่อเขาอยู่บ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อาจจะพอใจแล้ว

พูดคร่าวๆก็เป็นแบบนี้แหละ

แต่ตอนนี้เฉินเกอรู้สึกลังเลมาก

เมื่อก่อนปลอมตัวเป็นแฟนก็ไม่เป็นไร เพราะคนเป็นเพื่อนก็ต้องช่วยอยู่แล้ว

แต่เรื่องแกล้งหมั้น มันทำให้เฉินเกอรู้สึกอึดอัดมากนัก

แต่ถ้าปฏิเสธออกไป แล้วที่เคยรับปากกับฉินหยาไว้ล่ะ

เพราะยังไงสักตัวเองกับฉินหยาก็ไม่ได้มีบาดหมางอะไรกัน บวกกับเรื่องบางเรื่อง เฉินเกอยังรู้สึกซาบซึ้งและผิดต่อฉินหยาด้วยซ้ำ

“คิกคิก แค่แกล้งหมั้นเท่านั้นเอง ฉันไม่ได้ขออะไรกับคุณเลย อย่างมากคุณก็แค่เสียเวลาหนึ่งวันเอง เรื่องแค่นี้ก็ช่วยฉันไม่ได้เลยเหรอ?ขอแค่คุณช่วยฉัน หลังจากนั้นฉันจะไม่มารบกวนคุณอีกต่อไป!”

ฉินหยาพูดด้วยน้ำตา

“ได้……ได้สิ!”

ลังเลไปสักพักใหญ่ สุดท้ายเฉินเกอก็พยักหน้าตอบรับ

“แต่ผมมีข้อแม้!”เฉินเกอกล่าว

ฉินหยากัดริมฝีปากเล็กน้อย“คุณว่ามาสิ!”

“ก็คือนอกจากตระกูลฉินแห่งเยี่ยนจิง แล้วก็อย่าเปิดเผยให้ใครรู้!”

เฉินเกอพูดอย่างนี้ก็มีเหตุจำเป็นของตัวเองอยู่

เรื่องนี้จะเปิดเผยได้อย่างไรกัน

“ฉันรับปากคุณค่ะ!”

ฉินหยาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นสีหน้าก็เย็นชาเล็กน้อย พูดว่า“ถ้าอย่างนั้นคุณชายเฉิน ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว สำหรับเรื่องเวลาขอเป็นวันพรุ่งนี้เลย ฉันกลับไปแล้วจะจัดการเตรียมเรื่องนี้เอง!”

จากนั้นฉินหยาก็กลับไปกับจ้าวถงถง

หลังจากที่กลับเข้าโรงแรม เฉินเกอก็นอนลงที่เตียง เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากจะพักผ่อนสักพัก

แต่เวลานี้กลับมีเสียงเคาะประตู

เฉินเกอลุกไปเปิดประตู

“หลานรัก!”

“ท่านลุงฉิน ทำไมลุงขึ้นมาอีกแล้ว?”

เฉินเกอยิ้มอย่างไม่มีทางเลือก

ชาชราผู้นี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย แต่เป็นตาเฒ่าขอทานนั่นเอง

เพราะครั้งที่แล้ว ท่างจวงเคยช่วยตัวเองไว้ครั้งหนึ่ง

ดังนั้นเฉินเกอจึงดีต่อเขามาก ไม่เพียงแต่ตอบตกลงพาเขากลับไปบ้านเกิดที่เมืองฉู่ชวนเท่านั้น ยังให้เงินก้อนหนึ่ง แล้วยังให้ลูกน้องไปช่วยเขาตั้งหลักตรงนั้นด้วย

แน่นอน หลังจากที่รู้จักกันเขาก็ได้บอกชื่อของเขาเองให้รู้ เขาชื่อฉินอีฝาน ฟังจากชื่อแล้วน่าจะเป็นคนที่ใจกว้าง

แต่พูดตามความเป็นจริง เฉินเกอรู้สึกว่าอาจเป็นเพราะท่านฉินอายุมากแล้ว พูดจาสับสน ในบางครั้งจึงเดาไม่ถูกเลยว่าคำไหนจริงคำไหนเท็จ

รู้สึกสงสารเล็กน้อย

แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ไปไหน

ยิ่งไปกว่านั้นเดาท่านฉินไม่ถูกเลย เพราะสามารถหาเขาเจอได้อย่างปม่นยำทุกครั้งเลย

“คุณบอกว่าจะกลับกับลุงด้วยกัน!”

ท่านฉินพูดด้วยรอยยิ้ม

“ผม……ก็ได้ แต่รออีกวันสองวันผมค่อยไปเมืองฉู่ชวนนะ!”

“ไม่เป็นไร ลุงรอคุณได้ ฮาฮา คุณอย่าคิดว่าลุงเป็นภาระเลย ไม่แน่ว่าลุงอาจจะช่วยคุณได้นะ!”

ท่านฉินพูดด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง

“พอแล้วพอแล้ว ผมรู้แล้ว ขอบคุณท่านลุงฉินมาก็เลย ออก ใช่แล้ว ค่าใช้จ่ายของสองสามวันนี้ผมจะช่วยลุงออกนะ ลุงกลับไปพักก่อนนะ!”

เฉินเกอยิ้มแห้งๆพลางส่ายหัว

“ได้ แล้วลุงจะรอ อีกสองสามวันพวกเราออกเดินทางกัน!”

ท่านฉินจากไปด้วยความดีใจ

แน่นอนว่าเฉินเหอไม่ได้ให้ท่านลุงฉินไปหาจริงๆ

เขาแค่ช่วยตนมาแล้วสองสามครั้ง เฉินเกอรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก

อย่างเช่นครั้งที่ตนถูกคนสกัดกั้นไว้ ถ้าไม่ใช่เขามาช่วยดึงเขาออกมา วันนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

แต่ว่าเขาอายุมากแล้ว พูดจาวกไปวนมา ถ้าให้เขาตามติดตัวไปด้วยจริงๆ คงจะเป็นภาระอย่างแน่นอน คำพูดนี้ไม่ใช่ไม่สุภาพ แต่เขาไม่อยากจะให้เขาต้องมาลำบาก!

พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตอนเช้าๆ

เฉินเกอก็ได้รับสายจากจ้าวถงถง

แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่แกล้งหมั้นกับฉินหยา

เพื่อไม่ให้เปิดเผย เฉินเกอไม่บอกแม้กระทั่งพวกหยงหาวและหลี่เจิ้นกั๋ว

ส่วนเฉินเกอเข้าใจฉินหยาดีว่า สิ่งสำคัญคืออยากบอกให้ตระกูลฉินแห่งเยี่ยนจิงกับตระกูลหลงรู้

“เฉินเกอ ฉันรอรับคุณอยู่ชั้นล่างนะ!”จ้าวถงถงกล่าว

เป็นพิธีที่เรียบง่ายมาก คือเชิญทุกคนไปร่วมทำอาหารที่โรงแรม เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถจัดการคนในตระกูลได้แล้ว

“ได้ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้!”

เฉินเกอยิ้มแห้งๆแล้วพูด

ตอนที่เฉินเกอลงมาถึงชั้นล่าง จ้าวถงถงก็มานั่งรอแล้ว

จากนั้นเฉินเกอเตรียมจะไปด้วยกัน

ผลปรากฏว่าเวลานี้เฉินเกอเห็นข้างๆโรงแรมมีรถคันหนึ่งจอดไว้

มีหยางลู่ยืนอยู่ด้านหน้ารถ

เมื่อเห็นเฉินเกอ หยางลู่ก็วิ่งมาอย่างช้าๆ

“เฉินเกอ!ฉันมาหาคุณ แต่บอดี้การ์ดของคุณไม่ให้ฉันเข้าไป เชอะ!”

หยางลู่กล่าว

แน่นอนว่าบอดี้การ์ดของเฉินเกอรู้จักหยางเสว่สองพี่น้องนี้ดี

ดังนั้นเมื่อหยางลู่มา จึงไม่ให้พวกเธอเข้าไป ถึงจะพูดยังไงก็ตาม

บอดี้การ์ดไม่แม้แต่จะรายงานขึ้นไป

“คุณหาผม?ทำไมเหรอ?”

“คุณรีบช่วยพี่สาวฉันด้วยค่ะ พี่สาวฉันจะกินยาฆ่าตัวตายแล้วค่ะ!เริ่มโวยวายตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ ฉันห้ามไม่ไหวจริงๆ คนที่จะช่วยพี่สาวได้ตอนนี้ก็มีเพียงคุณแล้วค่ะ!”

หยางลู่พูดด้วยสีหน้ากังวล

“ออ งั้นก็ให้เธอโวยวายเถอะ จะให้ผมห้ามเธอยังไง~?”

เฉินเกอยิ้มแห้งๆแล้วพูด

“เหอะ คุณมันไร้หัวใจสิ้นดี เพราะอะไรพี่สาวฉันถึงทำเรื่องพวกนี้ ก็เพื่อให้คุณมองเธออยู่ในสายตาบ้าง และคุณรู้ไหมว่าเมื่อคืนทำไมหลงเช่าหยุนถึงตบตีพี่สาวฉันในงานเลี้ยง?”

“เพราะหลงเช่าหยุนเคยให้พี่สาวหลอกคุณออกมา จากนั้นก็จะทำร้ายคุณ แต่พี่สาวไม่ตอบตกลง เลย พี่สาวฉันได้รับผลกระทบจนจะคิดสั้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คุณกลับไม่แยแสอะไร!”

หยางลู่กล่าว

“ผมเคยพูดแล้วว่าพี่สาวคุณกับผมไม่มีความเกี่ยวพันใดๆเลย และอีกอย่างช่วยผมส่งข่าวทีว่าคิดจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่ามาทำที่คฤหาสน์ของผมก็แล้วกัน!”

เฉินเกอพูดเสร็จก็หัวเราะอย่างเยาะเย้ย เตรียมจะเดินไป

“คุณคุณคุณ!คุณมันแย่มากเลย เฉินเกอ คุณมันสัตว์เดรัจฉาน ตอนนี้ยังรีบที่จะไปหมั้นกับคนอื่นอีก ไม่สนใจว่าพี่สาวฉันจะเป็นตายไร้ดียังไงเลย”

หยางลู่กล่าว

“คิกคิก ใครบอกคุณว่าผมจะไปหมั้น?”

“อย่ามาเสแสร้งหน่อยเลย ถือสักว่าเก็บความขมขื่นไว้แล้วกัน คุณยังคิดจะมาปิดบังฉันอีกเหรอ!”

หยางลู่กล่าว

“คุณจะรู้หรือไม่รู้ก็แล้วแต่ ผมไม่มีเวลา!”

เมื่อวานหยางเสว่ขายหน้ามากจริงๆ ถูกหลงเช่าหยุนตบตี ถูกดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเฉินเกออาจจะรู้สึกสงสารเธอ

แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว

จากนั้นก็ไปกับจ้าวถงถงเลย

หยางลู่โกรธจนกระทืบเท้าแล้วก็ไป

คฤหาสน์หยุนติ่ง

“คุณหนูใหญ่ คุณหนูรองกลับมาแล้วค่ะ!”

สาวใช้คนหนึ่งกล่าว

หยางเสว่ที่นอนพิงอยู่บนโซฟาลุกขึ้นยืน“หา?เฉินเกอมาแล้วหรือยัง?”

“ดิฉันเห็นแค่คุณหนูรองค่ะ ไม่ได้เห็นคุณชายเฉินค่ะ?”

“หืม เป็นไปได้ยังไง!”

หยางเสว่รีบพูด จากนั้นก็ผลักสาวใช้ไปข้างๆ ตัวเองเดินไปดูที่หน้าประตู จริงๆด้วย เห็นเพียงหยางลู่ขึ้นมาคนเดียว ไม่มีเงาของเฉินเกอเลย

“คนไร้หัวใจ เขาใจแข็งขนาดนี้เลยหรือ?”

หยางเสว่พูดด้วยสีหน้าหดหู่ใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน