ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 379

บทที่ 379 โหเสี่ยวเซี๋ยหดหู่ใจ

“ผมไม่ไปดีกว่าครับ!”

เฉินเกอส่ายหน้า

“อืม ไม่ไปหรือ มัวรออะไรล่ะ!”

มีเลขาฯหญิงบางคนไม่พอใจ

ผู้คนทยอยเดินตามกันไปที่โต๊ะของหลี่หลางเพื่อชนแก้ว

และมองไปยังผู้คนที่ไปชนแก้วกับแฟนของตัวเอง

โหเสี่ยวเซี๋ยมองอย่างเย็นชาไปที่เฉินเกอที่นั่งอยู่คนเดียว

ราวกับอยากจะเห็นอารมณ์อับอายขายขี้หน้า บนใบหน้าของเฉินเกอ

ตอนนั้นมีหน้าเอ่ยปฏิเสธฉันได้ คอยดูเถอะ เธอกับฉันความแตกต่างกันมันมากขนาดไหน!

อีกอย่างเทียบกับหลี่หลางแล้ว แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย

คิดว่า ที่ฉันให้เธอเข้ามา คิดจะเปิดโลกทัศน์ให้เธองั้นหรือ?

ผิดแล้วล่ะ!

โหเสี่ยวเซี๋ยตั้งใจจะทำให้เฉินเกอรู้สึกอาย เพราะยิ่งงานใหญ่เท่าไหร่ เฉินเกอจะยิ่งรู้สึกอับอายในใจมากยิ่งขึ้น!

ความรู้สึกแก้แค้นแบบนี้ ปกติไม่เคยมี

ส่วนหวางเหวินเห็นว่าเฉินเกอนั่งอยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย และโหเสี่ยวเซี๋ยตั้งใจเรียกเฉินเกอมา เพื่อทำให้ขายหน้า

ดังนั้นจึงอยากไปอยู่เป็นเพื่อนเฉินเกอ

“เธอจะไปทำไม!”

สุดท้ายถูกเหลียงเมิ่งคว้าแขนเอาไว้อย่างด่วน

แล้ว หวางเหวินล่ะ คิดไม่ถึงว่า เหลียงเมิ่งจะทำเช่นนี้

รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของโหเสี่ยวเซี๋ย น่าจะส่งผลถึงตัวเหลียงเมิ่งด้วย

ดังนั้นหวางเหวินจึงไม่พูดอะไรอีก!

แต่ว่าตอนนี้ หลายคนตรงเข้ามา ทางหลี่หลางและโหเสี่ยวเซี๋ย เพื่อขอชนแก้วด้วย

โหเสี่ยวเซี๋ยปรายตามองไปทางแขกที แล้วมองไปทางเฉินเกอที

ยิ่งมองในใจก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข

และในเวลานี้

“คุณชายเฉิน!”

จู่ๆก็มีคนเรียก

ชายวัยกลางคนท่านหนึ่งเป็นคนเรียก ตัวเขา ถูกล้อมรอบไปด้วยคนจำนวนมาก ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีอิทธิพลพอสมควร

เมื่อเขาเอ่ยเรียก บรรยากาศในงานก็พากันเงียบลง

ทุกคนต่างมองไปทางเดียวกับเขา

“เป็นคุณชายเฉินจริงๆด้วย!”

ตอนนี้ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆอีกคนก็ร้องขึ้นเช่นกัน

จากนั้น คนที่แต่งตัวดูดีประมาณสิบกว่าคน เดินหลบไปทางด้านหลัง

และทั้งหมด ก็พากันเดินตรงมาหาเฉินเกอ

“เอ๊ะ นั่นไม่ใช่ ประธานโกวหรือ!”

“ใช่สิ ประธานโกวไง พวกเขาทำไมเดินไปทางนั้นกันล่ะ?”

“จริงด้วย แล้วพวกเธอดูสิ ไม่ใช่แค่ประธานโกว นะประธานหลี่ประธานหวาง ประธานฉินพวกเขา ต่างก็เดนไปทางนั้นกันหมดเลย ดูคึกคักเสียด้วย!”

ในงานมีคนที่รู้จักประธานโกวอยู่มากมาย

บอกตามตรง ท่านประธานเหล่านี้ ล้วนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในสังคม ระดับท๊อปๆกันทั้งนั้น

หมายความว่าอย่างไร?

ก็เหมือนกับเมื่อกี้ พอพวกเขาเอ่ยปาก ทุกคนต่างก็เงียบเสียงคอยฟัง

จากนั้น ทุกคนก็พากันมองตามไปพร้อมกัน

ส่วนโต๊ะของโหเสี่ยวเซี๋ยก็ตะลึงด้วย

โดยเฉพาะ โหเสี่ยวเซี๋ย เพราะเธอจ้องมองที่เฉินเกออยู่ตลอด ดังนั้นตอนที่ผู้คนกรูกันเข้าไป เธอเห็นได้อย่างชัดเจน

ไวน์อึกเดียวแทบจะสำลักตาย

“คุณชายเฉิน? นี่มันเรื่องอะไรกัน? ประธานโกว อยู่ในสถานะอะไร? ทำไมถึงได้รู้จักเฉินเกออีตานั่นด้วยล่ะ?”

โหเสี่ยวเซี๋ย รู้สึกประหลาดใจมาก

อารมณ์ที่ต้องการแก้แค้นเมื่อครู่ หายวับไปทันที

เหลือเพียงความตื่นเต้นที่มีอยู่ในใจ

ส่วน หวางเหวินก็มองตามไป รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยอธิบายไม่ถูก

จนกระทั่ง เหลียงเมิ่ง แสดงอาการหึงหวงออกมาทางดวงตาชัดเจนขึ้น

บรรดาแขกเหรื่อที่ชนแก้วอยู่มองไปทางเดียวกัน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น

“พวกคุณคือ?”

คนกลุ่มนี้ยืนอยู่ต่อหน้าเฉินเกอ เฉินเกอทำหน้างงๆ ไม่รู้จักใครเลย!

“เวร ในสถานการณ์เช่นนี้ประธานโกวเดินเข้าไปทักทายเขา เด็กคนนี้กลับไม่รู้ว่าประธานโกวคือใคร?”

“น่าโมโหจริง มีมารยาทบ้างไหมเนี่ย? ใครสั่งสอนมันมานี่?”

“ผมกำลังคิดว่าประธานโกวพวกเขาทักคนผิดหรือเปล่านะ? หรือว่า อีตานั่นเป็นคนขับรถของคนใหญ่คนโตที่ไหน? เป็นไปได้อย่างไร? วันนี้คนที่อำนาจที่สุด ก็ต้องเป็นประธานโกวสิ?”

ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา

“คุณชายเฉิน ท่านคงทำงานมากเกินไป จนลืมไป ท่านจำผมไม่ได้ ผมรู้จักคุณแน่นอนครับ ฮ่าๆ นี่คือนามบัตรของผมครับ!” ประธานโกวยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณชายเฉินคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดแน่ ตอนนี้ ตัวเองเป็นเจ้าภาพของงาน เฉินเกอมาเข้าร่วมงานของเขาด้วย เฉินเกอรับนามบัตรมาดู ประธานโกวเป็นคนที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ชื่อบริษัทค่อนข้างเป็นที่คุ้นตา

“คุณชายเฉิน คราวก่อนที่เจอกัน ในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูหลินพวกเราก็ไปด้วยนะครับ! การพัฒนาของอำเภอผิงอัน ตอนนั้นพวกเราได้มาสามโครงการ! ฮ่าๆ!”

ประธานโกวกล่าว

“อ๋อ ผมนึกออกแล้ว สวัสดีครับประธานโกว!”

เฉินเกอยังนึกไม่ออก แต่ขืนไม่แสดงความชัดเจนต่อไปละก็ คงจะอับอายน่าดู

จากนั้นจึงหัวเราะตาม

“คุณชายเฉิน ผมขอชนแก้วด้วยนะครับ!”

“คุณชายเฉิน ผมก็ขอชนแก้วด้วยครับ!”

จากนั้น ท่านประธานกลุ่มนี้ถือแก้วมาพร้อมกัน ชนแก้วกับเฉินเกอ

หลังจากที่เฉินเกอดื่มจนหมดแล้ว

ประธานโกวจึงเชิญเฉินเกอไปนั่งที่โต๊ะด้านหน้าสุด เฉินเกอไม่พูดอะไร

ที่จริงนั่งตรงนี้ก็ดีแล้ว

เห็นเฉินเกอไม่อยากไป ถึงแม้ประธานโกวรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อีก

เฉินเกอปล่อยให้ประธานโกวทำธุระของเขาตามสะดวกไปก่อน มีเรื่องอะไร เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง

ประธานโกวไม่ว่าอะไร

หลังจากที่ชนแก้วกันรอบหนึ่งแล้ว พวกเขาจึงไปจากไป

โหเสี่ยวเซี๋ยไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“เป็นไปได้อย่างไร? นี่มันเรื่องอะไรกัน? ประธานโกวทำไมถึงรู้จักเฉินเกอได้ล่ะ? แถมยังทำท่าแบบเกรงใจเฉินเกอเสียด้วย?”

วันนี้ โหเสี่ยวเซี๋ย คิดไว้ว่าจะอาศัยสถานการณ์ใหญ่เช่นนี้ ทำให้เฉินเกออับอาย

คิดแก้แค้นเฉินเกอในตอนแรกทำให้ตัวเองต้องอับอาย

แต่ว่าตอนนี้ โหเสี่ยวเซี๋ยกลับทำหน้าไม่ถูกแทน

และยิ่งคิดจะแก้แค้นมากแค่ไหน ยิ่งทำหน้าไม่ถูกมากขึ้นไปอีก!

ประธานหลี่ ประธานหวางอะไรกัน หลี่หลางมาในนามของคุณพ่อต้องได้ชนแก้วกับพวกเขาสิ แต่ว่าตอนนี้ พวกเขารวมตัวกันไปชนแก้วกับเฉินเกอ!

ความรู้สึกแบบนี้ ใครไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอก

หวางเหวินล่ะ ตาสว่างแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่เฉินเกอเซอร์ไพร์สเธอมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน

จนกระทั่งในใจของ หวางเหวิน เกิดอารมณ์ที่ซับซ้อนนิดหน่อย

จากนั้นโหเสี่ยวเซี๋ย ก็หมดอารมณ์ที่จะดื่มเหล้าต่อ นั่งลงด้วยความหดหู่ใจอย่างมาก

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหวินเหวินเมื่อกี้เธอได้ยินที่ประธานโกวพวกเขาพูดกับเฉินเกอบ้างหรือเปล่า?”

โหเสี่ยวเซี๋ยร้อนใจ

หวางเหวินส่ายหน้า

“ฉันได้ยินแค่นิดหน่อยเอง เหมือนได้ยินว่าโครงการที่อำเภอผิงอันอะไรเนี่ยะแหละ แต่ว่าที่นั่นเป็นบ้านเกิดของเฉินเกอกับพวกเรา โครงการยิ่งใหญ่ ก็ไม่แน่ว่าตอนนั้นเฉินเกอและประธานโกวพวกเขาจะรู้จักกันใช่ไหม?”

เหลียงเมิ่งพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“แต่ว่า ประธานโกวก็ไม่เห็นจำเป็นต้องชนแก้วกับเฉินเกอนี่?”

โหเสี่ยวเซี๋ยรีบพูดอย่างร้อนใจ

ราวกับว่าเฉินเกอแย่งสิ่งของไปจากพวกเขา

“ฉันก็แน่ใจ ฉันจะลองถามเพื่อนสมัยมัธยมดูว่ารู้ไหม? ฉันลองถามให้นะ!”

จากนั้น เหลียงเมิ่งก็ลองถามกลุ่มเพื่อนของพวกเขาดู

โหเสี่ยวเซี๋ยรออย่างใจจดใจจ่อ

“ฉันว่า ต้องมีคนที่รู้เรื่องนี้!”

เหลียงเมิ่งมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

จากนั้นกล่าวว่า : “เดิมที เฉินเกอมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งอยู่ที่นั่น เพื่อนคนนั้นของเขาไม่ใช่เล่นๆในอำเภอผิงอัน ประกอบธุรกิจรถยนต์ขนาดใหญ่ และมีเครือข่ายที่กว้างขวางมากทีเดียว!”

“หรอ? งั้นก็แปลว่า เฉินเกออาศัยเพื่อนเก่าคนนี้สินะ ถึงได้รู้จักประธานโกวได้น่ะ?”

โหเสี่ยวเซี๋ยบอก

“ต้องเป็นอย่างนี้แน่ เพราะเพื่อนบางคนได้ยินมาว่า เพื่อนเก่าคนนั้นของเฉินเกอ เจ๋งจริงๆ!” เหลียงเมิ่งกล่าว

“แม่เจ้า เล่นเอาใจหายใจคว่ำ เกือบตาย เฉินเกอทำไมถึงได้ดวงดีขนาดนี้เนี่ย?”

โหเสี่ยวเซี๋ยยังคงไม่หายโกรธ

แต่ว่าตอนนี้ ในงานเลี้ยง พิธีกรกำลังอยู่บนเวที

อีกอย่างหน้าจอขนาดใหญ่บนเวที แสดงภาพคฤหาสน์ขนาดใหญ่เอาไว้หลังหนึ่ง

แขกเหรื่อที่มาในงานต่างไม่เข้าใจว่าคฤหาสน์ขนาดใหญ่หลังนี้หมายความว่าอย่างไร แต่พากันตกตะลึงในภาพของคฤหาสน์หลังนี้

โหเสี่ยวเซี๋ยอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้ : “ฉันเอง คฤหาสน์หลังนี้สวยเหลือเกิน ตั้งอยู่บนเขาเสียด้วย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน