ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 378

บทที่ 378ชนแก้วCheers

“หลี่หลาง เจอเพื่อนสมัยเรียนน่ะ!”

โหเสี่ยวเซี๋ยโบกมือให้หลี่หลางอย่างด้วยความรัก แสดงว่านี่คือแฟนของเธอนั่นเอง

ส่วนหวางเหวินตอนนี้กล่าวว่า : “เสี่ยวเซี๋ย เมื่อกี้เธอไม่ได้บอกว่าเธอยังมีบัตรเข้างานอีกใบหรือ หยิบมันออกมาให้เฉินเกอสิ พวกเราไม่ได้เจอกันนานหลายปีแล้ว พอดีเลยนั่งด้วยกัน หวนคิดถึงความหลังในอดีต!”

“นี่น่ะหรือ......” โหเสี่ยวเซี๋ยหันมามอง : “ได้สิ งั้นก็ให้เฉินเกอไปด้วย จะได้พาเฉินเกอไปชมบรรยากาศงานใหญ่เสียหน่อย!”

“ให้คุณใบหนึ่งเฉินเกอ ไปกับพวกเราเถอะนะ!”

โหเสี่ยวเซี๋ยบอก

“ใช่แล้ว ไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอกน่า!”

หวางเหวินดึงแขนของเฉินเกอไว้

“ก็ได้!”

เฉินเกอพยักหน้าตอบรับ

ถ้าเป็นการเชิญชวนของโหเสี่ยวเซี๋ยคนเดียว เฉินเกอคงไม่ไป

แต่ว่าเป็นหวางเหวิน ความสัมพันธ์ไม่เลว ประกอบกับตอนนี้เฉินเกอรอฟังข่าว แน่นอนว่าเขากกำลังว่างอยู่ เขาจึงพร้อมที่จะไปดู

หลายคนขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน ตรงไปยังชั้นสามของโรงแรม

ในนั้นมีห้องโถงอยู่ห้องหนึ่ง

เอาไว้จัดงานเลี้ยงโดยเฉพาะ

นับว่าเป็นโรงแรมระดับห้าดาวของอำเภอหงเซี่ยนเลยทีเดียว

ทุกคนต่างก็ต้องแสดงบัตรเชิญก่อนเข้าไป

แขกมาแล้วจำนวนไม่น้อย

นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นการนัดรวมตัวกัน ก่อนที่จะเปิดตัวโครงการใหญ่

ตามที่ โหเสี่ยวเซี๋ย ได้กล่าวแนะนำกับเฉินเกอ

นั่นก็คือ ถ้าคุณไม่มีเงินไม่มีอำนาจ คุณก็จะไม่มีโอกาสได้มาเสนอหน้าหรอก

ส่วน หลี่หลาง แฟนของโหเสี่ยวเซี๋ย เห็นได้ชัดว่ามาร่วมงานเพราะเหตุนี้

รู้จักคนมากมาย หลังจากที่ทักทายเพื่อนเหล่านั้นของพวกเขาทีละคนแล้ว ก็นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง

“เธอทำอะไร?”

ส่วนเฉินเกอก็นั่งลงที่ข้างๆของหวางเหวินเหลียงเมิ่ง

ตอนนี้ โหเสี่ยวเซี๋ยกล่าว

“คืออะไร?”

เฉินเกอส่ายหน้าฝืนยิ้ม

“คุณ! ไปนั่งตรงนั้นสิ! คิดยังไงถึงมานั่งตรงนี้เนี่ย?”

โหเสี่ยวเซี๋ยเปลี่ยนทีท่าไป หลังจากเข้าไปในงานเลี้ยงแล้ว ที่ทีที่เธอมีต่อเฉินเกอ ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังได้บัตรเข้างานมา

ส่วนเฉินเกอหันมองตามไปทางที่โหเสี่ยวเซี๋ยชี้ โต๊ะตรงหัวมุมนั้น ตรงนั้น น่าจะเป็นพวกเลขาฯ คนขับรถ ของคนที่มาร่วมงานในวันนี้

นี่แสดงว่า โหเสี่ยวเซี๋ยคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับเธอเลย

แต่เสียงของโหเสี่ยวเซี๋ย นี้ ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างหันมามองเป็นสายตาเดียว ต่อหน้าสาธารณชน ช่างน่าอายยิ่งนัก

หวางเหวินร้อนใจอยากจะเตือนโหเสี่ยวเซี๋ย

แต่เฉินเกอเอง ไม่อยากให้หวางเหวินต้องลำบาก ฝืนยิ้ม แล้วเดินออกไป

“เสี่ยวเซี๋ย เธอเป็นอะไรไปนี่? ก่อนหน้านี้เธอยังดีๆกับเฉินเกออยู่เลย ทำไมตอนนี้ทำกับเขาแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นล่ะ เธอจะทำให้เขาขายหน้าคนอื่นหรือไง?”

หวางเหวินพูดด้วยความร้อนใจ

“เธอพูดถูก ฉันจะทำให้เขาอายต่อหน้าคนอื่น ให้เขาได้ลิ้มลองรสชาติแบบนี้บ้าง!”

โหเสี่ยวเซี๋ยมองด้วยสายตาเย็นชาไปที่เฉินเกอทันที

“ทำไมล่ะ? เฉินเกอไม่เคยทำอะไรเธอสักหน่อย เธออย่าบอกฉันนะว่าคือเรื่องเล็กๆนั้นเมื่อสมัยเรียนมัธยมปลาย!”

หวางเหวินรู้สึกไม่พอใจมาก ทั้งๆที่เฉินเกอเป็นคนที่ตัวเองเรียกมา แล้วตอนนี้ล่ะ เพื่อนสองคนเกิดหมางใจกัน หวางเหวินรู้สึกไม่สบายใจ

“เรื่องเล็ก? เหวินเหวิน เธอคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสมัยมัธยมมันเล็กน้อยงั้นหรือ?”

โหเสี่ยวเซี๋ยพอคิดขึ้นมาได้ ก็รู้สึกว่าในใจโกรธมาก

“ตอนนั้นเธอก็จำได้นี่ พวกเราเข้าร่วมการแข่งขัน แล้วนำชื่อเสียงกลับมาด้วย โรงเรียนเชิญพวกเรานักเรียนยี่สิบกว่าคนไปเลี้ยงกันในเมือง เมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้ว ก็เหลือแค่พวกเราเพียงไม่กี่คน มาเล่นเกมส์จริงใจหรือหลอกกันดีกว่า ฉันแพ้ เลยต้องเลือกคนหนึ่งในนั้นไปสารภาพ! เรื่องนั้นเธอจำได้ไหม?”

โหเสี่ยวเซี๋ยกล่าว

“ฉันต้องจำได้สิ ฉันรู้ว่าตอนนั้นเธอไม่ชอบเฉินเกอ แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง ดังนั้นจึงสารภาพกับเฉินเกอคนที่คุณครูเพิ่งย้ายสิ่งของมาให้เขาพอดี เธอบอกว่า เฉินเกอ ฉันชอบเธอนะ!”

หวางเหวินก็นึกเรื่องนั้นขึ้นมาได้

“แล้วไงต่อ? เฉินเกอบอกต่อหน้าทุกคนว่าเราสองคนไม่เหมาะสมกัน บ้าบอ อีตานี่มีหน้ามาคิดว่าฉันชอบเขาไม่ได้งั้นหรือ นึกถึงเขาในตอนนั้นขึ้นมาแล้วมันน่าโมโห ตอนนั้น นักเรียนในห้องต่างชี้มาทางฉันแล้วหัวเราะเยาะ บอกว่าแม้แต่เฉินเกอคนนี้ยังไม่สนใจฉัน อีกอย่างตอนนั้นคนที่ฉันชอบจริงๆก็อยู่ข้างๆ เธอรู้ไหม ตอนนั้น ฉันอับอายขายขี้หน้ามากขนาดไหน!!!”

โหเสี่ยวเซี๋ยกล่าว

“อ้าว เธอรู้ไหมว่าที่เฉินเกอเขาพูดว่าไม่เหมาะสมเพราะอะไร เฉินเกอเขาคิดว่าตัวเองยากจน ไม่เหมาะกับเธอไงล่ะ! เธอคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย! อีกอย่างเขาก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้ชอบเขาจริงๆสักหน่อย ดังนั้นพอตื่นเต้นเลยพูดออกไปแบบนั้น! ก็เธอชอบดูถูกเฉินเกอว่ายากจนมาตลอดเลยไม่ใช่หรือ นั่งในรถยังไม่กล้าจะนั่งข้างๆเฉินเกอ คนเขาก็ต้องกลัวเธอสิ!”

หวางเหวินรีบแก้ต่าง

“อะไรกัน อีตานี่ ฉันต้องทำให้เขาเสียใจ อีกอย่าง อย่ามองว่าฉันดูถูกเขาว่าจนเลย เหวินเหวินเธอชอบไหมล่ะ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่า ตอนนั้นเธอก็ชอบเฉินเกอ แต่ว่าเพราะเฉินเกอจนเกินไป ดังนั้นพวกเธอสองคนจึงไปด้วยกันไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ?”

ปากอย่างโหเสี่ยวเซี๋ย อ้าแล้วหุบไม่ได้จริงๆ พล่ามจนหมดเปลือก

เรื่องพวกนี้ ทำให้หวางเหวินอายจนหน้าแดง ตรงใจหวางเหวินเสียจริง

แต่สีหน้าของเหลียงเมิ่งก็ไม่ค่อยดี มิน่าตอนนั้นที่ตัวเองตามจีบหวางเหวิน หวางเหวินไม่ตอบรับ ที่แท้ ตอนนั้นเธอชอบเฉินเกอนี่เอง?

ตอนนี้ เห็นหวางเหวินมีทีท่าใส่ใจเฉินเกอมากขึ้นอีก

เหลียงเมิ่งรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

ไม่เหมือนกันเลย ก่อนหน้านี้หวางเหวินดีต่อเฉินเกอ เหลียงเมิ่งไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเฉินเกอไม่ทัดเทียมที่จะเป็นคู่แข่งของเขาหรอก? หวางเหวินจะไปสนใจเฉินเกอได้อย่างไรกัน?

แต่ว่าตอนนี้ ทำให้เหลียงเมิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย

ความรู้สึกก็เป็นแบบนี้แหละ

เหลียงเมิ่งมองไปทางหวางเหวิน เห็นว่าตอนนี้หวางเหวินกำลังหน้าแดงอยู่ จึงมั่นใจได้ทันที

ประโยคนี้ของโหเสี่ยวเซี๋ย โดนใจหวางเหวินอย่างแน่นอน

เธอพูดถูก ตอนนั้นตัวเองชอบเฉินเกออย่างมาก

และแน่นอน เพราะเฉินเกอยากจน ต่อให้หวางเหวินจะพยายาม คิดๆดูแล้ว ถ้าเกิดคบหากับเฉินเกอจริงๆ เพื่อนร่วมชั้นจะมองเธออย่างไร? จะพูดถึงเธออย่างไร?

ดังนั้นจึงไม่ได้ตกลงปลงใจ สุดท้ายจึงไม่พัฒนาความสัมพันธ์กับเฉินเกอ

แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางให้หวางเหวินหวังว่าเฉินเกอจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

เรื่องความรักน่ะ เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดความกังวลใจ มันจะเกิดรอยร้าวในระหว่างความสัมพันธ์นั้น?

บรรยากาศในงานมีเรื่องหมางใจกันขึ้นมา

เฉินเกอไม่ได้ยินที่โหเสี่ยวเซี๋ยและหวางเหวินพูดคุยกัน

คนขับรถคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆกล่าวว่า : “ข้างๆนั่นไม่ใช่หลี่หลางลูกชายของประธานหลี่หรือ เจ้านายของผมบอกว่า วันนี้ หลี่หลางจะมาเป็นตัวแทนของประธานหลี่ ให้พวกเขาเข้าไปเสนอหน้า ยังไงซะประธานหลี่ก็ถือโครงการไว้ทั้งหมด! ยังไงซะก็บดขยี้คนส่วนใหญ่ได้แน่!”

“นั่นสิ ประธานหวางเจ้านายเราก็เคยร่วมมือกันมาก่อน อย่างน้อยแค่ชนแก้ว ก็ได้เสนอหน้าแล้ว!”

เลขาฯคนขับรถสองสามคนสนทนากัน

ที่ตระกูล หลี่หลางเปิดบริษัท อาศัยความร่วมมือระหว่างบริษัทด้วยกันเป็นเรื่องธรรมดามาก

ดังนั้น เรื่องเสนอหน้ามากหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา

“เอาสิ ไหนๆก็ร่วมงานกันแล้ว งั้นพวกเราไปด้วยกันเถอะ เดี๋ยวงานเริ่มแล้ว จะไม่มีโอกาสได้ชนแก้ว!”

เลขาฯหญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้น

แล้วคนกลุ่มนี้ก็ลุกขึ้นทันที

“พี่ชาย เดินไปกับพวกเราด้วยไหมคะ?”

ตอนนี้ คนขับรถคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆเฉินเกอตบไหล่ของเฉินเกอ

แสดงว่าคิดว่าเฉินเกอเป็นคนขับรถด้วยเหมือนกัน....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน