ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 381

บทที่ 381 คิดขึ้นได้

“ฉันรู้แล้วเฉินเกอ พรุ่งนี้เช้าใช่ไหมที่ตาอ้วนหวัง(หวางเสี่ยวหัว)จัดทัวร์ท่องเที่ยวสองวันที่อำเภอหงเซี่ยน พวกคุณมาก่อนล่วงหน้าเหรอ?”ฟางหยีพูดขึ้น

“อ่า?อ๋อ ใช้แล้ว แค่ตาอ้วนหวังที่ไม่ได้มา ผมมาที่นี่ก่อน มาจองโรงแรม คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ พวกเธอก็คงไม่ใช่ว่ามาเที่ยวล่วงหน้าใช่ไหม?” เฉินเกอเหลือบไปมองบอดี้การ์ดที่ฟางเจี่่ยนนันพามา

“ตาอ้วนหวังเคยพูดกับผมว่าพวกคุณชอบท่องเที่ยว!”

เฉินเกอนึกว่าฟางหยีกับฟางเจี่่ยนนันห็นว่าเขาก็กำลังตามหาสาวใช้อยู่ เขาเลยรู้สึกกังวล แต่หลังจากได้ยินเรื่องนี้เขาก็ถอนหายใจออกมายาวๆ

เลยถือโอกาสเปลี่ยนเรื่อง

“เดี๋ยวๆ คุณพูดอะไรอย่างนั้นหล่ะ พวกเราสองคนไม่ได้ทำตัวไร้ประโยชน์ขนาดนั้นนะ พวกเราเป็น……”

ฟางหยีมองเฉินเกออย่างดูถูก แล้วอยากจะอธิบายขึ้นมาทันที

และฟางเจี่่ยนนันรีบหันไปเตือนฟางหยีด้วยสายตา แล้วก็พูดว่า “ฟางหยี เธอเป็นอะไรไป?ทำไมถึงพูดมากแบบนี้!”

“อ่า!”

แต่ฟางหยีเพิ่งจะรู้สึกว่าตัวเองลืมตัวไร้สติไป

ความจริงจะไปโทษฟางหยีทั้งหมดก็ไม่ได้

อันดับแรก ถึงแม้ว่าฟางหยีกับฟางเจี่่ยนนันมักจะมีท่าทีเย็นชา แต่ทั้งคู่ก็รู้จักเพื่อนร่วมชั้นทุกคนในชั้นเรียนเป็นอย่างดี

ภายนอกไม่แสดงออก แต่ระหว่างทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน หรือที่บ้าน สิ่งที่พูดถึงมากที่สุดก็เหมือนกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ

เรื่องสนุกๆในห้อง ผู้ชายคนไหนหล่อ คนไหนไม่หล่อแต่นิสัยดี

เกือบทุกคนชอบที่จะเอาเพื่อนร่วมชั้นมานินทาสักรอบ

ไม่ว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาจะแตกต่างกันอย่างไร แต่สุดท้ายก็แล้วเป็นผู้หญิงหญิงทั้งสองคน

ตอนนี้ทั้งสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับเฉินเกอมากมาย และทั้งฟางหยีและฟางเจี่่ยนนันก็รู้จักกับเฉินเกอไม่น้อย

ค่อนข้างคุ้นเคยกับเฉินเกอแล้ว

รองลงมา นั่นก็คือความรู้สึกที่เฉินเกอมอบให้ทั้งสองคน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่มีผู้ชายคนไหนมาเทียบได้

ดังนั้นฟางหยีเลยรู้สึกตกใจและอดไม่ได้ที่จะพูดกับเฉินเกอขึ้นมา

เธอรีบหุบปากทันที

และฟางเจี่่ยนนันพียงแค่มองไปที่เฉินเกออย่างเฉยชาจากนั้นก็พากลุ่มคนตรงขึ้นไปชั้นบน

เฉินเกอสงสัย

ก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว ถ้าจะพูดว่าฟางเจี่่ยนนันจอสาวใช้คนนั้นเร็วกว่าตัวเขาเอง

เวลานี้น่าจะออกไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังอยู่ในอำเภอหงเซี่ยน?

ถ้าฟางเจี่่ยนนันไม่ได้พาตัวสาวใช้ไป ถ้าอย่างนั้นจะเป็นใคร?

กลัวว่ามันจะเป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน ต้องรอจนกว่าหัวหน้ากลับมาแล้วค่อยสืบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกที

“เจี่่ยนนันฉันขอโทษจริงๆ เมื่อกี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไป ก็เลยหยุดไม่ได้ ไม่นึกเลยว่าจะพูดกับเฉินเกอมากขนาดนี้!”

หลังจากเข้าไปในห้องฟางหยีก็จับมือฟางเจี่่ยนนัน

“ไม่เป็นไร คราวหน้าต้องระวังเอาไว้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะมีอิสระมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่อย่าเปิดเผยเกินไป!”

ฟางเจี่่ยนนันฝืนยิ้มให้

“ฉันรู้แล้ว คราวหน้าจะไม่ทำแน่นอน!”

ฟางหยีมีสีหน้าหวาดกลัว

“เพียงแต่ว่าภารกิจครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีอันตราย แต่ฉันไม่เข้าใจทำไมเธอถึงดื้อขนาดนี้ กล่องนั้นสำคัญกับเธอมากขนาดนั้นเหรอ?เราจะไปหาให้เธอได้ที่ไหน! เจี่่ยนนันเธอมีแผนจะทำยังไงต่อไป?”

ฟางหยีพูดขึ้น

และฟางเจี่่ยนนันก็เตือนฟางหยีด้วยสีหน้าอีกครั้ง “ฟางหยีฉันเสียใจจริงๆที่พาเธอออกมา ไม่ว่าอะไรยังไงทำไมเธอพูดออกมาหมด ระวังหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง!”

ฟางหยีมีสีหน้าหวาดกลัวอีกครั้งแล้วรีบปิดปากของเธอเอง

“ต่อจากนี้ไปฉันจะกลับไปเย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้และฉันจะไม่พูดอะไรมากอีก!”

ฟางหยีพูด

“คุณไม่ต้องหรอก พูดตามตรง ที่จริงแล้วสำหรับฉันฟางเจี่่ยนนันให้หาของที่เหมือนๆกันมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ฉันกังวลจริงๆในตอนนี้ก็คือมีกองกำลังกลุ่มหนึ่งที่มีจุดประสงค์เดียวกับเรา และฟางหยี ฝีมือของคนกลุ่มนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าคนมีฝีมือที่เราพามาในครั้งนี้ นี่คือเรื่องที่ฉันต้องกังวล!”

ฟางเจี่่ยนนันคลึงหว่างคิ้วของตัวเอง “ตอนนี้ดูแล้ว ถ้าเราจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย

แต่กลับกันจะทำให้เราอยู่ในที่แจ้งแต่ศัตรูอยู่ในที่ลับ ไม่เพียงแต่อาจจะถูกพวกเขาซุ่มโจมตี หรือแม้แต่ตระกูลฟางของเราจากนี้ไปไม่แน่ว่าอาจจะถูกเปิดโปง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราไม่รู้ว่าศัตรูของเราคือใคร!

ดังนั้นฉันจึงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้!”

“ฮ่าๆ แบบนี้นี่เอง ง่ายๆเลย ฉันมีวิธีจัดการเรื่องนี้!”

ฟางหยีพูดอย่างสบายใจ

“คุณ?” ฟางเจี่่ยนนันหัวเราะออกมา

“เฮอะเจี่่ยนนันคูณอย่ามองว่าปกติฉันเป็นคนเรื่อยเฉื่อย อันที่จริงฉันค่อนข้างฉลาด เรื่องนี้คล้ายกับเกมมนุษย์หมาป่าฆ่าคนที่ฉันเล่น!”

ฟางหยีพูด

ฟางเจี่่ยนนันส่ายหัว “ฉันไม่เข้าใจ!”

“โธ่เอ๊ย มันง่ายมาก สิ่งที่เธอกลัวที่สุดในตอนนี้คือการเปิดเผยตัวเองใช่ไหม?ดังนั้นก็แค่หาเสื้อคลุมมาพรางตัวแล้วทำให้ผู้คนสับสน วิธีนี้เธอก็จะอยู่ในที่ลับเหมือนกัน ! ตระกูลฟางของเราก็จะอยู่ในที่ลับ ปกติเธอเคยทำยังไงก็ทำอย่างนั้น แค่นี้ก็พอแล้ว!”

ฟางหยีพูด

“ที่คุณพูดมาก็มีส่วนที่น่าสนใจ สิ่งที่เธอหมายถึงคือเราไม่จำเป็นต้องออกแรงเองเพื่อต่อสู้กับกลุ่มนั้น แต่ให้หาคนอื่นมาแทนพวกเรา และไม่แน่ว่าอาจจะทำให้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับเผยตัวออกมา?”

ฟางเจี่่ยนนันข้าใจอย่างรวดเร็ว

ฟางหยีกัดนิ้วของตัว “บิงโก อย่างนั้นแหละ!”

“เฮ้อ แต่ฉันควรหาใครมาเป็นเสื้อคลุมพรางตัวนี้ดี ใครเหมาะที่จะดึงดูดความสนใจ?”

ฟางเจี่่ยนนันคิดไตร่ตรอง

ส่วนฟางหยีก็ทำหน้ามุ่ยครุ่นคิดอยู่เหมือนกัน

แต่ในไม่ช้า ฟางหยีก็ตีหัวของตัวเอง

“ฮ่าๆ ฉันรู้แล้วว่าจะหาใครมาดี!”

ฟางหยีพูด

ฟางเจี่่ยนนันตกตะลึงและพูดว่า “เธอจะบอกว่าเฉินเกอ?”

“ใช่แล้ว ฉันกำลังคิดว่าควรเป็นเฉินเกอ เขาเหมาะสมที่สุดแล้ว เจี่่ยนนันคุณคิดดูสิ เฉินเกอคนนี้ พวกเราต่างก็เคยพูดคุยกับเขาแล้ว แม้ว่าเขาจะดสดใสและดูดี แต่เขาก็ดูเซ่อซ่า ปกติแล้วเขาจะเก็บตัว อันที่จริงเฉินเกอค่อนข้างมีฐานะ และเขารู้จักกับคนมีชื่อเสียงในพื้นที่บางคนที่เมืองฉู่ชวน! นี่เป็นข้อได้เปรียบตั้งแต่เกิดของเฉินเกอ!”

“เพราะแบบนี้ พอเฉินเกอออกมา ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันรับมือ!”

ฟางเจี่่ยนนันพยักหน้า

“เธอพูดถูกแล้ว คิดดูแล้วเฉินเกอเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด แต่เรื่องนี้อาจเป็นอันตราย มันดีแล้วเหรอที่จะลากเฉินเกอลงมาในน้ำสกปรกแบบนี้?แล้วเฉินเกอจะตกลงหรือเปล่า?”

“เฮ้เฮ้ วางใจเถอะ ฉันมีวิธีของฉันอยู่แล้ว!”

สายตาของฟางหยีหันกลับมาและเธอก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ทันที

รอจนฟ้ามืดลงสักหน่อย

ฟางหยีก็เดินมาที่ประตูห้องของเฉินเกออย่างเงียบ ๆ

ฟางหยีต้องการสืบถามว่าเฉินเกออาศัยอยู่ที่ไหน แน่นอนมันไม่ใช่ปัญหา

เคาะประตู

เฉินเกอเปิดประตูมาดู “คุณมาทำอะไร?”

ค่อนข้างประหลาดใจ

คิดไม่ถึงว่าเทพธิดาผู้เย็นชาคนนี้จะมาหาตัวเอง!

“เฮ้เฮ้ เป็นเหตุสุดวิสัย ฉันมาหาคุณเพราะฉันมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากคุณ!”

ฟางหยีพูดขึ้น

“มีเรื่องให้ผมช่วย?”

เนื่องจากเฉินเกอรู้ตัวตนของทั้งสองสาวประมาณหนึ่งเฉินเกอจึงค่อนข้างประหลาดใจ

พูดตามเหตุผลแล้ว ถ้าหากเป็นตระกูลฟางจริงๆ เธอฟางหยีมีอะไรอยากทำแล้วจะทำไม่ได้!

“อืม จริงๆ ตรงนี้ไม่สะดวกที่จะพูด นายไปที่ห้องของฉันชั้นบนกับฉันเถอะ!” ฟางหยีพูด

“ไปที่ห้องของคุณ ดึกขนาดนี้แล้ว ไม่เหมาะมั้ง?”

เฉินเกอพูดอย่างตกใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน