ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 389

บทที่389 รถของคุณมีปัญหาครับ

“สวัสดีครับคุณชายเฉิน ผมโกวซีหลินนะครับ”

โกวซีหลินก็คือประธานโกวนั่นเอง ครั้งที่แล้วตอนที่เจอกันที่คฤหาสน์หยุนติ่ง เฉินเกอให้นามบัตรกับเขาไว้

“สวัสดีครับประธานโกว มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”เฉินเกอถาม

“คือว่า ผมจัดงานเลี้ยงขึ้นมาครับ แล้วเชิญนักธุรกิจจากทุกที่มารวมตัวกัน เดิมทีพวกเราก็ไม่กล้าโทรเชิญคุณชาย แหะๆ พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจเล็กๆ ไม่กล้าทำให้คุณเสียเวลา แต่ครั้งนี้ มีประธานบริษัทใหญ่ของเมืองจินหลิงให้เกียรติมาร่วมงานด้วย พวกเขาบอกว่าเป็นบริษัทในเครือของคุณชาย ผมก็เลยอยากจะถามว่าคุณชายพอจะมีเวลาว่างพอจะมาร่วมงานหรือเปล่า”โกวซีหลินพูด

ที่จริงแล้วคนระดับโกวซีหลิน แค่เรื่องทำธุรกิจหาเงินไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับพวกเขาแล้ว การมีเส้นสายด้านธุรกิจสำคัญยิ่งกว่า

เพราะแบบนี้ พวกนักธุรกิจถึงได้ชอบจัดงานเลี้ยงกันบ่อยๆ

เพราะแค่โอกาสเดียว ก็อาจจะรู้จักกับประธานบริษัทใหญ่ไม่น้อย เส้นสายใหม่ๆ อาจจะเป็นโอกาสที่จะทำให้พวกเขาโชคดีมากขึ้น งานเลี้ยงแบบนี้ เฉินเกอเองก็เคยไปร่วมงานอยู่หลายครั้ง

พอถูกประธานโกวเชิญแบบนี้ เฉินเกอก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไง

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ เฉินเกอไม่มีเวลาจะไปทำเรื่องอื่นจริงๆ จึงต้องตอบปฏิเสธไป

หลังจากกดวางสายไปแล้ว โห๋เสี่ยวเซี๋ยที่กำลังยื่นหูฟังเฉินเกอคุยโทรศัพท์อยู่ก็พูดขึ้น

“เหอะๆ ใครโทรมาเชิญนายกินข้าวเหรอ ประธานโกวคนไหน คงไม่ใช่ประธานโกวครั้งที่แล้วหรอกใช่ไหม” โห๋เสี่ยวเซี๋ยถามอย่างกังวล เพราะเธอไม่อยากให้เฉินเกอกับประธานโกวสนิทกันมากเกินไป

“ไม่มีใครหรอก”

เฉินเกอตอบหน้าแหย “เมื่อตะกี้ผมดูแผลท้ายรถของคุณแล้ว เสี่ยวเซี๋ย ค่าเสียหายห้าแสนจะเยอะไปหรือเปล่า”

ถึงแม้เฉินเกอจะรวย แต่ก็ไม่ใช่คนโง่

“เยอะเหรอ อย่ามาพูดบ้าๆ เดี๋ยวบริษัทเช็คความเสียหายจะส่งพนักงานมาตรวจ ถึงตอนนั้นก็จะรู้กัน ไม่แน่ว่าอาจจะแพงกว่าที่บอกไว้ก็ได้ ฉันจะคอยดูว่านายจะหาเหตุผลอะไรมาแก้ต่างอีก” โห๋เสี่ยวเซี๋ยพูด

หลังจากนั้นก็ยืนกอดอกรอเงียบๆ

เมื่อวานเธอยังกังวลใจว่าหลังจากเฉินเกอรู้จักกับประธานโกวแล้ว จะกลายเป็นคนรวยซะอีก

ตอนนั้นเธอกลัวมาก และมันเป็นสาเหตุที่ตอนนี้โห๋เสี่ยวเซี๋ยอารมณ์ดีมาก ตอนที่เห็นเฉินเกอขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงมา ห้าแสนก็คงต้องลดบ้าง

แต่ตอนนี้โห๋เสี่ยวเซี๋ยวางใจแล้ว

สักพัก พนักงานตรวจเช็กสภาพรถก็เดินทางมาถึง แต่พอตรวจเช็กได้สักพัก ก็เดินมาพูดด้วย ก่อนจะเริ่มหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาตรวจเช็กให้แน่ใจ

“เป็นยังไงบ้าง ต้องเสียค่าซ่อมแซมเท่าไหร่ คงจะหลายแสนใช่ไหมล่ะ” โห๋เสี่ยวเซี๋ยยืนกอดอกถามพนักงานที่มาเช็กรถ

“ใช่ครับ ถ้าต้องซ่อมทั้งหมด อย่างต่ำก็ต้องสี่แสนห้าครับ”พนักงานตอบกลับ

“โอ้โห สี่แสนห้าเลยเหรอ”

“แพงขนาดนั้นเลย”คนที่มายืนมุงดูร้องอย่างตกใจ

และโห๋เสี่ยวเซี๋ยเองก็ตกใจมากเหมือนกัน ที่เธอเรียกร้องค่าเสียหายสามแสน ล้วนมาจากประสบการณ์ของเธอทั้งนั้น

ความจริงแล้ว เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงจนๆธรรมดา ที่ได้แฟนรวยถึงได้เปลี่ยนไป ไม่มีความรู้เรื่องรถเลย ตอนนี้เธอรู้สึกว่าค่าทำขวัญสองแสนของเธออยู่ตรงหน้าแล้ว

จึงหันไปพูดอย่างได้ใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า เฉินเกอ ได้ยินแล้วใช่ไหม ค่าซ่อมรถต้องใช้สี่แสนห้า รวมค่าเสียเวลาแล้ว นายลองคิดดู ฉันขอบอกไว้เลยนะ ถ้าไม่มีห้าแสนเรื่องไม่จบแน่”

เมื่อตะกี้เรียกค่าเสียหายไปห้าแสน ตอนนี้ ห้าแสนคงไม่ได้แล้ว

เฉินเกอยักไหล่ แล้วไม่พูดอะไร

“เอาล่ะ พวกนายออกใบค่าซ่อมรถมา แล้วกลับไปเถอะ นี่ค่าแรงพวกนาย” โห๋เสี่ยวเซี๋ยพูด ก่อนจะควักแบงก์ร้อยในกระเป๋าออกมาหลายใบให้พนักงาน

แต่พวกพนักงานกลับส่ายหน้าไปมา

“คุณผู้หญิงครับ คุณยังฟังพวกผมพูดไม่จบครับ ค่าซ่อมรถคันนี้ไว้ค่อยพูดกันทีหลัง ที่พวกผมจะพูดก็คือ นี่ไม่ใช่รถของทางศูนย์รถเรา”พนักงานพูด

“พูดบ้าๆ รถคันนี้เป็นรถนำเข้า พ่อของแฟนฉันให้คนซื้อมา ต้องไม่ใช่รถของศูนย์รถพวกนายอยู่แล้ว”

“คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ผมหมายถึงว่า รถคันนี้ไม่ใช่รถที่ทางศูนย์หลักของเราจำหน่าย และไม่ได้เอาเข้าตลาด ผลิตออกมาแค่ล็อตแรกก็หยุดผลิตไป แต่ช่วงนี้ ทางต่างประเทศมีบริษัทที่ผลิตออกมาโดยผิดกฎหมาย ลอกเลียนแบบรถรุ่นนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าซื้อมาได้ยังไง คุณรู้ดีแก่ใจ ดังนั้น นี่ไม่ใช่รถของทางศูนย์เราแน่นอนครับ”พนักงานพูด

“เอ๊ะ นี่พวกคุณหมายความว่า รถคันนี้เป็นของปลอมอย่างนั้นเหรอ พวกคุณอย่ามาพูดมั่วๆนะ” โห๋เสี่ยวเซี๋ยได้ยินแบบนี้ก็ร้อนใจทันที

พนักงานรู้สึกจนใจ จึงหยิบเนื้อหาบางส่วนออกมาให้โห๋เสี่ยวเซี๋ยดู อีกอย่างรถรุ่นนี้ ได้ถูกเอาไปแจ้งความไว้แล้วด้วย

“ถอยไปเลยนะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ฉันแค่ให้พวกคุณมาเช็กความเสียหาย ยังจะหาเรื่องวุ่นวายมาให้ฉันอีก ฉันไม่ให้พวกคุณเช็กแล้วก็ได้” โห๋เสี่ยวเซี๋ยเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว

เพราะมันเป็นรถของแฟนเธอ ไม่ใช่ของเธอ

ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ โห๋เสี่ยวเซี๋ยเองก็กลัวเหมือนกัน

“คุณผู้หญิงครับ พวกผมบอกไปแล้ว ว่ารถคันนี้ถูกแจ้งความไว้แล้ว เดี๋ยวทางศูนย์เราจะส่งคนมาขนรถไป หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกับพวกเรา ถ้าหากคุณไม่ใช่เจ้าของรถ รบกวนช่วยติดต่อเจ้าของรถมาด้วยนะครับ”

มีพนักงานคนหนึ่งโทรคุยเสร็จแล้ว

“เอ๊ะ นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร” โห๋เสี่ยวเซี๋ยร้อนใจแล้ว

ตอนนี้ เธอไม่มีอารมณ์จะเรียกค่าเสียหายจากเฉินเกอแล้ว เธอรีบกดโทรหาแฟนของเธอ

ส่วนเฉินเกอ เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ไปได้ เขายืนส่ายหน้าไปมาอยู่ด้านข้าง ทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่วตอบแทน

โห๋เสี่ยวเซี๋ยเห็นว่าเฉินเกอยืนหัวเราะอยู่ ก็รีบถอดรองเท้าส้นสูงโยนมา แต่เฉินเกอหลบได้

“คนเลว นายกำลังสะใจฉันอยู่ใช่ไหม ฉันขอบอกไว้เลยนะ นายต้องชดใช้ค่าเสียหาย ฉันจะเอาเจ็ดแสน ไม่งั้นเรื่องไม่จบแน่ๆ” โห๋เสี่ยวเซี๋ยรีบพูด

“บ้าไปแล้ว”

เฉินเกอส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้เจอปัญหา เขาไม่อยากจะเยาะเย้ยเธออีก

“คุณผู้ชายครับ รถของคุณเป็นรถที่ซื้อจากทางศูนย์เรา ผมโทรเรียกรถมาสองคัน เดี๋ยวพวกผมจะลากไปพร้อมกันเลยนะครับ”พนักงานพูด

“ได้ครับ” เฉินเกอพยักหน้าตอบกลับ

หลังจากนั้น ทางพนักงานก็สอบถามโห๋เสี่ยวเซี๋ยไม่หยุด

เฉินเกอเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว จึงตั้งใจจะให้พวกหลินเชิ่งหนานกลับไปก่อน

เรื่องนี้ยกให้เป็นหน้าที่เขาจัดการก็พอแล้ว

และทางฝั่งโห๋เสี่ยวเซี๋ยก็โดนแฟนหนุ่มของตัวเองด่า จึงหนีไปคุยโทรศัพท์ข้างๆแทน

หวางเหวินมองมาทางเฉินเกอ เฉินเกอเองก็มองไปทางหวางเหวินเช่นเดียวกัน

ทั้งสองยิ้มแหยใส่กัน

“เหวินเหวิน พวกคุณตั้งใจจะไปที่ไหนกันเหรอ ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้เสียเวลา ให้ผมไปส่งไหม”เฉินเกอถาม

“ได้สิ พวกเราเตรียมจะไปร่วมงานเลี้ยงน่ะ เสี่ยวเซี๋ยขอให้ฉันไปเป็นเพื่อนด้วย”หวางเหวินพูด

“ฮึ พวกคุณมีปัญหาอะไร พรุ่งนี้ไปหาแฟนฉันก็พอแล้ว พรุ่งนี้เขาจะติดต่อหาพวกคุณเอง”

“งั้นก็ได้ครับ”

ทางฝั่งโห๋เสี่ยวเซี๋ยเองก็คุยกับพวกพนักงานเรียบร้อยแล้ว

เธอจึงเดินเข้ามาแล้วพูด “เหวินเหวิน ใกล้จะไม่ทันงานแล้ว เรารีบไปกันเถอะ บ้าจริงๆเลย เดิมทีคิดจะขับรถคันนี้ไปเอาหน้าซะหน่อย” โห๋เสี่ยวเซี๋ยบ่นพึมพำ แล้วมองไปทางเฉินเกออย่างไม่พอใจ

“เสี่ยวเซี๋ย พวกเราไปกันก่อนดีกว่า เรื่องนี้เธอจัดการคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อตะกี้เฉินเกอบอกว่า เขาจะพาพวกเราไปส่งเอง”หวางเหวินพูด

“อะไรนะ เขาจะไปส่ง ให้พวกเรานั่งรถสามล้อเนี่ยนะ เหวินเหวิน เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน