“จวงเฉียง พวกเธอรู้จักกันได้ไง? อั๊ยย่ะ คุณดูของเที่เขาเอามาสิ มาๆๆมานั่งนี่!”
แม่ของซูมู่หานชื่อว่าหวังหุ้ยหมิ่น
เป็นรองประธานของบริษัท
และก็เป็นคนที่มีฝีมือมากในการสื่อสารกับทางสังคม
แน่นอนว่าเธอเข้าใจอำนาจของบ้านจวงเฉียงดี แม้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนจะมีข่าวเสียๆหายของบ้านจวงเฉียง ว่าได้ทำเรื่องต่ำช้าออกมา แต่ว่า ตอนเป็นวัยรุ่น จะมีใครบางล่ะที่ไม่เคยทำผิดมาก่อน!
อีกอย่าง ตอนนี้บ้านจวงเฉียงได้เดินทางไปยังถนนการค้าจินหลิงเพื่อครองพื้นที่แถวนั้น
อำนาจจึงเพิ่มขึ้นยังรวดเร็ว
ถ้าเกิดครั้งนี้บริษัท ได้รับการสนับสนุนจากบ้านจวงเฉียง ก็จะสามารถรอดพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้แล้วไม่ใช่เหรอ?
และฟังจากคำพูดของหวังหุ้ยหมิ่น
จวงเฉียงมองเฉินเกอด้วยสายตาที่เย็นชา “รู้จัก แน่นอนว่าผมรู้จักคนๆนี้อยู่แล้ว!เขาเป็นถึงหนึ่งในคนดังของมหาลัยของมู่หาน!”
เมื่อนึกถึงช่วงที่ตัวเองต้องเผชิญการความยากลำบาก เจ้าเฉินเกอก็จะอยู่ที่นั่นตลอด จู่ๆใจของจวงเฉียงก็มีความแค้นผุดขึ้นมา
หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเสร็จ ก็กลับไปนั่งบนโซฟา
แน่นอนว่าหวังหยางเคยได้ยินเรื่องของจวงเฉียง พยักหน้าด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
ส่วนเจียงเวยเวย ก็ยิ้มอย่างมีมารยาทให้กับจวงเฉียง หวังว่าตัวเองจะสามารถดึงดูดความสนใจของจวงเฉียงได้
ไม่ว่าจะยังไง ต่อให้เขาจะเป็นคนที่เลวร้ายขนาดไหน แต่ก็เป็นคนที่ร่ำรวยมากจนมีชื่อเสียงในจินหลิง!
เพียงแต่ว่า สายตาของจวงเฉียงมีเพียงแค่ร่างของซูมู่หาน
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นในครั้งที่แล้ว จวงเฉียงก็เรียกได้ว่าตัดขาดกับจ้าวยีฟานเป็นที่เรียบร้อย
แต่ว่า คุณพ่อมีคนรู้จักมากมายในด้านของธุรกิจ
และบังเอิญว่า บริษัทของพ่อซูมู่หานเองก็เคยร่วมงานกับบริษัทของคุณพ่อมาก่อน
ตัวเขาเองก็เคยวางแผนที่จะชวนซูมู่หานไปทานข้าวด้วยกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ แต่ก็ถูกซูมู่หานปฏิเสธตลอด ซูมู่หาน ในสายตาของจวงเฉียงเป็นผู้หญิงที่เย็นชามาก
โดนเธอเมินอยู่ตลอด
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว พอได้ข่าวว่าบ้านซูกำลังเผชิญการวิกฤต จวงเฉียงก็เริ่มแผนการของตัวเองทันที
อย่ารีบร้อน จะต้องแกล้งทำเป็นคนดีก่อน
“คือแบบนี้ครับ คุณลุงซูคุณป้าซู พ่อของผมพอได้ข่าวของปัญหาเรื่องบริษัทท่าน จึงให้ผมมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง สักพักผมจะโทรไปหา ปรึกษากับคุณพ่อ ดูว่าเขาจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง อีกอย่าง วันนี้เพื่อนของมู่หาน ก็อยู่ที่นี่แล้ว คงไม่ง่ายที่ทุกคนจะมาอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดทุกคนจะมาร่วมมือกัน ช่วยกันคิดหาวิธี ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้!”
จวงเฉียงพูดไปยิ้มไป
“ใช่แล้ว คุณดูคำพูดของจวงเฉียงสิ มันฟังดูดีขนาดไหน น้าหวังเองก็ขอร้องทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วยนะ ถ้าเกิดพวกเธอมีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน รบกวนช่วยติดต่อให้หน่อย! “
หวังหุ้ยหมิ่นยิ่งดูก็ยิ่งชอบจวงเฉียงขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องข่าวเสียๆหายพวกนั้น ก็มองข้ามมันไปเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้คิดแค่เรื่องที่ว่า ถ้าเกิดได้จวงเฉียงมาเป็นลูกเขยคงจะดีไม่น้อย!
และพอได้ฟังประโยคนี้ พวกหวังหยางก็พยักหน้าขึ้นมาทันที
“คุณชายจวงพูดถูกแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเราจะเทียบกับคุณชายจวงไม่ได้ แต่ว่าก็จะช่วยเท่าที่จะสามารถช่วยได้ ไม่ว่าจะยังไงอำนาจของบริษัทบ้านมู่หานก็อยู่ที่นี่แล้ว แต่ว่าเงินก็คงจะหมุนเวียนไม่พออยู่ดี!”
“จริงสิ แม่ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึงทำงานเป็นรองประธานของธนาคาร ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถกู้เงินออกมาได้สักหน่อย!”
จากนั้น ก็มีทั้งคนที่แนะนำวิธีการหาเงินทุน มีทั้งคนที่คอยแนะนำผู้ที่มีอำนาจ
หวังหุ้ยหมิ่นมองอยู่ในสายตา มีความสุขที่ใจ
เธอเข้าใจดีว่า เพื่อนร่วมห้องของมู่หานพวกนี้ มีฐานะที่ไม่ธรรมดา ล้วนมีอำนาจ
เพียงแต่ว่า......
ตอนที่หวังหุ้ยหมิ่นหันไปมองคนที่มีชื่อว่าเฉินเกอ
เห็นเพียงแค่เขากำลังถือโทรศัทพ์อยู่ กำลังแสร้งทำเป็นค้นหาอะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้น แสร้งทำเป็นเลื่อนไปเลื่อนมา
ทำให้หวังหุ้ยหมิ่นรู้สึกรังเกียจขึ้นมา
มู่หานไปรู้จักคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
อีกอย่างคนๆนี้ยังสนใจในตัวของลูกสาวตัวเองอีกด้วย นี่มันน่าตกใจยิ่งกว่าหนังสยองขวัญซะอีก!
“เธอที่ชื่อเฉินเกอ วันนี้เธอไม่มีคาบเรียนเหรอ? น้าขอรับไว้แค่น้ำใจของเธอก็พอ ไม่อย่ารบกวนเวลาเรียนของเธอ เธอกลับไปเรียนก่อนเถอะ......”
หวังหุ้ยหมิ่นเห็นว่าคุณชายจวงเองก็เหมือนจะเป็นศัตรูกับเขา
จึงพูดไล่แขกด้วยความเย็นชา
นี่ทำให้คนที่เพิ่งหาเบอร์ของหลี่เจิ้นกั๋วเจออย่างเฉินเกอรู้สึกแปลกใจขึ้นมา
แต่พอคิดดูดีๆก็เข้าใจได้ในทันที คนเขาเห็นตัวเองที่อยู่ในนี้เป็นส่วนเกิน และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนเขาอยู่ข้างจวงเฉียง
ภายในใจของเฉินเกอเองก็รู้สึกขมขื่นอยู่ไม่น้อย
เมื่อก่อนตัวเองอาจจะเคยทำเรื่องที่ไม่ดีมาก่อน แต่เจ้าจวงเฉียงมันทำเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่าตัวเอง แต่ว่า เพราะจวงเฉียงเป็นคนที่มีฐานะ บ้านเขาร่ำรวยมาก เรื่องเลวร้ายที่เขาเคยทำมาคนอื่นจึงสามารถมองข้ามมันได้
แต่ตัวเองนั้นไม่เหมือนกัน แค่ถูกคนอื่นเห็นก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว!
เพราะอะไรน่ะเหรอ? ในสายตาของพวกเขาจวงเฉียงคือคนที่มีอำนาจและมีเงินทอง ส่วนตัวเองเป็นคนที่ไม่มีอำนาจและไม่มีเงินทอง
“ให้ตายสิ เขายังถือโทรศัพท์เลื่อนไปเลื่อนมา ถ้าไม่รู้จักมาก่อนก็คงจะคิดว่าเขากำลังหาเบอร์ติดต่อกับคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่แน่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...