“ฉันเป็นแค่คนธรรมดาๆ สำหรับปัญหายุ่งยากพวกนี้ อาจเป็นเพราะบางทีโชคของฉันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่” เฉินเกอยิ้มจาง ๆ
“ฉันว่านายคือตัวอันตรายต่างหาก คบกับนาย จะต้องเจออันตรายไม่ช้าก็เร็ว” เหลียงลู่กลอกตา
พูดจากใจ ถึงแม้ว่าเธอจะกลัวอยู่บ้าง อีกทั้งยังคงขวัญเสียอยู่เล็กน้อย แต่ในใจของเธอกลับก็มีความรู้สึกตื่นเต้นบางอย่าง นั่นเป็นเพราะท้ายที่สุดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเธอเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ดังนั้นจึงส่งผลให้เธอไม่เคยประสบกับเรื่องตึงเครียดและน่าตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เธอกลับต้องมาหลบเลี่ยงการไล่ล่ากับเฉินเกอมาแล้วถึงสองสามวัน
นี่ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าตนได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่และมีประสบการณ์พิเศษที่เธอไม่เคยมีมาก่อน
“คบกับฉัน? ฉันมีแฟนแล้ว เธอควรจะเคารพตัวเองสักหน่อยดีกว่า” เฉินเกอพูดติดตลกพร้อมรอยยิ้ม แต่เมื่อพูดออกไป สีหน้าของเขาก็มืดลงทันที
เป็นเวลานานมากแล้วที่เขาไม่ได้ตรวจสอบข่าวใดๆ เกี่ยวกับซูมู่หาน และถึงขั้นไม่รู้ถึงความปลอดภัยและอันตรายในตอนนี้เสียด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เฉินเกอก็รู้สึกเจ็บปวดลึกๆ ในใจขึ้นมา
ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังใช้ไขควงเจาะเข้าไปในหัวใจของเขาอย่างโหดเหี้ยม
“ชิ พูดจาไร้สาระ” เหลียงลู่กลอกตา เธอไม่คุยกับเฉินเกออีกและมองดูเนื้อหาบนโทรศัพท์มือถือของเธอต่อ
หลังจากสูบบุหรี่เสร็จ เฉินเกอก็ผลักประตูไปที่ห้องของไป๋เสี่ยวเฟย
“พี่เฉิน ฉันได้ยินข่าวจากเบื้องบนมา หลี่กั๋วจุนมีทีมนักฆ่าอยู่จริงๆ และน่าจะเป็นคนที่พวกเราเพิ่งพบไป” เมื่อเห็นเฉินเกอเข้ามา ไป๋เสี่ยวเฟยก็วางสายแล้วเอ่ยขึ้น
"ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบพวกเขาแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไร” เฉินเกอโบกมือ
“อย่างนั้นตอนนี้เราจะทำยังไงดี เราจะจัดการกับตระกูลหลินและตระกูลโถ้ป๋าก่อน หรือจะเก็บกวาดเรื่องของหลี่กั๋วจุนก่อน” ไป๋เสี่ยวเฟยมองเฉินเกออย่างจริงจัง
“หลี่กั๋วจุน?”
“เขาเป็นผู้นำหากพวกเราจัดการกับเขาก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาไม่รู้จบ พวกเราต้องการแค่สามารถจัดการกับตระกูลหลินและตระกูลโถ้ป๋าได้ ได้ภาพไห่ซินมา และได้ข่าวของซินแสกุ่ยมาก็พอ”
เฉินเกอกำหมัดแน่น
สามตระกูลชั้นนำของประเทศหนานเยว่ อยู่ในรายชื่อที่ต้องกำจัดของเขามาตั้งนานแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเมื่อไหร่จะจัดการกับพวกเขา ก็เป็นแค่ปัญหาเรื่องเวลาที่ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น
“เข้าใจแล้ว” ไป๋เสี่ยวเฟยพยักหน้าอย่างหนัก
ตราบใดที่เฉินเกอต้องการความช่วยเหลือ เขาก็จะให้ความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล แม้ว่าเขาจะต้องแลกด้วยชีวิตของตนก็ตาม
——
ในอีกด้านหนึ่ง หลี่กั๋วจุนที่พึ่งกลับมายังที่พักของเขา เมื่อเข้าประตูมาก็โยนกล่องบุหรี่ลงบนพื้น
จะพูดยังไง เขาก็เป็นถึงหัวหน้าของหน่วยรบของประเทศหนานเยว่ มีตําแหน่งอยู่เหนือคนมากมายในประเทศนี้ แม้กระทั่งเมื่อพบกับบุคคลระดับสูงของหัวเซี่ย คนพวกนั้นก็ล้วนต้องไว้หน้าเขาอยู่ไม่น้อย
แต่เขากลับไม่คาดคิดเลยว่าครั้งนี้ตนจะต้องมาเสียท่าให้กับเด็กหนุ่มตัวเล็กๆอย่างเฉินเกอ
“มีข่าวจากองค์กรนักฆ่าไหม?” หลังจากระบายความโกรธ หลี่กั๋วจุนก็รู้สึกว่าตนสงบสติอารมณ์ขึ้นมาได้บ้างแล้ว
“หัวหน้า คุณเพิ่งส่งข่าวออกไปตอนกลับมา เรื่องนี้จะจัดการได้อย่างไรในเวลาเพียง 20 หรือ 30 นาที?” ลูกน้องของเขาพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก!”
“ตระกูลจินที่ใหญ่โต หนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของประเทศหนานเยว่ ถูกทำลายลงราบคาบด้วยน้ำมือของเด็กหนุ่มที่ไม่มีที่มาที่ไปคนหนึ่ง แม้แต่ไฟก็ยังถูกเผาไหม้อยู่นานเป็นเวลาสามวันสามคืน นี่แทบจะเป็นเรื่องน่าอายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศหนานเยว่มา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...