“อย่าเพิ่งพูด ออกไปก่อนแล้วค่อยพูด” เฉินเกอพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นสองมือก็จับที่ราวเหล็ก ใช้แรงในการดึงออกจากกัน
ราวเหล็กสองอันที่เท่าแขนของเด็กทารกก็ถูกดึงออกไปเสียอย่างนั้น ท่านซินแสกุ่ยกับคนของตำหนักสวนหยางไม่ได้ชักช้า ก็รีบมุดตัวออกมาเลย
เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงนี้ คนที่ถูกขังอยู่ข้างในก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
ไม่ว่าคนที่ถูกขังอยู่ตรงนี้หนึ่งปีหรือสองปี พวกเขาไม่ได้มีความคิดเพียงแค่ครั้งเดียวที่อยากจะหนีไปจากที่นี่ แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับราวเหล็กที่อยู่ตรงหน้าได้ แต่สิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึง ผู้ชายตรงหน้าที่รูปร่างผอมบาง ใช้มือเพียงข้างมือก็สามารถดึงมันแยกออกจากกัน เช่นนี้แล้วมันทำให้พวกเขาเห็นความหวังในการหนีเอาชีวิตรอด
“ไอ้หนุ่ม ฟังที่ฉันนะ ฉันเป็นพ่อค้าจิวเวลรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศหนานเยว่ ขอเพียงนายช่วยฉันออกไป ฉันจะให้เงินนายก้อนใหญ่ ให้นายสามารถสุขสบายไปตลอดทั้งชาติเลย!”
“ฉันเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทการค้าข้ามชาติ ฉันก็สามารถให้เงินนายเหมือนกัน!”
คนเกือบทั้งหมดกำลังคร่ำครวญขอร้องเฉินเกอ ขอเพียงสามารถออกไปจากที่ พวกเขายินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนทุกอย่าง แม้กระทั่งหมดตัวก็ยอม
เพราะว่าการอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่เห็นความหวังอะไรเลย มีชีวิตอยู่อย่างโง่เขลาทุกวัน ได้ทานข้าวเพียงวันละหนึ่งมื้อ อาหารก็ไร้รสชาติ ไม่ต่างอะไรกับอาหารหมูเลย
“รีบไปกันเถอะ” เฉินเกอไม่ได้สนใจพวกเขา สามารถช่วยท่านซินแสกุ่ยกับศิษย์ของตำหนักสวนหยางออกไปก็ไม่ง่ายแล้ว สำหรับคนพวกนี้แล้วเขาก็ไม่มีปัญญาที่จะไปสนใจแล้ว และก็ไม่อยากจะสนใจด้วย
“น้องชายรอก่อน นายพูดมาเลยว่าต้องการอะไร ขอเพียงช่วยฉันออกไป ฉันจะให้นายทุกอย่าง!” เมื่อเห็นเฉินเกอกำลังจะเดินไป คนเหล่านั้นก็พูดอย่างรีบร้อน
เฉินเกอไม่แม้แต่จะที่มองพวกเขา พาท่านซินแสกุ่ยกับลูกศิษย์ของตำหนักสวนหยางเดินตามทางไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเฉินเกอเดินไป เสียงของพวกเขายิ่งอยู่ยิ่งดัง ถึงขั้นเริ่มโห่ร้องกันแล้ว
หากไม่มีเรื่องนี้ พวกเขาก็คงยอมรับชะตากรรมไปแล้ว ยอมใช้ชีวิตที่เสื่อมโทรมต่อไป ไม่แน่วันดีคืนดีก็จะถูกนำตัวไปประหาร แต่ตอนนี้กลับเห็นความหวังของชีวิตในทันที
จนกระทั่งเห็นเฉินเกอหายไปจากแสงไฟที่อยู่ลึกๆ ในที่สุดพวกเขาก็ถอนหายใจ เข้าใจดีว่าการที่ถูกช่วยเหลือออกไป เรื่องดีเช่นนี้ ไม่มีทางเกิดกับพวกเขา
“ขึ้นมา” เฉินเกอพลิกตัวมุดแล้วตัวออกมาจากหลุม หลังจากที่ยืนมั่นคงแล้ว ก็ยื่นมือลงไป
“ขอบคุณมาก” ท่านซินแสกุ่ยจับมือของเฉินเกอ หลังจากที่ขึ้นมาแล้วก็พูดขึ้นทันที “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่านายจะหาที่ตรงนี้เจอแล้วช่วยพวกเราออกไป ตอนแรกที่ถูกขัง พวกเราต่างหมดหวังกันไปแล้ว”
“ใช่ครับ เจ้าสำนัก เจ้าสำนักมาได้จังหวะมากเลย” เหล่าลูกศิษย์ของตำหนักสวนหยางก็พูดอย่างไม่ขาดสาย
“ตอนนี้เรายังไม่รอดพ้นจากอันตราย ฉันจี้ตัวท่านรองของหน่วยรบ นำใบผ่านของเขาจึงสามารถมาที่นี่ ฉันคิดว่าไม่ช้าเขาน่าจะตามมาแล้ว ดังนั้นการที่จะออกไปจากที่นี่มันไม่ง่ายเลย เตรียมตัวรับมือกันให้ดี เฉินเกอเป่าลมกำลังภายใน” แล้วจุดบุหรี่ขึ้นมาอีกหนึ่งมวน กล่าวอย่างเรียบเฉย
“ไม่มีปัญหา!” เหล่าลูกศิษย์ตำหนักสวนหยางต่างก็พยักหน้า
เดิมพวกเขาก็อัดอั้นกันอยู่แล้ว คนที่มีความสามารถกลับถูกประเทศหนานเยว่วางแผนจนต้องมาถูกขังอยู่ที่นี่ ตอนนี้ได้รับอิสระแล้ว อยากที่จะบุกออกไปจัดการคนพวกนั้นให้สาสม
ตอนนี้ได้ยินเฉินเกอบอกว่ามีโอกาสที่จะประมือกัน พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กลัว ตรงกันข้ามกลับตื่นเต้นมาก
นั่งพักข้างในโกดังไปครู่หนึ่ง เฉินเกอก็ผลักประตูออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...