พวกลูกศิษย์ก็พยักหน้ากันทันที พวกเขานั้นเข้าใจดีว่าน้ำเสียงเช่นนี้ของเฉินเกอนั้นหมายความว่าอย่างไร
พริบตาเดียว ศิษย์สิบกว่าคนของตำหนักสวนหยางก็ได้ล้อมท่านซินแสกุ่ยไว้ตรงกลาง พวกเขานั้นมองสังเกตสถานการณ์โดยรอบ แต่ท่านซินแสกุ่ยที่พวกเขาคุ้มกันอยู่ กลับมองไปที่เฉินเกอตลอดเวลา
“เฉินเกอ หรือว่าแกจะเป็นเหมือนเต่าหดหัวที่จะซ่อนตัวอยู่ในป่า โดยไม่กล้าจะมาเผชิญหน้ากับฉันเหรอ?” ในไม่ช้า ก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากกลางป่า
“ทำไมน้ำเสียงนี้คุ้นเคยจังเลย?” ไป๋เสี่ยวเฟยมองไปข้างในป่า กลับมองไม่เห็นอะไรเลย
“เดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องออกมาสู้ทั้งนั้น คุ้มกันท่านซินแสกุ่ยกับเหลียงลู่ให้ดี เรื่องอื่นมอบให้ฉันเป็นคนจัดการ!”
เฉินเกอจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน มองไปทิศทางที่เสียงดังมา
เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคือหลี่กั๋วจุน และพลังที่กำลังเปล่งออกมาจากร่างกายของคนผู้นี้ เฉินเกอไม่ค่อยจะเข้าใจ ทำไมหลี่กั๋วจุนที่ใช้เวลาสั้นๆเพียงสองสามวันก็สามารถมีพลังที่แข็งแกร่งเพียงนี้
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้
ร่างของเฉินเกอหายไปจากในป่าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หายตัวไป พลังที่ยิ่งใหญ่มหาศาล ก็ได้แผ่กระจายไปทั่วผืนป่า
ไม่ถึงสิบวินาที เฉินเกอกับหลี่กั๋วจุนก็ประจันหน้ากันแล้ว
“ท่านผู้นำหลี่ ไม่เจอกันแค่สามวัน คิดไม่ถึงว่าคุณจะมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้” เฉินเกอหรี่ตามองสำรวจร่างกายของเขา แม้ว่าความแข็งแกร่งของหลี่กั๋วจุนในตอนนี้จะเทียบได้กับพลังของจินไท่หยางและหลินเต้าเทียน แต่มันกลับเลื่อนลอยเล็กน้อย ราวกับว่าเขาได้ใช้วิธีในการฝืนเพิ่มความแข็งแกร่ง
“อย่าพูดมากเลย แกทำลายล้างสามตระกูลใหญ่ในประเทศหนานเยว่ของเรา วันนี้อย่าคิดมีชีวิตออกไปจากที่นี่เลย!” หลี่กั๋วจุนกำหมัดขึ้น สัมผัสได้ถึงร่างกายที่เต็มไปด้วยพลัง ความเชื่อมั่นในใจเขาก็ขยายเพิ่มขึ้นไปจนถึงขีดสุด
เฉินเกอแล้วยังไง คนหัวเซี่ยแล้วยังไง ตอนนี้แกที่อยู่ในสายตาของฉัน อะไรก็ไม่ใช่ทั้งนั้น
“แกไม่มีความสามารถนี้” เฉินเกอยักไหล่
เริ่มแรกตอนที่ท่านซินแสกุ่ยถูกจับนั้น เขาก็อยากจะจัดการกับหน่วยรบของประเทศหนานเยว่แล้ว แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ของประเทศ ตอนนี้ในเมื่อหลี่กั๋วจุนเป็นคนมารนหาที่เอง ถึงขั้นมีความคิดที่จะฆ่าพวกเขาให้ตายอยู่ในป่า ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับตัวเองที่เดินมาหาที่ตายเอง
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้แกดูความแข็งแกร่งของฉัน!” หลี่กั๋วจุนหัวเราะเสียงดัง
พลังฝ่าเสินยังคงหมุนเวียนอยู่ในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง พลังอันแข็งแกร่งก็แผ่กระจายไปทั่วทุกมุมของร่างกาย แม้แต่ร่างกายของเขาก็ยังขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และทำเสื้อผ้าก็ฉีกขาด
หลี่กั๋วจุนฉีกเสื้อผ้าของตัวเองออกไปเลย เขาหมุนหมัดไปข้างหน้าหลายรอบ รู้สึกถึงพลังที่เต็มเปี่ยม และในใจของเขา มีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถฆ่าเฉินเกอได้
“แกเป็นผู้นำของประเทศหนานเยว่ เดิมทีฉันไม่คิดที่อยากจะฆ่าแก ขอเพียงเอาภาพไห่ซินออกมา ฉันก็จะไปจากประเทศหนานเยว่ทันที” เฉินเกอหรี่ตาลง เขาพอจะเดาได้ว่าหลี่กั๋วจุนใช้วิธีการอะไรในการเพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว จะฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องยาก
แต่คำนึงถึงประเทศหัวเซี่ย เฉินเกออยากที่จะให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง
อีกอย่าง หลี่กั๋วจุนยังเป็นผู้นำของประเทศหนานเยว่ หากฆ่าเขาจริง มันรังแต่จะนำพาความยุ่งยากมาให้กับตัวเอง อีกอย่างเฉินเกอแค่ต้องการภาพไห่ซิน ตอนที่ท่านซินแสกุ่ยและคนอื่นๆถูกช่วยออกมาแล้ว เรื่องน้อยย่อมดีกว่าเรื่องเยอะ
“อย่าพูดมากอีกเลย พวกแกทั้งหมดจะไม่มีใครออกไปจากป่าแห่งนี้ได้!” ยังไม่ทันที่เฉินเกอจะพูดจบ หลี่กั๋วจุนก็บุกมาข้างหน้าทันที
ภายใต้อานุภาพของพลังฝ่าเสิน ท่าทางของเขาว่องไวอย่างมาก ในพริบตาเดียวก็ได้บุกมาถึงด้านหน้าของเฉินเกอแล้ว เขาไม่ได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ใดๆ มีเพียงพลังหยาบขั้นพื้นฐานเท่านั้น
แต่ความว่องไวนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมาก และเพียงพลังหยาบนี้ มันก็เกินความคาดหมายของเฉินเกอ เมื่อเทียบกับพลังลี่ป้า ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่ากี่พันเท่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...