สองชั่วโมงผ่านไป คนขับได้พาเฉินเกอมาถึงสถานที่ตั้งของสุสานบรรพชนตระกูลหลี่
หลังจากจอดรถสนิทแล้ว คนขับที่ใบหน้ายิ้มแย้ม มองมาทางเฉินเกอ
“คุณเฉิน ตรงนี้ก็คือสุสานบรรพชนของตระกูลหลี่ หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้หลี่กั๋วจุนออกมาจากที่นี่ เพียงแต่เขาอยู่ข้างในไปเกือบสองชั่วโมง ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” คนขับชี้ไปทางประตูของสุสานบรรพชน แล้วกล่าว
“รอฉันอยู่ตรงนี้ อย่าขยับไปเรื่อยล่ะ” เฉินเกอหรี่ตากวาดมองไปครู่หนึ่ง หลังจากที่จุดบุหรี่แล้ว ก็เปิดประตูลงจากรถ
คนขับไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงนั่งอยู่บนรถอย่างเชื่อฟัง เขารู้ว่าความเป็นความตายของเขาอยู่ในกำมือของเฉินเกอ แม้ว่าตอนนี้จะสามารถหนีไปจากที่นี่ได้ เกรงว่าใช้เวลาไม่ถึงสองวันก็คงจะถูกจับตัวได้อีก ยังคงอยู่ในเส้นทางของความตายอยู่ดี
เฉินเกอที่สูบบุหรี่อยู่ ก็ได้ผลักประตูสุสานแล้วเดินเข้าไป
เพิ่งจะเข้าไป ประตูก็ปิดเองอัตโนมัติ
แม้ว่าข้างในจะมืดมิด แต่เฉินเกอก็สามารถเห็นสถานการณ์ภายใน ได้ด้วยประสาทสัมผัสของเขาที่มากกว่าคนทั่วไป แม้แต่ประตูที่ซ่อนอยู่บนผนังกำแพง ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“สุสานบรรพชนข้างในที่มีประตู ส่วนใหญ่จะมีค่ายกล” เฉินเกอยิ้มๆ มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่ไว้ อีกข้างหนึ่งก็กดลงไปบนประตูโดยตรง
ชั่วขณะที่เขากำลังกดลงไปนั้น พลังเทพจิตเก้าภพที่อยู่ในร่างกายก็เคลื่อนตัวอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นพลังมหาศาลจากดานเถียนพุ่งมาที่แขน แล้วก็ถูกปล่อยออกมาทางฝ่ามือ
“ตู๊ม!”
ประตูหินรองรับพลังไปครู่หนึ่ง ก็แตกกระจายอยู่บนพื้น
เมื่อก้าวเท้าเดินเข้าไป แวบแรกเฉินเกอก็เห็นกล่องไม้ที่วางอยู่ตรงหน้า และม้วนไผ่ที่เก็บไว้อยู่ข้างใน
“ใช่อันนี้หรือเปล่า?” เฉินเกอหยิบม้วนไผ่ขึ้นมา ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด พลังงานอย่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากม้วนไผ่ อยากจะเข้าไปสิงในร่างกายของเฉินเกอ
แต่พลังนี้ก็ถูกพลังเทพจิตเก้าภพสกัดกั้นไว้นอกร่างกายของเฉินเกอในทันที
เฉินเกอเข้าใจแล้ว หลี่กั๋วจุนน่าจะอาศัยพลังนี้ถึงสามารถมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนั้น แม้ว่ามันจะถูกพลังเทพจิตเก้าภพขวางไว้นอกร่างกาย แต่เฉินเกอก็ยังสัมผัสมันได้เล็กน้อย รู้ว่ามันไม่ใช่พลังความชั่วร้ายอะไร แต่มันกลับเหมือนพลังของผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง เขาได้ผนึกพลังวิชาของตัวเองไว้ข้างในนี้
ขอเพียงสัมผัสมันก็จะได้รับพลังความแข็งแกร่งที่เหมือนกันในช่วงระยะเวลาที่สั่นๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินเกอก็ได้นำม้วนไผ่ใส่เข้าไปในกระเป๋าโดยตรง ของสิ่งนี้แม้จะไม่มีประโยชน์อะไรต่อตัวเอง แต่มันก็เป็นของที่หายาก เก็บไว้ตรงนี้มันเสียของเปล่าๆ หากตัวเองเอาไป ไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากมัน
หลังจากที่เก็บม้วนไผ่แล้ว เฉินเกอก็กวาดมองห้องเล็กๆนี้
ห้องนี้นอกจากม้วนไผ่แล้ว ก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายบางส่วน เฉินเกอไม่เห็นตำแหน่งที่มีความไปได้ที่จะเก็บภาพไห่ซินเลย เมื่อออกมา เฉินเกอก็มองสำรวจด้านนอกอีกครั้ง ก็ยังคงไม่เห็นภาพไห่ซินอยู่ดี
ยืนอยู่ตรงกลาง เฉินเกอมองป้ายวิญญาณเหล่านั้นของตระกูลหลี่
ในขณะที่เฉินเกอจะหันหลังเดินออกไป แผ่นหนังที่วางอยู่บนโต๊ะกลับเตะตาเฉินเกอ
เฉินเกอก้าวเดินขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหยิบมันขึ้นมาดู
ข้างบนไม่มีร่องรอยตัวหนังสือใดๆเลย มันกลับเหมือนแผนที่ฉบับหนึ่ง
เฉินเกอไม่รู้ว่าสถานที่ที่หมายเหตุไว้ด้านบนมันคืออะไร
เฉินเกอที่นำแผ่นหนังแกะออกไป ไม่ได้พูดอะไรมาก ได้กางแผ่นหนังออกแล้วถามคนขับ “รู้หรือเปล่าว่าสถานที่ที่หมายเหตุบนนี้อยู่ที่ไหน?”
“รู้และก็ไม่รู้” หลังจากที่คนขับมองไปครู่หนึ่ง ก็พูดอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...