ต้องรู้ว่า นี่เป็นเพียงการตายของกองกำลังพิเศษของหนานเยว่ หากคนที่ตายเป็นคนจากหัวเซี่ย หรือว่ากองกำลังพิเศษของประเทศอื่นที่พวกเขาไม่สามารถรุกรานได้ นั่นก็จะเกิดเป็นปัญหาใหญ่
ตอนนี้ให้กองกำลังพิเศษของประเทศเหล่านี้หาที่อยู่อาศัยด้วยตัวเอง แม้จะวุ่นวายอยู่บ้าง แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีกจริงๆ หน่วยรยของพวกเขาก็จะมีเรื่องรับผิดชอบน้อยลง
"ดูเหมือนว่าหน่วยรบจะกลัวแล้ว" เมื่อได้รับข่าว เฉินเกอก็สามารถเดาได้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยรอยยิ้ม
"ใช่ กองกำลังพิเศษระดับสูงของประเทศหายไปอย่างลึกลับ ไม่มีเบาะแสใดๆ เลยสักนิด ฉันคิดว่าโวกั๋วคงไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน" ซินแสกุ่ยที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้น
"เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องพูดถึงแล้ว พวกเราควรหาที่อยู่อาศัยดีกว่า นอกจากหนานเยว่แล้วคนอื่นๆไม่ได้มาสร้างปัญหาให้กับเรา แต่เมื่อคิดถึงเรื่องของเผ่าไห่ต้องก็ช่างยากเกินไปจริงๆ เผ่าพันธุ์นี้ได้รับปรับเข้ากับสังคมของโวกั๋วไปอย่างสมบูรณ์แล้ว "
เมื่อคิดถึงภารกิจที่โวกั๋ว เฉินเกอก็รู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง
ตามหาเผ่าไห่ต้องท่ามกลางฝูงชนอันกว้างใหญ่ อีกทั้งเผ่าพันธุ์นี้ยังจงใจปกปิดตัวตนเอาไว้ ความยากนี้แทบจะเทียบได้กับการหาเกาะโยวหลงบนท้องทะเล แต่แค่ไม่มีอันตรายอะไรก็เท่านั้น
หลังจากออกจากฐานฝึกอบรมของโวกั๋ว เฉินเกอก็กลับไปที่โรงแรมที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ ยังไงเสียก็ยังมีเวลาเกือบครึ่งเดือนก่อนเริ่มการแข่งขัน รอให้สองวันก่อนเริ่มงาน พวกเขาค่อยถามเกี่ยวกับสถานที่จัดการแข่งขันในโวกั๋วและรีบไปที่นั่นก็พอ
เพียงแต่ขณะที่พวกเขากำลังเช็คอินอยู่ในโรงแรม ซินแสกุ่ยกลับจ้องไปที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเพิ่งเข้ามาพัก และเห็นว่าน่าจะเป็นทหารหน่วยรบพิเศษของโวกั๋ว
ในทุกประเทศ กองกำลังพิเศษไม่ได้มีแค่ผู้ชายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้หญิงจำนวนไม่มากนักด้วย เพราะภารกิจบางอย่างผู้หญิงนั้นสะดวกกว่าผู้ชายมากนัก
"ชอบเธอหรือ?" เมื่อเห็นว่าซินแสกุ่ยกำลังจ้องไปที่ทหารหญิงของหน่วยรบพิเศษ เฉินเกอก็ถามเสียงต่ำด้วยรอยยิ้ม
"พูดเหลวไหล ฉันไม่สนใจผู้หญิงพวกนี้ ฉันแค่สนใจสร้อยคอของเธออย่างมาก" ซินแสกุ่ยส่ายหัว ขณะที่สายตายังคงมองผู้หญิงคนนั้นอยู่
"สร้อยคอ?" เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า "นายไปสนใจสร้อยคอของคนอื่นได้ยังไง? นี่นายไม่ได้เป็นพวกโรคจิตใช่ไหม?"
"ฉันบอกกับนายได้เลยว่า สร้อยคอของเธอไม่ธรรมดา ฉันรู้สึกว่านั่นคล้ายกับจี้ของเผ่าไห่ต้อง บนนั้นมีสัญลักษณ์พิเศษของเผ่าไห่ต้องอยู่ เพียงแต่ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับเผ่าพันธุ์นี้ก็เลยไม่แน่ใจ" ซินแสกุ่ยส่ายหัว จากนั้นก็เอ่ยกระซิบที่ข้างหูของเฉินเกอ
เสียงของซินแสกุ่ยไม่ได้ดังแต่นั่นกลับทำให้หูของเฉินเกอราวกับมีฟ้าร้องดังขึ้นมาก็ไม่ปาน
"หมายความว่ายังไง จี้พิเศษของเผ่าไห่ต้อง?" รูม่านตาของเฉินเกอหดลง สายตาของเขาจ้องไปที่ผู้หญิงในล็อบบี้อย่างแน่นิ่ง บนคอของเธอมีสร้อยคอที่เล็กบางอยู่จริงๆ บนนั้นมีจี้อยู่ชิ้นหนึ่ง แต่เนื่องจากอยู่ไกลเกินไป จึงเห็นได้ไม่ชัดเจน
"เหมือนจะใช่ แต่ฉันก็ไม่แน่ใจ" เมื่อเห็นอารมณ์ตื่นเต้นของเฉินเกอ ซินแสกุ่ยที่ก็รีบพูดขึ้น เพราะกลัวว่าหากเขามองผิดไป เขาจะทำให้เฉินเกอต้องเจอกับความผิดหวังในท้ายที่สุด
"แค่ดูคล้ายก็ไม่ง่ายแล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม พวกเราเข้าใกล้เผ่าไห่ต้องมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว" เฉินเกอสูดลมหายใจลึก ๆ ขณะพูด มือทั้งสองของเขาถึงกับสั่นเล็กน้อย
"นายคิดจะทำยังไง เข้าไปถามตรงๆ เลยหรือ?" ซินแสกุ่ยพูดต่อด้วยเสียงต่ำ
"ฉันไม่รู้ ดูสถานการณ์ก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน" เฉินเกอส่ายหัว เมื่อเผชิญหน้ากับคนของเผ่าไห่ต้อง เขาไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนไปติดต่อกับพวกเขา ถึงไม่ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวและต่อต้าน และทำให้อีกฝ่ายเป็นฝั่งที่เริ่มบอกความลับของเกาะโยวหลงออกมาก่อนได้
"อย่างนั้นฉันจะพาเสี่ยวเฟยขึ้นไปก่อนแล้วกัน" หลังจากรับบัตรห้องมาจากแผนกต้อนรับ ซินแสกุ่ยก็เอ่ยกับเฉินเกอ จากนั้นก็ดึงแขนของไป๋เสี่ยวเฟยเข้าลิฟต์ไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...