"ยังจะยืนเฉยอยู่ทำไม รีบไปถามเธอเกี่ยวกับเผ่าไห่ต้องสิ ถ้าหากเธอหนีไปจะทำยังไง?" ไป๋เสี่ยวเฟยตื่นเต้นเล็กน้อย
"อย่าใจร้อน" เฉินเกอดึงแขนของเขาเอาไว้ ในขณะที่อธิบายสถานการณ์กับเขานั้น ก็เดาได้ว่าไอ้หมอนี่ต้องตื่นเต้นมากอย่างแน่นอน
"จะไม่ตื่นเต้นได้ยังไงล่ะ หากเธอหนีไป เราจะไปหาชนเผ่าไห่ต้องได้จากที่ไหนอีก ก็ไม่ใช่ว่าจะหาพวกเขาเจอได้ง่ายๆนะ หากเสียเวลานานเกินไป เราไม่สามารถจะอยู่ที่โวกั๋วตลอดหรอกมั้ง"
เมื่อถูกเฉินเกอกระชากไว้ ไป๋เสี่ยวเฟยก็ล้มตัวนั่งลงบนโซฟา แล้วยังไปโดนบุหรี่ของเฉินเกอที่วางไว้บนโต๊ะอีก
"จะพูดแบบนี้ไม่ได้ เธอคือทหารกองกำลังพิเศษ น่าจะมาร่วมการแข่งขันหน่วยรบพิเศษถึงได้มาอยู่ตรงนี้ อีกอย่างในโรงแรมมีข้อมูลเช็กอินของเธอ หากบุ่มบ่ามออกไปแบบนี้ ต้องถูกพวกเราทำให้ตกใจอย่างแน่นอน อย่าว่าชนเผ่าไห่ต้องเลย อาจจะแจ้งตำรวจก็เป็นได้"
"ก่อนอื่นต้องเข้าใจสถานการณ์เธอเสียก่อน แล้วค่อยหาทางเข้าใกล้อีกฝ่าย ในสถานการณ์ที่อีกฝ่ายไม่ได้รังเกียจแล้วค่อยหาเวลาที่เหมาะสมพูดเรื่องของชนเผ่าไห่ต้อง มันถึงจะมีโอกาสได้ข้อมูลของเกาะโยวหลง"
ท่านซินแสกุ่ยอธิบายแทนเฉินเกอ
"เขาพูดถูก ฉันก็คิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน" เฉินเกอพยักหน้าเห็นด้วย หลายครั้งแล้วที่เขากับท่านซินแสกุ่ยมีความคิดที่เหมือนกัน
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรออยู่แบบนี้เหรอ?" ไป๋เสี่ยวเฟยไม่เข้าใจ ยังไงก็รู้สึกว่ามันยืดเยื้อเกินไป
"เท่าที่ดูในตอนนี้ นอกจากรอโอกาสแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นเลย "เฉินเกอยักไหล่ แล้วพูดต่อ"ถ้าหากก่อนที่เรายังหาเธอไม่เจอ เธอก็จากไปเสียก่อน อย่างนั้นแล้วเราทำได้เพียงหาวิธีใหม่"
"แบบนี้ก็น่าเสียดายนะสิ " ไป๋เสี่ยวเฟยถอนหายใจ
"มันก็คือทางเลือกที่ไม่มีทางให้เลือก " เฉินเกอยิ้มแหยะๆ
หลังจากที่พูดจบ เฉินเกอก็ลงไปข้างล่างคนเดียว ในเมื่อระยะนี้ต้องพักอยู่ที่นี่ เฉินเกอก็อยากที่จะเข้าใจสถานการณ์โดยรอบ แม้ว่าตัวเองจะไม่มีความแค้นกับคนโวกั๋ว แต่ไม่แน่อาจจะมีศัตรูตามมาถึงที่นี่
ที่นี่ไม่ใช่หัวเซี่ย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องพึ่งตัวเอง อีกอย่างก็ไม่ได้สบายเหมือนประเทศหนานเยว่
ท่านซินแสกุ่ยกับไป๋เสี่ยเฟยจะตามออกไปด้วย แต่ถูกเขาปฏิเสธ ท่านซินแสกุ่ยไม่มีทักษะการต่อสู้เลย เมื่อตกอยู่ในอันตรายตัวเองก็ต้องปกป้องเขาอยู่แล้ว แต่ไป๋เสี่ยวเฟยนั้นมาร่วมการแข่งขัน เฉินเกอไม่อยากให้เขาต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องของตัวเอง
เฉินเกอที่สูบบุหรี่ กำลังนั่งลิฟต์ลงมา
ท้องฟ้าข้างนอกมืดสนิทแล้ว มองดูผู้คนที่เดินพลุกพล่านอยู่ข้างนอก เฉินเกอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก และก็ปล่อยวางได้บ้างแล้ว
ในเมื่อพ่อแม่กับพี่สาวก็อยู่เกาะโยวหลงนานขนาดนี้แล้ว คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาใหญ่โตอะไร อย่างไรเสียก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับเฉินเตี๋ยนชางทางสายเลือด เฉินเกอไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถลงมือฆ่าจริง จากเรื่องราวบางส่วนในอดีตของพ่อกับปู่ ก็พอจะเดาได้
ขณะที่เดินอยู่บนท้องถนน เฉินเกอกำลังคิดหาวิธีที่จะเข้าใกล้กับผู้หญิงคนนั้น จะถามเรื่องเกี่ยวกับเผ่าไห่ต้องอย่างไรดี ถึงอย่างไรคำว่าเผ่าไห่ต้องสามคำนี้สำหรับคนไห่ต้องแล้ว น่าจะเป็นคำพูดต้องห้าม ไม่สามารถที่จะเอ่ยถึงเด็ดขาด
คิดถึงตรงจุดนี้เฉินเกอก็รู้สึกหัวโต
เมื่อเห็นซูเปอร์มาร์เก็ตข้างๆ เฉินเกอกำลังจะเข้าไปซื้อบุหรี่ ดวงตาของเขาก็คมเฉียบขึ้นมาในทันที ด้วยอานุภาพของพลังเทพจิตเก้าภพ เฉินเกอสามารถสัมผัสได้ถึงสถานการณ์อันตรายทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา
และในเวลานี้ เฉินเกอสัมผัสถึงซอยที่อยู่ด้านหลังโรงแรม กำลังเกิดเรื่องที่อันตราย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...