เมื่อเห็นว่าเฉินเกอไม่คิดที่จะพูด ทากูยะ ฟุตาบะก็ไม่คิดที่จะถามต่อ
หลังจากรับประทานอาหารแล้วเสร็จ เฉินเกอก็ถูกจัดให้พักผ่อนในบริเวณที่ดีที่สุดของตระกูล หลังจากที่กล่าวคำอำลากับทาตายุ เฉินเกอก็เดินตามพ่อบ้านไปยังห้องพัก
เมื่อผลักประตูออก เฉินเกอก็เห็นการตกแต่งที่หรูหราภายในห้อง บอกว่าเป็นห้องรับแขก แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรกับห้องทั่วไปเลย สามห้องนอนสองห้องโถง ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน
"ทางฝั่งของโรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง"เมื่อปิดประตู เฉินเกอก็วางกระเป๋าลง แล้วโทรไปถามไป๋เสี่ยวเฟย
"พี่เฉิน เราเห็นมีคนจำนวนไม่น้อยลาดตระเวนไปมาอยู่ที่ด้านล่างของโรงแรม ราวกับเหมือนกำลังหาพี่อยู่"
เมื่อได้รับสายจากเฉินเกอ ไป๋เสี่ยวเฟยก็เดินไปที่ริมหน้าต่างทันที แล้วมองลงไปยังด้านล่าง
"อืม"เฉินเกอพยักหน้า นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้อยู่แล้ว
"ให้ผมลงไปจัดการพวกเขาเลยไหมครับ ?"เมื่อเห็นพวกเขาเดินวนไปมาที่หน้าโรงแรมอยู่สักพัก อีกทั้งยังมีคนเดินเข้าๆออกๆ ไป๋เสี่ยวเฟยก็ถามต่อ
"ไม่ต้องสนใจ หากพวกเขาไม่มาหาเรื่องพวกเรา ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะ " เฉินเกอปฏิเสธข้อเสนอแนะของไป๋เสี่ยวเฟย หลังจากที่พูดคำนี้จบก็กดวางสายไป
เมื่อได้ยินเสียงที่ถูกตัดสายทิ้งไป ไป๋เสี่ยวเฟยก็ถอนหายใจออกมา
"เฉินเกอไม่อนุญาตให้คุณลงมือจัดการใช่ไหม ?"จากที่รู้จักกันมานาน ท่านซินแสกุ่ยก็สามารถมองผ่านน้ำเสียงและกิริยาท่าทางของไป๋เสี่ยวเฟย และเข้าใจในการกระทำของเขาได้
"ใช่ พี่เฉินบอกให้อยู่นิ่งๆไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไร ยังบอกอีกว่าหากเขามาระรานเรา ก็ค่อยลงมือจัดการ "ไป๋เสี่ยวเฟยถอนหายใจ แล้วพูดตอบ
"เฉินเกอพูดถูก เราอยู่ในโวกั๋ว อีกอย่างก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอำนาจอิทธิพลของอีกฝ่าย หากไปยั่วโมโหพวกเขาเข้า มีแต่จะสร้างปัญหาให้เราก็เท่านั้น"
"คุณก็ต้องควบคุมอารมณ์หุนหันพลันแล่นด้วย หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าจะสร้างปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่ ดูซิว่าคุณจะไปพูดอธิบายกับเฉินเกอยังไง" ท่านซินแสกุ่ยยังคงเล่นเข็มทิศที่อยู่ในมือต่อ
ภาพไห่ซินอยู่กับเฉินเกอ เขาจึงทำได้เพียงพยากรณ์และตรวจตราดูจากคำทำนาย ดูว่าช่วงนี้เฉินเกอจะพบเจอปัญหาหรืออันตรายอะไรหรือไม่
"ผมรู้ ผมถึงได้ถามพี่เฉิน และไม่คิดจะลงมือทำอะไรด้วยตัวเองยังไงล่ะ!"ไป๋เสี่ยวเฟยเกาหัว เขาไม่ใช่คนที่โตแต่ตัวแต่สมองกลับคิดอะไรไม่ได้ เพียงแค่อดใจไม่ไหวที่อยากจะทำสงคราม แต่ก็ยังต้องถามเฉินเกอก่อนที่จะลงมือ
"พอแล้ว ไปนอนได้แล้ว ตอนนี้เฉินเกอก็ติดต่อกับเผ่าไห่ต้องได้แล้ว น่าจะต้องการความช่วยเหลือจากเราได้ทุกเมื่อ" หลังจากดื่มน้ำตรงหน้าจนหมด ท่านซินแสกุ่ยก็หยิบเอาเข็มทิศแล้วเดินกลับไปที่ห้อง
"แน่ใจแล้วเหรอว่าตระกูลนั้นเป็นเผ่าไห่ต้อง?"ไป๋เสี่ยวเฟยเดินตามมาสองก้าว และคว้าแขนของท่านซินแสกุ่ยเอาไว้
"ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ แต่มีความเป็นไปได้สูง" ท่านซินแสกุ่ยเองก็ไม่กล้ารับประกัน เพราะเผ่าไห่ต้องเก็บซ่อนตัวอย่างมิดชิด กับแค่เบาะแสอันน้อยนิดพวกนี้ ไม่สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้
"ก็ได้"ไป๋เสี่ยวเฟยยักไหล่ แล้วปล่อยมือออก
——
วันถัดไป
เฉินเกอตื่นแต่เช้า
พักอยู่ที่ตระกูลฟุตาบะ จุดประสงค์ของเฉินเกอก็คือการหาตระกูลนี้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันเผ่าไห่ต้อง หากหาเจอ ก็จะมั่นใจได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...