แต่ขณะที่พูด กลับหันไปมองซุทานิ ตัวเขาเองไม่ได้จ้างวาน แต่ไม่ได้หมายความว่าหัวหน้าองค์กรของกลุ่มนักฆ่าคนนี้ไม่ได้เป็นคนทำ ยังไงซะไฮทาซุมิและเอนโด ก็ถูกซุทานิสั่งให้ไปลอบฆ่า โดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องราวด้วยเลย
"ใช่อย่างนี้หรือเปล่า?" เฉินเกอไม่ได้ตอบคำถาม แต่มองไปยังซุทานิที่อยู่ด้านข้าง
"ฉันไม่เคยส่งนักฆ่าคนอื่นไปลอบฆ่าแก" ซุทานิกัดฟันพลางมองไปที่เฉินเกอ สิ่งที่เขาได้รับในตอนนี้ ต้องขอบคุณเฉินจริงๆ! คิดถึงตรงนี้ เขาก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "รีบส่งตัวไฮทาซุมิกับเอนโดคืนมา!"
"ได้อยู่แล้ว เก็บพวกเขาสองคนไว้ในตระกูลก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ขอแค่นายต้องการ สามารถเอาเปลไปหามพวกเขาออกมาได้ทุกเมื่อ" เฉินเกอยักไหล่ แล้วเอ่ยพูดอย่างไม่แยแส
"แก!"
ถึงแม้รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง แต่ซุทานิก็อดกลั้นความโกรธแค้นนี้ไว้ไม่ได้ เป็นถึงระดับหัวหน้าทีมนักฆ่าของตระกูล แต่กลับถูกทำร้ายจนพิการอย่างนี้ กว่าจะฝึกฝนบ่มเพาะหัวหน้าทีมสองคนนี้ออกมาได้ นอกจากเสียกำลังคนและทรัพยากรแล้ว ยังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสิบปี
และไม่ใช่ว่าจะสามารถหาคนที่มีพรสวรรค์อย่างนี้ได้ง่ายๆ
"น้องชาย วันนี้นายมาถึงที่นี่ ตกลงมันเพื่ออะไรกันแน่?" ถึงแม้คาวะเองก็โมโหมาก แต่เขาเป็นถึงเจ้าบ้าน ขณะที่เผชิญหน้ากับเฉินเกอจึงไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า
"บอกไปแล้วนี่ครับ ว่าผ่านมาทางนี้เลยแวะมาเยี่ยม" เฉินเกอยังคงเอ่ยต่อไปอย่างเรียบๆ
"คำพูดนี้แม้แต่ตัวน้องชายเองก็คงจะไม่เชื่อหรอกมั้ง พูดมาตามตรงเถอะ ฉันชอบคุยกับคนที่ตรงไปตรงมา ถ้าหากน้องชายมีคำพูดติดอยู่ที่ปากพูดไม่ออกล่ะก็ ฉันคิดว่ากลับไปพักผ่อนซะเถอะ"
คาวะแสยะยิ้มออกมา
"อ้อ? ในเมื่อเจ้าบ้านชอบแบบตรงไปตรงมา แล้วทำไมถึงได้ส่งคนไปลอบฆ่าผมกับคุณหนูทาตายุล่ะครับ?" คำพูดนี้ กลับทำให้เฉินเกอหัวเราะออกมาทันที
"ดูท่าทางน้องชายคงมาถามหาความยุติธรรมสินะ?" คาวะขมวดคิ้ว
"เจ้าบ้านฉลาดดีนี่ครับ" เฉินเกอไม่ได้ปฏิเสธ วันนี้ที่เขามาที่นี่ ก็เพื่อมาจัดการความแค้นทั้งหมดที่มีกับตระกูลโคชิ ส่วนตระกูลคิมคาวะ เป็นเป้าหมายต่อไปของเขา
"นี่เป็นความแค้นระหว่างพวกเรากับตระกูลฟุตาบะ ในเมื่อนายเป็นแขกของพวกเขา คิดว่าก็น่าจะรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง คนนอกอย่างนายเดิมทีก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวถึงจะถูก การที่พวกเราลงมือกับนายเป็นเพียงความผิดพลาดที่บังเอิญเกิดขึ้นเท่านั้นเอง"
คาวะข่มอารมณ์แล้วข่มอารมณ์อีก กว่าจะอดกลั้นอารมณ์โกรธนี้ไว้ได้ เขารู้ดีว่าตัวเองทำได้แค่ไม่ยั่วโมโหเฉินเกอ ไม่อย่างนั้นหากคนคนนี้โกรธขึ้นมา เพียงแค่ทีมนักฆ่าเล็กๆ ที่อยู่ด้านนอกนั่น คงทำอะไรคนคนนี้ไม่ได้
ถึงเวลานั้นคนที่จะได้รับอันตรายก็คือตัวเขาเอง
"ในเมื่อเป็นเรื่องผิดพลาด งั้นก็พูดง่ายหน่อย"
"ผมมาที่นี่เพื่อมาแสดงเจตนารมณ์แทนตระกูลฟุตาบะ ต่อจากนี้ไปตระกูลฟุตาบะจะไม่หาเรื่องพวกคุณอีกแม้แต่นิดเดียว และขณะเดียวกัน หวังว่าเจ้าบ้านหยุดคิดร้าย แล้วทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างซื่อตรง อย่าได้หวังจะเอาอะไรจากตระกูลฟุตาบะอีก"
"คุณว่าแบบนี้ได้ไหม?"
เฉินเกอเลิกคิ้วขึ้น จ้องมองไปที่คาวะพลางเอ่ยพูด
"ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น!" สิ่งเหนือความคาดหมายของเฉินเกอคือ คาวะตอบตกลงทันที ทั้งยังกล้าหาญเด็ดเดี่ยวมาก ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
"ในเมื่อเจ้าบ้านเห็นด้วย งั้นพวกเราคอยดูกันต่อไปแล้วกัน ต่อจากนี้หากผมเห็นพวกคุณลงมือกับตระกูลฟุตาบะอีกครั้งเดียว แม้ว่าจะส่งคนมาที่คฤหาสน์เพื่อฆ่าไก่แค่ตัวเดียว ผมก็จะไม่ปล่อยพวกคุณไปง่ายๆ เด็ดขาด"
"คุณหนูทาตายุ เสี่ยวเฟย พวกเราก็กลับกันเถอะ อย่าอยู่ขวางหูขวางตาที่นี่เลย"
เฉินเกอหัวเราะฮ่าฮ่า แล้วลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอก
ไป๋เสี่ยวเฟยกับทาตายุรีบเดินตามหลัง ตอนที่เดินออกจากประตู ไป๋เสี่ยวเฟยได้จงใจชนไหล่ของซุทานิอย่างจัง จนทำให้เขาเซถลา จนเกือบล้มไปกองกับพื้น
"แก!" ซุทานิหันกลับไปมองไป๋เสี่ยวเฟยด้วยความโมโห แต่ไป๋เสี่ยวเฟยกลับเดินออกไปนานแล้ว
"เจ้าบ้านครับ ปล่อยให้พวกมันกลับไปอย่างนี้ได้ยังไง?" ซุทานิอดกลั้นความโกรธเอาไว้ จนรอให้ทั้งสามคนกลับไป หลังจากที่หายไปในความมืดแล้ว เขารีบวิ่งมาตรงหน้าคาวะ แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัยเสียงเบาๆ
"ไม่ปล่อยให้พวกมันกลับ หรือจะให้พวกมันอยู่กินข้าวที่นี่?" คาวะพูดเสียงแข็ง
ถ้าไม่ใช่เพราะซุทานิสำคัญกับตระกูล และขณะนี้ยังไม่สามารถหาคนมาอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าองค์กรกลุ่มนักฆ่าแทนเขาได้ คาวะคงไล่เขาออกไปนานแล้ว
"ผมได้ให้ทีมเล็กจำนวนหนึ่งซุ่มโจมตีอยู่รอบทิศแล้ว ขอแค่คุณออกคำสั่ง พวกเขาก็จะโจมตีทันที สามารถควบคุมไว้ได้แน่นอน" ซุทานิกำหมัดแน่น ตอนนี้มองเฉินเกอเดินจากไป ทำให้เขารู้สึกเหมือนทำเป็ดที่กำลังจะเอาเข้าปากหลุดหายไป
"ควบคุมได้?" คาวะจ้องเขม็งไปที่เขา จากนั้นแสยะยิ้มออกมา "แม้แต่หน่วยรบพิเศษนายยังสู้ไม่ได้เลย ยังคิดจะควบคุมเฉินเกอ?"
"ใช้สมองนายคิดสักหน่อย ว่าไฮทาซุมิกับเอนโดรวมพลังกันแล้วแข็งแกร่งขนาดไหน สามารถจัดการหัวหน้าองค์กรที่น่ากลัวได้อย่างไร้ร่องรอย แม้แต่นายก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก!"
"นายดูเฉินเกอในตอนนี้ อัดไฮทาซุมิกับเอนโดจนเจ็บหนัก แล้วตัวเขาล่ะมีบาดแผลสักนิดไหม?"
"เห็นได้ชัดมาก ว่าเฉินเกอแข็งแกร่งกว่านาย ถ้าหากเมื่อครู่นี้นายลงมือล่ะก็ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสช่วยสองคนนั้นได้อีกแล้ว เพราะคงนอนจมกองเลือดไปแล้ว!"
คาวะถอนหายใจออกมา แล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมาในห้องรับแขก จากนั้นเอ่ยพูดอย่างช้าๆ
"ก็ไม่ควรจะรับปากมันนะครับ ถ้าหากไม่ลงมือกับตระกูลฟุตาบะจริงๆ แล้วแผนการตลอดหลายปีที่ผ่านมาของพวกเรา ไม่สูญเปล่าเหรอครับ!" ซุทานิรู้สึกคับแค้นใจ ยังไงซะเรื่องมากมายก็ล้วนเป็นคำสั่งของคาวะที่สั่งให้ตัวเองไปทำทั้งนั้น พูดได้ว่าเขาทุ่มแรงกายแรงใจไปกับเรื่องนี้เยอะ
"ก็แค่ตอบตกลงไปอย่างนั้นแหละ ต่อไปเวลาลงมือพวกเราก็ระวังหน่อยแล้วกัน อย่าให้ไอ้เฉินเกอนั่นมันรู้ก็พอ"
"แต่ยังมีอีกจุดที่ต้องระวัง ช่วงนี้ไม่ต้องเคลื่อนไหวก่อน เฉินเกอต้องจับตาดูพวกเราอยู่แน่นอน ความแข็งแกร่งของพวกเราสู้มันไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มีตระกูลยามาชิตะหนุนหลัง"
คาวะเอ่ยเตือนเสียงต่ำ
"เรื่องผมทราบครับ เจ้าบ้านวางใจเถอะ ผมจะระมัดระวัง" เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ซุทานิได้แต่พยักหน้าตอบตกลง
"นอกจากนี้ก็หาเวลาไปรับตัวไฮทาซุมิกับเอนโดกลับมาด้วย ถึงแม้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อไปไม่สามารถรับภารกิจแทนตระกูลของพวกเราได้แล้ว แต่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ สามารถให้พวกเขาไปสอนนักฆ่าคนอื่นๆ ได้"
"ยังดีกว่าปล่อยให้พวกเขาถูกจับขังไว้ในคฤหาสน์ของตระกูลฟุตาบะ"
เดิมทีคาวะตั้งใจกลับไปพักผ่อนแล้ว จู่ๆ นึกถึงคำพูดเหล่านั้นของเฉินเกอขึ้นมา จึงรีบเอ่ยพูด
"รับทราบครับ" ซุทานิกัดฟัน ตอบตกลงพลางกำหมัดแน่น
ในห้องรับแขกของคฤหาสน์ ทาสึเกะ ฟุตาบะกำลังรอซุทานิ โคชิอยู่ เขาอกสั่นขวัญแขวนอยู่ตลอด กลัวว่าจะถูกตระกูลฟุตาบะจับได้ว่าตัวเองมาที่นี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...