เมื่อเฉินเกอลุกขึ้นยืน ถึงได้พบว่าในโรงอาหารมีคนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทุกคนต่างตกใจมองมาที่เขา
โดยเฉพาะหนุ่มสาวกลุ่มที่เพิ่งพูดคุยกันเรื่องคฤหาสน์หยุนติ่ง
ตอนที่เฉินเกอคุยโทรศัพท์กับหวงหยงหาว เขาลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน
บทสนทนาพวกนั้นทำให้คนจำนวนมากพากันอึ้ง
“ถุย!”
ไม่รู้ใครเป็นคนทำลายความเงียบนี้ หัวเราะออกมาดังลั่น
“ไอโง่นี่ คิดจะไปร่วมงานคฤหาสน์หยุนติ่ง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สงสัยหางานทำจนกดดันมากเกินไป เลยทำให้คนกลายเป็นบ้าไปแล้ว”
“ยังมีหน้าพูดว่าเป็นวีไอพี น่าจะคุกเข่าคอยต้อนรับแขกมากกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ไอ้โง่...”
ทุกคนต่างหัวเราะกันเสียงดังสนั่น
บางคนอดไม่ได้ที่จะพูดจาเยาะเย้ยเฉินเกอ
เฉินเกอเช็ดปาก ได้แต่ฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้า สถานการณ์แบบนี้ ก็ไม่รู้จะพูดอธิบายยังไงเหมือนกัน
เมื่อออกจากประตูมหาวิทยาลัย เฉินเกอก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ตีนเขา ซึ่งเป็นทางเข้าห้องโถงจัดนิทรรศการของคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน
ที่หน้าประตู
ถูกห้อมล้อมไปด้วยรถหรูไม่ขาดสาย
มีแขกเข้าออกอย่างต่อเนื่อง
เฉินเกอยืนอยู่หน้าประตู มองเห็นทางเข้าอยู่สองทาง
ทางหนึ่งเป็นของแขกวีไอพี อีกทางหนึ่งสำหรับแขกธรรมดา
แน่นอนว่าแขกธรรมดาของที่นี่ ก็ไม่ได้ธรรมดาหรอก
“อ้าว หวงหยงหาวล่ะ ไหนนัดกันแล้วว่าจะรออยู่ที่ทางเข้าวีไอพี”
เฉินเกอมองไม่เห็นเขาแม้แต่เงา
หรือทางเข้าของแขกวีไอพีจะมีช่องทางอื่นอีกทาง
เฉินเกอคาดเดาอย่างนั้น แล้วก็ก้าวเท้าเดินเข้าไป
“เฉินเกอเหรอ”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงเรียกของผู้หญิงดังมาจากด้านหลัง เขาสะดุ้งเล็กน้อย
เฉินเกอหันกลับมามอง เห็นสาวสวย รูปร่างดี สวมยูนิฟอร์มสีดำทั้งชุด
เขาอดไม่ได้ที่จะตะลึงในความสวยนั้น
“พี่ถังหราน”
นั่นคือถังหรานลูกพี่ลูกน้องของซูมู่หาน ที่แกล้งทำให้เขาลำบากใจทุกเรื่องในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าซูมู่หานนี่
ในภายหลังพอรู้ว่าแลมโบกินีคันนั้นเป็นของเขา เธอก็แสดงอาการแปลก ๆ
เฉินเกอคิดว่าหลังจากเรื่องนั้นผ่านไป ช่วงนี้เขาจะไม่ต้องเจอถังหรานอีก
ความสัมพันธ์ระหว่างซูมู่หานจะเป็นยังไงต่อนั้น ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพียงแค่ช่วงสองวันนี้นัดกันออกมาทานข้าวบ้างก็เท่านั้น
คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน จะพบเธอที่นี่อีก
ที่หน้าอกของถังหรานติดป้ายไว้ว่า : ถังหรานผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบ
แม่เจ้าโว้ย ตึกคฤหาสน์หยุนติ่งเธอเป็นคนออกแบบเหรอ
ก็พอรู้ว่าถังหรานนั้นเก่งมาก ๆ เรียนก็เก่ง อีกทั้งเป็นคนหยิ่งและเย็นชามาก แต่คิดไม่ถึงว่าถังหรานจะเก่งขนาดนี้
เธอเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง
เพิ่งจะยี่สิบห้าปีเอง
เหมือนจะพอใจในสีหน้าท่าทางของเฉินเกอ ถังหรานจึงยิ้มแห้ง ๆ ออกมา : “เหอะ เหอะ วันนี้เป็นวันจัดนิทรรศการคฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน นายมาทำอะไรที่นี่”
“ผมมา...”
“อย่าบอกฉันนะว่านายมาร่วมงานน่ะ แค่ดูผ่าน ๆ ก็คงจะพอได้ แต่ฉันจะบอกนายให้นะ วิลล่าหลังนี้ นายไม่มีปัญญาซื้อหรอก ฉันรู้ว่านายถูกลอตเตอรี่ได้เงินมาหลายสิบล้าน ซื้อรถหรูไปหนึ่งคัน แต่วิลล่าหลังนี้ อย่าแม้แต่จะคิด ไม่รู้ว่านายยังเหลือเงินอยู่เท่าไหร่ แต่ถ้านายคิดจะซื้อ ฉันก็อาจจะช่วยเสนอราคาบ้านธรรมดาให้นายได้”
ไม่รอให้เฉินเกอพูดจบ ถังหรานก็ถอดแว่นตาออก แล้วพูดกับเขาอย่างเย็นชา
ใช่สิ ครั้งก่อนถังหรานเห็นรถหรูคันนั้นที่ราคายี่สิบล้าน ก็ตกตะลึงไปเลย
อีกทั้งยังสงสัย ว่าเฉินเกอจะใช่ลูกคนรวยหรือเปล่า
ปรากฏว่าไม่ใช่ เฉินเกอก็แค่ผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ถูกลอตเตอรี่เท่านั้น
วันนั้นเธอยังรู้สึกผิดไปด้วยซ้ำ ที่ทำไม่ดีใส่เขาไปตั้งเยอะ
คิดดูแล้ว ตอนนั้นฉันมันน่าขำจริง ๆ ที่มีความคิดจะแย่งเฉินเกอกับน้องสาวตัวเอง
อี๋ อี๋ อี๋
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...