อิจิโร่ โนดะจากมา จางจ้านต้งรู้สึกกระอักกระอ่วนมากๆ
"หลังจากนี้นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเห็นว่าตอนนี้ฐานะในโวกั๋วของนายไม่ต่ำ แม้แต่หน่วยรบยังต้องไว้หน้านาย แต่ว่าทำแบบนี้จะสร้างศัตรูเอาได้ง่ายๆ ไม่แน่ตอนไหนอาจจะนำปัญหามาให้"
เฉินเกอเห็นจางจ้านต้งผิดปกติ เลยพูดโน้มน้าวเสียงเข้ม
"ฉันรู้ ฉันแค่อยากจะให้นายได้รับการต้อนรับที่ดีที่สุด" จางจ้านต้งพยักหน้า ถูกเฉินเกอว่าแบบนี้ บนหน้าเขาก็รู้สึกเจ็บแสบ
"ระหว่างพวกเรา ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้" เฉินเกอพูดนิ่งๆ
พูดจบ บริกรก็ได้ยกอาหารขึ้นมาเสิร์ฟ บนโต๊ะอาหารเฉินเกอกับไป๋เสี่ยวเฟยไม่ได้เอ่ยปาก จางจ้านต้งก็เอาแต่คุยถึงเรื่องสัญญากับทากูยะ
ตามสัญญาสองฉบับนี้ ทุกปีตระกูลฟุตาบะจะสามารถได้รายได้จากบริษัทหย่วนตงกรุ๊ปอย่างน้อยสิบสองล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรแบบนี้ เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลผ่านความลำบากตอนนี้ไปได้ แม้กระทั่งสามารถใช้โอกาสนี้ ทำให้ตระกูลกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
จากที่พูดคุยกับจางจ้านต้ง ทากูยะยิ่งยิ้มก็ยิ่งบังคับไว้ไม่ได้ ก้อนหินที่หนักอกมาหลายปี ก็ถือได้มามันหล่นลงไปแล้ว ตระกูลฟุตาบะจะไม่ตกต่ำในมือของเขาแล้ว หลังจากนี้กี่สิบปีถ้าตายไป ก็มีหน้าไปอธิบายกับบรรพบุรุษแล้ว
หลังจากนั้นสองสามชั่วโมง จางจ้านต้งก็อธิบายสถานการณ์ทั้งหมดเสร็จสิ้น คนอื่นจึงได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
"ฉันให้แม่บ้านเก็บกวาดห้องนอนแขกแล้ว ไม่กี่วันนี้ก็พักที่บ้านฉันเถอะ ฉันได้มอบหมายงานทั้งหมดให้เลขาฉันหมดแล้ว สองสามวันนี้จะอยู่เป็นเพื่อนเที่ยวให้พวกนายเอง!" จางจ้านต้งยื่นบัตรให้กับบริกร และรีบพูดกับเฉินเกอ
"ความหวังดีของนายฉันรับไว้แล้ว แต่ช่วงหลายวันนี้ฉันยังมีเรื่องอื่นก็สะสาง ตอนนี้คงไม่ไปพักที่บ้านนายนะ" ถึงแม้ว่าตอนนี้เรื่องของตระกูลฟุตาบะถือว่าสะสางแล้ว แต่ยังมีตระกูลคิมคาวะกับตระกูลโคชิที่ยังไม่ได้จัดการ
เฉินเกอไม่เชื่อว่าแค่คำขู่ก็จะสามารถทำให้สองตระกูลนี้อยู่นิ่งๆเชื่อฟังได้ ส่วนของคำขู่ ก็เป็นสิ่งที่เฉินเกอทำเท่านั้น ให้ดีก็ฟัง แต่ถ้าไม่ฟังตนก็ทำดีที่สุดแล้ว ต่อมาค่อยลงมือ ก็ไม่โทษตนแล้ว
"หลังรอให้นายจัดการธุระเสร็จแล้ว ต้องติดต่อฉันมานะ!"
"แล้วก็ หากต้องอะไรบอกได้เลยนะ ฉันใช้ชีวิตที่โวกั๋วมาหลายปีนี้ ก็ยังพอมีฐานะและความสามารถอยู่ ไม่ว่าใครก็ต้องไว้หน้าฉัน เรียกฉันว่าพี่จาง"
ได้ยินเฉินเกอพูดแบบนี้ จางจ้านต้งก็ไม่ได้ยืนกรานต่อ เขาก็รู้ว่าคนอย่างเฉินเกอคงมีเวลาว่างมาเล่นไม่มากหรอก
หลังจากแยกกับเขา เฉินเกอ ไป๋เสี่ยวเฟยกับทากูยะคนกลุ่มนี้ก็นั่งรถจากไป
บนรถ ทากูยะก็จับสัญญาเอาไว้แน่น ดวงตาที่แต่เดิมเคยสลัวของของเขาก็ปรากฏแสงสว่างขึ้นมา ราวกับเห็นอนาคตของตระกูลอย่างไงอย่างงั้น แน่นอนว่าเขารู้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เฉินเกอมอบให้ ถ้าหากไม่ใช่เฉินเกอ สถานการณ์ของตระกูลพวกเขาก็ยังคงเลวร้ายต่อไป
"นายรู้จักประธานบริษัทหย่วนตงกรุ๊ปได้ยังไงกัน แถมเห็นทีเขายังเคารพนายเอามากๆอีก" ทากูยะหันหน้ามองเฉินเกอ เขาพบว่าชายหนุ่มด้านข้างเขาทำให้เขายิ่งคาดเดาไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ความสามารถแข็งแกร่งมากๆ มีเครือข่ายผู้คนมากมาย และทั้งร่างก็มีออร่าที่ไม่ธรรมดา จะมองยังไงก็ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป
"เมื่อหลายปีก่อนเคยช่วยเขาไว้ นับได้ว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณกันมั้ง" เฉินเกอยิ้มพลางพูดอย่างนิ่งๆ
"พูดตามตรง นายมีฐานะอะไรกันแน่?" ทากูยะอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ ให้พูดยังไงเขาก็เป็นถึงเจ้าบ้านของตระกูล พบเจอคนหนุ่มที่มีความสามารถมาไม่น้อย แต่คนพวกนั้นเมื่อเทียบกับเฉินเกอ แตกต่างกันราวฟ้ากับดินเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...