เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 104

บทที่ 104 ความหลงใหลของกวานเสี่ยวโหรว

ในไม่ช้า จงอู่ก็จากไปพร้อมกับทหารองครักษ์และแยกย้ายกันไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อค้นหาทหารผ่านศึกของกองทัพเถี่ยหลิน

การลงมือปฏิบัติเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกฝนหม่านชาง เขาทำงานในเว่ยโจวมานานกว่าสองเดือนแล้ว และมีความเชี่ยวชาญอย่างมากในงานตีเหล็กขั้นพื้นฐาน

จินเฟิงมองอยู่สักพัก เมื่อไม่พบปัญหาอะไรเขาก็เดินจากไป

จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังลานที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อดูพื้นที่โดยรอบ ก่อนจะไปที่โรงงานเตาเผาอิฐ

เป็นเวลากว่าสองเดือนที่บัณฑิตหนุ่มไม่อยู่ทำให้มีอิฐกองอยู่บนพื้นที่โล่งริมแม่น้ำจำนวนมาก รวมถึงมีหลุมขนาดใหญ่สองแห่งบริเวณเชิงเขา

หลุมทั้งสองนี้ถูกขุดเพื่อนำดินมาทำอิฐ

ตอนนี้ในหลุมเต็มไปด้วยบุรุษที่กำลังทำงานโดยเปลือยแผ่นหลัง พวกเขาดูกระตือรือร้นกับการทำงานเป็นอย่างมาก

ในขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านยืนอยู่บนปากหลุมเพื่อคุมงาน เมื่อเขาเห็นจินเฟิงก็รีบเข้ามาทักทายทันที

“ไม่ได้เจอกันสองเดือน ดูเหมือนว่าอาหลิวจะดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉงขึ้นนะ!”

จินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณเจ้าแล้ว”

ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะจนตาปิด “ก่อนหน้านี้ข้ากินข้าวได้แค่วันละสองมื้อเท่านั้น อีกทั้งยังกินได้ไม่อิ่มท้องอีกด้วย แต่ตอนนี้ข้ากับเถี่ยจือทำงานที่เตาเผาอิฐ ส่วนสตรีสามคนในครอบครัวก็ทำงานปั่นด้ายที่บ้านของเจ้า ครอบครัวของเราสามารถกินอาหารได้ครบทั้งสามมื้อแล้ว อีกทั้งบางครั้งยังได้กินเนื้อสัตว์อีกด้วย แน่นอนว่าต้องมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้น แต่มันไม่ใช่แค่ข้า เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่าทุกคนก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม?”

“เช่นนั้นก็ดีเลย”

จินเฟิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ชี้ไปที่ก้อนอิฐริมแม่น้ำแล้วเอ่ย “ดูเหมือนว่าสองเดือนที่ผ่านมาทุกคนจะตั้งใจทำงานโดยไม่ได้พัก อีกทั้งยังสามารถผลิตก้อนอิฐออกมาได้จำนวนไม่น้อย”

ก่อนที่จะมา ชายหนุ่มยังกังวลว่าอาจมีคนงานชายแอบเกียจคร้านตอนที่เขาไม่อยู่ แต่จำนวนอิฐกลับมีปริมาณมากกว่าที่เขาคาดไว้

“ต้องขอบใจแม่นางตงตงของเจ้า”

หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวว่า “หลังจากที่เจ้าเดินทางออกไป นางก็ประกาศว่าโรงงานปั่นด้ายทอผ้าและโรงงานเผาอิฐจะไม่คำนวณค่าจ้างรายวันอีกต่อไป แต่ยิ่งทำงานมากเท่าไรก็จะยิ่งได้รับค่าตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น ตงตงจะให้เหลียงจื่อมานับยอดและนางจะคิดคำนวณให้ทุกคน ส่งผลให้ทุกคนทำงานหนักและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก ได้ยินมาว่า มีคนในโรงงานปั่นด้ายพยายามแย่งไนปั่นด้ายกันเพื่อทำงานให้ได้มากขึ้นด้วย”

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ จินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น

สมแล้วที่ถังตงตงมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจ นางมีทักษะในการบริหารจัดการที่ดี

การจ่ายค่าจ้างตามชิ้นงานเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกระตุ้นความกระตือรือร้นของคนทำงาน

“ใช่แล้ว ตอนที่เจ้ามาที่นี่ เจ้าก็น่าจะเห็นแล้วว่าในลานบ้านของคนในหมู่บ้านมีกองอิฐอยู่”

หัวหน้าหมู่บ้านอธิบาย “นั่นเป็นเพราะลูก ๆ ของพวกเขาไปที่ภูเขาด้านหลังเพื่อเก็บฟืนและนำมาแลกเป็นอิฐ ตงตงเป็นผู้คำนวณเรื่องนี้เอง”

“อาหลิว เรื่องนี้ไม่ต้องบอกก็ได้ ข้าจะไม่เชื่อใจท่านได้อย่างไร?”

จินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ข้าดีใจที่เจ้าเชื่อมั่นในตัวข้า แต่เนื่องจากเจ้าทิ้งเตาเผาอิฐไว้ให้ข้าดูแลตอนไม่อยู่ ข้าจึงอยากพูดให้ชัดเจนไว้ก่อน”

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า “หากข้าไม่พูดอะไรให้ชัดเจน แล้วเกิดปัญหาขึ้นภายหลังคงจะดูไม่งามใช่หรือไม่?”

“ท่านพูดถูก”

จินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย

ความเข้าใจผิดบางอย่างสามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าไม่คุยกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะค่อย ๆ กลายเป็นปมใหญ่

นี่เป็นสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านยึดถือมาทั้งชีวิตของเขา

เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ง่าย ๆ แต่ได้ผล

“หัวหน้าหมู่บ้าน เราสะสมอิฐไว้มากมายแล้ว หากเราทำอิฐเพิ่มคงไม่มีที่วาง”

จินเฟิงกล่าวว่า “แจ้งทุกคนว่าหลังจากทำงานวันนี้เสร็จแล้ว ไม่ต้องทำการสร้างอิฐอีกต่อไป”

“ได้ อีกเดี๋ยวข้าจะไปบอกพวกเขาว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว”

แต่เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านคิดถึงผลลัพธ์จากคำสั่งดังกล่าว เขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

มีหลายครอบครัวในหมู่บ้านพึ่งพาเตาเผาอิฐ ชีวิตของพวกเขาเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จากการทำงานนี้

ทันทีที่หยุดเผาอิฐ บุรุษทั้งหลายก็จะกลายเป็นผู้ว่างงาน ค่าจ้างรายวันของพวกเขาที่เคยได้รับวันละสองสามเหรียญทองแดงก็จะหายไป และชีวิตของพวกเขาก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็รู้ว่าการตัดสินใจของจินเฟิงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตอนนี้มีอิฐมากพอแล้ว มากเสียจนตอนนี้แทบไม่มีที่จะวาง

“หัวหน้าหมู่บ้าน ทุกคนยังสามารถมาที่เตาเผาอิฐได้ เพราะอิฐดิบที่ขึ้นรูปแล้วอย่างไรก็ต้องทำการเผาให้หมด ไม่เช่นนั้นหากถูกฝน มันจะไม่สามารถใช้งานได้”

จินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “และหากมีผู้ใดยินดี พวกเขาสามารถมาช่วยข้าสร้างบ้านได้ ข้าจะจ่ายค่าจ้างวันละ สองเหรียญทองแดง”

“บ้านของเจ้ายังสร้างไม่เสร็จหรือ? เหตุใดเจ้าจึงต้องการคนงานมากมายขนาดนี้?”

กวานเสี่ยวโหรวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากจินเฟิง

เมื่อภรรยาของเขาขอความช่วยเหลือ จินเฟิงก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้ เขาเขกศีรษะรุ่นเหนียงเบา ๆ และพูดติดตลก “หากเจ้าหัวเราะเยาะภรรยาของข้าอีกครั้ง ข้าจะจัดการเจ้าแทนนะ!”

แม้ว่ารุ่นเหนียงจะแต่งงานกับเซี่ยกวางแล้ว แต่นางก็ยังเป็นสตรีที่อ่อนต่อโลก นางจะไม่เขินอายได้อย่างไร?

ตอนนี้รุ่นเหนียงหน้าแดงไปตาม ๆ กัน จากนั้นนางก็คว้าแขนของกวานเสี่ยวโหรวแล้วเอ่ย “เสี่ยวโหรว เจ้าดูจินเฟิงสิ!”

“เอาล่ะ” กวานเสี่ยวโหรวพับแขนเสื้อขึ้น “สามี ไป พวกเราช่วยกันหามรุ่นเหนียงแล้วจัดการนางเสียให้เข็ดดีกว่า!”

พูดจบก็เอื้อมมือไปกอดตัวรุ่นเหนียงไว้

รุ่นเหนียงกลัวมากจึงรีบหนีไปซ่อนตัวอยู่ข้างกองฟืน

จินเฟิงก็ไปต่อไม่ถูกเช่นกัน

ในที่สุดเขาก็ค้นพบว่าการรับอนุภรรยาให้เขากลายเป็นสิ่งที่กวานเสี่ยวโหรวหลงใหลไปเสียแล้ว

หลังจากล้มเหลวจากถังตงตง นางก็พุ่งเป้าไปที่รุ่นเหนียงแทน

ก่อนหน้านี้ภรรยาของจินเฟิงเขินอายเกินกว่าจะเผชิญหน้า แต่เมื่อพูดถึงการหาอนุ นางกลับกลายเป็นนักเลงหญิงเสียได้

จินเฟิงเชื่อว่าตราบใดที่เขาพยักหน้า กวานเสี่ยวโหรวคงจะอุ้มรุ่นเหนียงเข้าไปในห้องจริง ๆ

“เอาล่ะ ๆ พอได้แล้ว”

จินเฟิงดึงกวานเสี่ยวโหรวอย่างจนใจ

เขารู้เหตุผลดีว่าทำไมกวานเสี่ยวโหรวจึงกระตือรือร้นที่จะหาอนุภรรยาให้ นั่นเป็นเพราะนางด้อยค่าตนเองและรู้สึกไม่มั่นคง

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมศักดินา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่ร่ำรวย ฮูหยินบางคนเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะรู้สึกว่าตนไม่ดึงดูดสามีอีกต่อไป พวกนางจึงพยายามค้นหาความสดใหม่ให้กับสามีของตนเพื่อทำให้เขากลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง

จินเฟิงรู้ว่านี่เป็นความคิดที่ไม่ดี แต่นั่นคือค่านิยมทางสังคมของต้าคัง

ไม่ว่าชายหรือหญิงต่างก็เชื่อว่าการรับอนุภรรยาแทนสามีเป็นหนทางหนึ่งที่จะแสดงน้ำใจของภรรยาที่แท้จริง ไม่เช่นนั้นก็จะถูกครหาว่าเป็นภรรยาที่ขี้อิจฉาหรือเห็นแก่ตัว

กวานเสี่ยวโหรวยอมรับความคิดประเภทนี้มาตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก และคงต้องใช้เวลาหากอยากให้นางเปลี่ยนแปลงทัศนคติดังกล่าว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์