บทที่ 111 ใช้หลักจิตวิทยา
ที่จินเฟิงสามารถทนได้ ไม่เพียงแต่ด้วยเหตุผลทางจิตวิทยาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขามีทางเลือกอื่นด้วย
หากกวานเจียวานไม่ยอมรับข้อตกลง เขาก็ยังสามารถไปที่เถียนเจียวานและเฉินเจียวานได้
แม่ยายของเขาเข้าไปทำอาหารแล้ว จินเฟิงเลยยังไม่สามารถปลีกตัวไปไหนได้ เขาจึงค่อย ๆ ถ่วงเวลา
จินเฟิงหยิบถ้วยปากกว้างขึ้นมาและจิบน้ำต้มสุกอีกครั้ง
ตรงข้ามกับความสงบของจินเฟิงคือฝั่งกวานเจียวานที่ไม่มีทางเลือก หากพวกเขาไม่พูดเรื่องนี้กับอีกฝ่าย พวกเขาก็จะอดได้รับค่าจ้างจากการทำงานและต้องอยู่กับความยากลำบากต่อไป
ดังนั้นจึงไม่สามารถอดกลั้นได้นานนัก ในที่สุดหัวหน้าหมู่บ้านก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาขยิบตาให้กวานจู้จืออยู่บ่อยครั้ง
โดยปกติแล้ว คนโบราณส่วนใหญ่จะมีความยึดมั่นในพวกพ้องเดียวกันมาก ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวโหรว ครอบครัวของกวานจู้จือจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเครื่องนุ่งห่ม แต่เมื่อเขาเห็นสัญญาณของหัวหน้าตระกูล กวานจู้จือก็ยอมเอ่ยปาก “น้องเขย เจ้าก็กลับมาแล้ว เจ้าวางแผนจะทำสิ่งใดต่อไปหรือ?”
“ตอนนี้ข้ายังไม่มีแผนการอะไร”
จินเฟิงยิ้มและส่ายหัว
“ข้าได้ยินมาจากเสี่ยวโหรวว่าโรงงานสิ่งทอทำกำไรได้ค่อนข้างมาก เจ้าเคยคิดที่จะสร้างไนปั่นด้ายเพิ่มและขยายโรงงานบ้างหรือไม่?”
กวานจู้จือกล่าวว่า “หากเจ้ายินดี เจ้าก็แค่ส่งไนปั่นด้ายมาและไม่ต้องกังวลสิ่งใด ข้าจะหาคนให้เจ้าและสร้างโรงงานให้ด้วย เจ้าแค่รอเก็บเงินเท่านั้น”
“ดูเหมือนว่าในอนาคต ตงตงจะต้องเป็นผู้ดูแลโรงงาน”
จินเฟิงลอบถอนหายใจเบา ๆ
กวานเสี่ยวโหรวเป็นคนขยัน ใจดี มีน้ำใจและอ่อนโยน แต่นางเป็นคนหัวอ่อนและเก็บความลับไม่อยู่
ในฐานะภรรยา กวานเสี่ยวโหรวเกือบจะสมบูรณ์แบบ แต่นางไม่สามารถเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจได้
ตอนนี้ยังเป็นโรงงานเล็ก ๆ ก็ไม่เป็นไร แต่หากธุรกิจขยายใหญ่ขึ้น ด้วยนิสัยของกวานเสี่ยวโหรวจะทำให้ความลับทางธุรกิจรั่วไหลได้อย่างง่ายดาย
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น จินเฟิงยิ้มและส่ายหัวปฏิเสธข้อเสนอของกวานจู้จือ
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าสร้างโรงงานในซีเหอวานเสร็จแล้ว ข้าคงไม่รบกวน”
โครงสร้างของไนปั่นด้ายตัวใหม่ไม่ซับซ้อน หากข้อมูลรั่วไหลออกไปก็จะถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย และโรงงานของจินเฟิงก็จะเสียเปรียบคู่แข่ง
นี่คือเหตุผลว่าทำไมถังตงตงจึงต้องคอยเฝ้าระวัง
แม้ว่าจินเฟิงจะพูดเพียงประโยคเดียว แต่หัวหน้าตระกูลก็เป็นผู้อาวุโสผู้มากประสบการณ์ จึงเข้าใจความหมายของคำพูดของจินเฟิงทันที
“จู้จือ ข้าพูดเองแล้วกัน”
หัวหน้าตระกูลถอนหายใจแล้วพูดว่า “ลูกเขย เจ้าเป็นคนฉลาด ชายชราอย่างข้าคงไม่เอ่ยอะไรยืดเยื้อและพูดแต่สิ่งที่ตรงไปตรงมา หากข้าพูดอะไรผิดไปเจ้าก็อย่าถือสาข้าเลยนะ”
“ซานเหยียเหยี่ย ท่านว่ามาเถิด”
จินเฟิงนั่งตัวตรง
“ลูกเขย เจ้าเองก็คงเห็นแล้วว่าตอนนี้ทุกคนมีชีวิตที่ยากลำบาก ในฤดูหนาวของทุกปีจะมีคนล้มตายจากความอดอยากและความหนาวเหน็บเป็นจำนวนมาก ในฐานะหัวหน้าตระกูล ข้าเลยอยากจะขอให้เจ้าช่วยหาหนทางเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตอยู่รอดด้วย ถือเสียว่าเห็นแก่เสี่ยวโหรวก็ได้”
หัวหน้าตระกูลกล่าวต่อ “หากเจ้าเปิดโรงงานในกวานเจียวานและทำให้ชาวบ้านทุกคนมีงานทำมีรายได้เหมือนคนในซีเหอวาน ทางเราก็จะขอค่าจ้างเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
“ทว่าสิ่งนี้…”
จินเฟิงไม่คาดคิดว่าหัวหน้าตระกูลจะยอมอ่อนข้อให้ถึงขนาดนี้
เรียกได้ว่าอีกฝ่ายจริงใจสุด ๆ
“ในเมื่อซานเหยียเหยี่ยพูดเช่นนั้น ข้าก็คงต้องขอตอบตรง ๆ”
จินเฟิงกล่าวว่า “โรงงานของข้าในซีเหอวานได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว และข้าจะยังไม่สร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นในกวานเจียวานเร็ว ๆ นี้”
ใบหน้าของชายชราอดไม่ได้ที่จะฉายประกายของความผิดหวัง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และยังคงโน้มน้าว
“หากเจ้าไม่คิดตั้งโรงงานในกวานเจียวานก็ไม่เป็นไร ข้าสามารถจัดสรรสตรีในหมู่บ้านให้ไปทำงานที่ซีเหอวานได้”
“ยังมีสตรีจำนวนมากในซีเหอวานที่ยังไม่ได้งาน ข้าสัญญากับอาหลิวไว้แล้วว่า ข้าจะรับพิจารณาพวกนางก่อนหลังจากสร้างโรงงานแห่งใหม่เสร็จ”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์