บทที่ 120 ความก้าวหน้าอันยอดเยี่ยม
ก่อนหน้านี้ ชิ่งมู่หลานและทหารหญิงของนางต่างสวมชุดเกราะ ใบหน้าส่วนใหญ่ของพวกนางถูกชุดเกราะปกคลุมไปกว่าครึ่งทำให้ยากต่อการมองเห็นรูปร่างหน้าตาอย่างชัดเจน
ตอนนี้พวกนางแต่งกายด้วยเสื้อผ้าลำลองที่มีความทะมัดทะแมง ผมก็ถูกรวบไว้ด้านหลัง จินเฟิงจึงมองเห็นรูปร่างหน้าตาของชิ่งมู่หลานถนัดตาเป็นครั้งแรก และชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะแอบชมเชย
“คิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวหัวรุนแรงอย่างท่านจะเป็นหญิงงาม”
มีหลายคนที่เอ่ยปากชมเชยว่านางเป็นสตรีหน้าตาดี ทั้งยังบอกว่านางงดงามราวกับองค์หญิง
ทว่าสิ่งที่ผู้คนพูดกันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีที่มาที่ไป
เพราะในตอนที่ฝ่าบาททรงเลือกคู่ครอง พระองค์จะมองหาสตรีหน้าตาดีเป็นอันดับแรกเสมอ เพื่อที่เวลามีทายาทหน้าตาจะได้ออกมาไม่ขี้ริ้วขี้เหร่
แม้ว่าตระกูลของชิ่งไหวจะไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ แต่ก็ถือว่าเป็นตระกูลขุนนางอาวุโส บรรพบุรุษของพวกเขาเป็นข้าราชการมาหลายชั่วอายุคน ดังนั้นชิ่งเหลียนเฉิงบิดาของชิ่งมู่หลานจึงมีรูปร่างหน้าตาดี อีกทั้งแม่ของนางยังมีความงามที่เห็นได้ตั้งแต่รัศมีร้อยลี้ เรียกได้ว่างามจนคนเล่าลือ
ชิ่งมู่หลานสืบทอดข้อดีมาจากบิดามารดาโดยสมบูรณ์ นางจึงมีใบหน้าที่งดงามสูสีกับกวานเสี่ยวโหรวและถังตงตง
ชิ่งมู่หลานมีความงดงามนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สิ่งที่ทำให้จินเฟิงประหลาดใจมากที่สุดคือทหารหญิงรอบตัวนางล้วนดูดีพอ ๆ กันนี่แหละ
‘ผู้ใต้บังคับบัญชาอีกฝ่ายล้วนเป็นสตรีหน้าตาดี หรือชิ่งมู่หลานวางแผนที่จะใช้อุบายหญิงงามในสนามรบ?’
จินเฟิงพึมพำในใจ
แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจได้ว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาของชิ่งมู่หลานนั้นน่าจะคัดเลือกมาจากหญิงรับใช้ในจวน
โดยปกติเวลาที่ครอบครัวคนมีฐานะเลือกคนเข้ามารับใช้ พวกเขาจะมีเกณฑ์ในการคัดเลือกหน้าตาด้วย
แต่เป็นเพราะพวกนางฝึกซ้อมกลางแจ้ง ผิวพรรณของชิ่งมู่หลานและทหารหญิงคนอื่นจึงไม่ได้ขาว แต่ก็ไม่ถือว่าคล้ำ พื้นเพพวกนางคงมีผิวขาวราวกับข้าวสาลีกันทุกคน
ด้วยเหตุนี้เหล่าทหารหญิงจึงมีหุ่นดีมาก ประกอบกับเมื่อได้สวมชุดฝึกเข้ารูปก็ดูมีความองอาจและมีกลิ่นอายของกองทัพสตรีเพิ่มขึ้นหลายส่วน
อย่างไรก็ตามจินเฟิงไม่ใช่ชายขาดประสบการณ์ เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เป็นฝ่ายเดินนำออกจากลานบ้านเล็ก ๆ “ไปที่ภูเขาด้านหลังกันเถิด!”
เมื่อพวกนางมาถึงภูเขาด้านหลัง จางเหลียงและฟางเหลยก็เพิ่งจะพาเหล่าทหารผ่านศึกมาถึงเช่นกัน
ซีเหอวานนั้นไม่ได้ใหญ่โต หากมีการปรุงอาหารทางตะวันออกของหมู่บ้านขณะที่มีลมแรง ทางตะวันตกของหมู่บ้านย่อมได้กลิ่น ไม่มีทางที่จะซุกซ่อนอะไรไว้ได้
การมาถึงของทหารหญิงกลุ่มดังกล่าวได้แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านแล้ว
เมื่อเหล่าทหารผ่านศึกได้ยินเรื่องนี้หลังกลับมาจากการฝึกซ้อมเมื่อวาน พวกเขาก็อยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
เมื่อเห็นจินเฟิงมากับกลุ่มสตรี พวกเขาต่างชะเง้อมอง
“ไอหยา เหล่าหญิงงาม”
“และไม่ได้งามเพียงคนเดียว แต่งดงามกันทั้งหมด การฝึกซ้อมหลังจากนี้จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป!”
“ข้าได้ยินมาว่านางคือน้องสาวท่านโหว ข้าเตือนเจ้าไว้ก่อนว่า อย่าคิดอะไรบ้า ๆ หากทนไม่ไหวล่ะก็กลับไปหาเมียที่บ้านเสีย!”
“เจ้าคิดอะไรอยู่ ใครจะกล้าคิดอะไรบุ่มบ่ามเช่นนั้น? ข้าหมายความว่า ชายหญิงทำงานร่วมกันคงไม่รู้สึกเหนื่อย เวลามาฝึกซ้อมก็จะมีกลุ่มสตรีกลุ่มนี้มาด้วย มันก็น่าสนุกดีมิใช่หรือ?”
“ก็จริงอย่างที่เจ้าว่า”
ทหารผ่านศึกที่อาศัยอยู่หลังเขา ไม่ได้เห็นหญิงงามมานานเท่าใดแล้วเล่า?
ทุกคนตื่นเต้นมาก
บางคนหัวเราะ บางคนปรบมือ และบางคนแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ แต่ดวงตาของพวกเขายังคงจ้องมองอยู่
“ทุกคนเงียบ!”
จางเหลียงตะโกนเสียงเข้ม จากนั้นเหล่าทหารผ่านศึกก็เงียบเสียงลงและยืนตัวตรง
“พี่เหลียง หลังจากนี้ข้าฝากพวกนางด้วย”
จินเฟิงชี้ไปที่ทหารหญิง “อย่าเมตตาเพียงเพราะคิดว่านางเป็นน้องสาวของชิ่งไหว พวกนางจะได้รับการฝึกฝนแบบเดียวกับที่เจ้าฝึกฝนพวกเขา เข้าใจหรือไม่?”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
จางเหลียงพยักหน้าตอบรับอย่างหนักแน่น
“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจอยู่ที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็อย่าทำตัวเป็นคุณหนูที่เกรงกลัวความลำบากเล่า”
จินเฟิงหันไปมองชิ่งมู่หลานอีกครั้ง “พวกเขาทั้งหมดเป็นทหารปลดประจำการของกองทัพเถี่ยหลิน เป็นวีรบุรุษผู้สละเลือดเนื้อในสนามรบเพื่อต้าคัง หากข้าได้รับแจ้งว่าเจ้ารังแกผู้อื่น อย่าหาว่าข้าไม่ตักเตือน”
“ข้ารู้แล้ว!”
ชิ่งมู่หลานตอบจินเฟิงอย่างไม่เก็บความรู้สึก จากนั้นนางก็เดินไปหาจางเหลียง พร้อมกำหมัดอย่างเข้มแข็งราวกับวีรบุรุษนักสู้ “ต่อจากนี้ไปข้ารบกวนพี่เหลียงด้วย!”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์