บทที่ 127 ความขัดแย้งของตระกูลโจว
หากมีทรัพยากรเพียงพอ มนุษย์ก็สามารถขยายครอบครัวได้อย่างรวดเร็ว
ครอบครัวใหญ่อย่างตระกูลโจวซึ่งมีเงินทองไม่ขาดสาย บุรุษหลายคนในตระกูลมีภรรยา อนุภรรยา และลูกจำนวนมาก
ในเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษ สองพี่น้องก็สามารถขยายครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกมากกว่าร้อยคนได้
ตระกูลโจวได้รับการสืบทอดมาเกือบสองร้อยปี นั่นหมายความว่าตระกูลนี้มีขนาดใหญ่มากและมีตระกูลย่อยมากมายกระจายอยู่ทั่วต้าคัง
แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสายตรงของตระกูล ส่วนกิ่งก้านสาขานั้นไม่สำคัญมากนัก
ตัวอย่างเช่นเล่าปี่ในเรื่องสามก๊กที่ต้นตระกูลของเขาสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ ซึ่งกว่าจะสืบทอดลงมาถึงรุ่นของเล่าปี่ เขาก็กลายเป็นสามัญชนไปแล้ว เขาร่อนเร่พเนจรเป็นช่างสานรองเท้าฟางขายเพื่อเลี้ยงชีพ
นี่เป็นเรื่องจริงของราชวงศ์ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลโจว
หากโจวซือเหยียเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ตระกูลย่อยของตระกูลโจว ตระกูลโจวในเปี้ยนจิงอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีตัวตนอยู่บนโลก จินเฟิงจะได้ไม่ต้องกังวลมากนักเมื่อต้องรับมือกับเขาอีก
“โจวซือเหยียผู้นี้คอยควบคุมนายอำเภอจินชวนอยู่เบื้องหลัง เขาถูกสายสืบนอกเครื่องแบบของพี่ชายข้าในจินชวนจับตามาสักพักแล้วจึงรู้ข้อมูลตั้งแต่ต้น”
ชิ่งมู่หลานยิ้มและพูดว่า “ท่านอาจารย์วางใจได้ ข่าวนี้ถูกต้องอย่างแน่นอน”
“ถ้าเขาไม่ใช่สายตรง เขาจะมีอำนาจมากจนสามารถควบคุมนายอำเภอได้อย่างไร?” จินเฟิงถาม
“ผู้ที่สนับสนุนนายอำเภอจางไม่ใช่โจวซือเหยีย แต่เป็นท่านอาของเขานามว่าโจวฉางหลินที่อาศัยอยู่ในเมือง” ชิ่งมู่หลานกล่าว
“โจวฉางหลิน…”
จินเฟิงรู้สึกเหมือนเขาเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนสักแห่ง
ใช่แล้ว! ถังตงตงเคยเล่าว่าศัตรูของนางคือโจวฉางหลินตอนที่นางอาศัยอยู่ในเมือง
“ใช่โจวฉางหลินที่เป็นพ่อค้าผ้ารายใหญ่ที่สุดในเมืองหรือไม่?” จินเฟิงถาม
“ใช่” ชิ่งมู่หลานพยักหน้า “ท่านอาจารย์คงเคยได้ยินมาจากถังตงตง?”
“เจ้ารู้จักถังตงตงด้วยหรือ?”
จินเฟิงเหลือบมองชิ่งมู่หลานด้วยความประหลาดใจ
“ก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่รู้จักนาง แต่เมื่อสืบเรื่องของโจวฉางหลิน ข้าเลยรู้เรื่องราวบาดหมางระหว่างตระกูลโจวและตระกูลถัง”
ชิ่งมู่หลานเอ่ยต่อ “ข้าเคยคิดว่าลีลาการสนทานาของตงตงนั้นดีมาก แต่ข้าไม่คิดว่านางจะมีเหตุการณ์ในอดีตเช่นนี้”
ถังตงตงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จด้านการค้าขายสิ่งทอให้มากกว่าบิดาของนาง นางจึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมสิ่งทอมาตั้งแต่เด็ก
เช่นเดียวกับความยากลำบากที่ชิ่งมู่หลานต้องเผชิญ ต้าคังมีข้อจำกัดสำหรับสตรีมากเกินไป
แม้ว่าบิดาของถังตงตงจะเห็นความสามารถในการบริหารจัดการของนางตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขาไม่เคยอนุญาตให้นางมีส่วนร่วมในโรงงานสิ่งทอของครอบครัวเลย
หลังจากครอบครัวของนางพังทลายลง ถังตงตงก็ต้องมาตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากที่กวานเจียวานซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ และไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถของตนเอง
โชคดีที่นางได้พบกับจินเฟิง
จินเฟิงต้องการเป็นเจ้าของกิจการ ในขณะที่ถังตงตงต้องการแสดงความทะเยอทะยานของนาง และตอนนี้ทั้งสองก็ประสบความสำเร็จ
หลังจากที่โรงงานสิ่งทอดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จินเฟิงก็เริ่มปล่อยให้ถังตงตงดูแล
ชิ่งมู่หลานกล่าวว่า “โจวฉางหลินไม่ไว้วางใจโจวซือเหยีย แต่ใช้โจวซือเหยียเป็นเครื่องมือในการควบคุมนายอำเภอจางเท่านั้น ยกเว้นพิธีรำลึกถึงบรรพบุรุษครั้งใหญ่ที่ตระกูลโจวในเปี้ยนจิงจัดขึ้นเมื่อ 12 ปีที่แล้วและกำหนดให้สมาชิกทุกคนในตระกูลมารวมตัวกัน พวกเขาไม่เคยให้โอกาสแก่โจวซือเหยียในการติดต่อกับตระกูลโจวในเปี้ยนจิง และไม่อนุญาตให้โจวซือเหยียออกจากจินชวน นั่นเท่ากับเป็นการปิดกั้นไม่ให้โจวซือเหยียมีความก้าวหน้า โจวซือเหยียเองก็เข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาจึงมองหาโอกาสที่จะแยกตัวออกจากโจวฉางหลิน และนี่ก็คือสาเหตุที่เขาส่งพวกโจรมายั่วยุท่านอาจารย์เพียงเพราะอยากได้ไนปั่นด้าย”
“ท้ายสุด อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของตระกูลโจวคือสิ่งทอ หากท่านอาจารย์มอบไนปั่นด้ายให้กับตระกูลโจวในเปี้ยนจิง ผลประโยชน์ที่ตระกูลโจวจะได้รับจากมัน… ข้าไม่อยากจะคิดว่ามันจะมหาศาลแค่ไหน คุณูปการที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับโจวซือเหยียที่จะกำจัดโจวฉางหลิน หากเขาได้เข้าสู่ตระกูลโจวในเปี้ยนจิง เขาต้องไม่บอกโจวฉางหลินอย่างแน่นอน และความเป็นจริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โจวฉางหลินเริ่มไม่พอใจโจวซือเหยียมากขึ้นเรื่อย ๆ หากสามารถหาหลักฐานที่แสดงว่าโจวซือเหยียสนับสนุนพวกกลุ่มโจรได้ แม้ว่าท่านอาจารย์จะฆ่าเขา โจวฉางหลินก็จะไม่มีวันออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ”
“สิ่งนี้…”
ดวงตาของจินเฟิงเป็นประกายขึ้นทันที
ไม่น่าแปลกใจที่ชิ่งมู่หลานรู้เกี่ยวกับการยั่วยุของพวกโจร
เพราะขนาดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลถังนางยังรู้ หากนางไม่รู้เรื่องนี้สิแปลก
จิตใจของจินเฟิงคิดสับสนไปมา
แม้ว่าหลายคนจะรู้ว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มโจรกลุ่มใหญ่ แต่นี่เป็นเรื่องที่รู้กันภายในและไม่มีทางที่จะเปิดเผยได้
การแอบสมรู้ร่วมคิดเพื่อสนับสนุนฝั่งโจร ตามกฎหมายของต้าคังเขามีความผิดในอาชญากรรมเช่นเดียวกับโจร โทษที่เบาที่สุดคือถูกส่งไปยังค่ายแนวหน้า และเลวร้ายที่สุดคือประหารเก้าชั่วโคตร
แต่ความชั่วร้ายที่โจรเขาเถี่ยกว้านกระทำ การโดนตัดศีรษะยังถือว่าเล็กน้อยเกินไป
ในความเป็นจริงจวนว่าการจินชวนยังตามตัวโจรเขาเถี่ยกว้านและกลุ่มโจรอื่น ๆ อีกหลายกลุ่ม ซึ่งรางวัลนำจับก็ไม่น้อย หากเป็นโจรธรรมดาก็จะได้ครึ่งหนึ่งของรางวัลสำหรับการฆ่าเสือ ยิ่งจับได้พวกตัวใหญ่ ๆ เงินรางวัลก็จะยิ่งสูงและหากจับหัวหน้าโจรได้ ทางหน่วยราชการก็ได้เสนอรางวัลให้ถึงสามร้อยตำลึงเงิน
แต่ถึงทุกคนจะรู้เรื่องนี้ แล้วจะทำอะไรได้ พวกเขายอมขึ้นเขาไปปราบเสือ มากกว่าที่จะเอาหัวของโจรเขาเถี่ยกว้านไปยังศาลาว่าการเพื่อรับรางวัล
“มู่หลาน นี่เป็นการคาดเดาหรือเจ้ามีข้อมูลที่ถูกต้อง?”
จินเฟิงถามเสียงเข้ม

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์