เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 128

บทที่ 128 ฝึกฝนทักษะ

“ในเมื่อข้าเลือกจะบอกกับท่านอาจารย์แล้ว นั่นก็แปลว่าข้ามั่นใจ”

ชิ่งมู่หลานกะพริบตาอย่างภาคภูมิใจ “พี่ชายของข้ามีสายอยู่รอบตัวโจวซือเหยีย แน่นอนว่าเขาก็มีสายอยู่รอบตัวโจวฉางหลินเช่นเดียวกัน”

“ดูเหมือนว่าในอนาคตคงต้องระมัดระวังหลาย ๆ อย่างมากขึ้น”

จินเฟิงเตือนตัวเองเบา ๆ

ต้าคังดูเหมือนจะมีความคิดคร่ำครึ แต่การควบคุมของหน่วยงานราชการยังคงแข็งแกร่งมาก

อาเหมยกลับมาอย่างรวดเร็ว หมายความว่านางไม่ได้อยู่ที่จินชวนนานนัก แต่สิ่งที่นางนำกลับมานั้นมีรายละเอียดมากมาย เห็นได้ชัดว่าชิ่งซินเหยาพี่ชายของชิ่งมู่หลานได้ถักทอเครือข่ายข่าวกรองขนาดใหญ่และซับซ้อนในซื่อชวนแล้ว

จินเฟิงไม่เชื่อว่าชิ่งซินเหยาเป็นคนเดียวที่ทำสิ่งนี้ เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ เองก็ต้องมีช่องทางสืบข่าวของตนเองเช่นกัน

“ท่านอาจารย์ ดูท่าทางของท่านแล้ว ท่านวางแผนที่จะจัดการกับโจวซือเหยียอย่างนั้นหรือ?”

ชิ่งมู่หลานมองจินเฟิงสักพักแล้วถามอย่างไม่มั่นใจ

“ใช่” จินเฟิงพยักหน้า “ไม่ใช่โจวซือเหยีย แต่เป็นโจรเขาเถี่ยกว้าน!”

“โจรเขาเถี่ยกว้าน?”

ชิ่งมู่หลานมีท่าทีตกใจ “ท่านอาจารย์ ท่านรู้หรือไม่ว่าโจรเขาเถี่ยกว้านมีกำลังคนเท่าใด?”

นางคิดว่าจินเฟิงจะส่งใครสักคนไปรวบรวมหลักฐานที่โจวซือเหยียสมรู้ร่วมคิดกับพวกโจร จากนั้นก็ขอให้นางส่งหลักฐานให้พี่ชายและใช้อำนาจของเขาเพื่อสังหารโจวซือเหยีย

นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

ใครจะรู้ว่าจินเฟิงกลับเลือกที่จะต่อสู้กับโจรเขาเถี่ยกว้าน?

“ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็เห็นโจรจากเขาเถี่ยกว้านมาเก็บส่วยข้าวที่ซีเหอวานทุกปี แน่นอนว่าข้ารู้ว่าพวกเขามีกันกี่คน”

จินเฟิงหยิบถ้วยชาขึ้นมาพร้อมจิบแล้วตอบอย่างใจเย็น

“ในเมื่อรู้อย่างนั้นแล้ว ท่านยังต้องการจัดการกับพวกเขาอีกหรือ?”

ชิ่งมู่หลานมองจินเฟิงราวกับว่ากำลังมองคนบ้าคนหนึ่ง

“โจรเขาเถี่ยกว้านก็เหมือนกับระเบิด… เป็นระเบิดที่ห้อยอยู่เหนือหัวของพวกเรา หากซีเหอวานต้องการพัฒนาก็จะต้องต่อสู้กับพวกเขาไม่ช้าก็เร็วอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้”

“นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าให้พูดตรง ๆ ท่านพี่ชิ่งไหวยังไม่สามารถทำอะไรกับพวกโจรเขาเถี่ยกว้านได้ เหตุใดท่านถึงคิดต่อสู้กับพวกโจรเขาเถี่ยกว้านล่ะ? ท่านมีกองกำลังทหารผ่านศึกเพียงสามสิบกว่าชีวิตเท่านั้นนะ?”

ชิ่งมู่หลานถามว่า “หรือว่าท่านอาจารย์แอบฝึกทหารผ่านศึกมากกว่านี้ที่อื่นอีก?”

“ข้ามีแค่บรรดาทหารผ่านศึกสามสิบกว่าชีวิตที่เข้าด้านหลังนั่นแหละ!”

จินเฟิงกล่าวอย่างใจเย็น

“ข้ารู้ว่าในการสู้รบที่ชิงสุยกู่ ท่านทำการต่อสู้ได้ดีมาก ท่านนำกองทัพเถี่ยหลินหลายพันคนไปเอาชนะทหารม้าตั่งเซี่ยงได้หลายต่อหลายครั้ง มีการต่อสู้หลายครั้งในประวัติศาสตร์ที่ผู้อ่อนแอสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่ง และผู้ที่ต่ำต้อยกว่าสามารถเอาชนะผู้ที่สูงส่งกว่าได้ แต่ข้าคิดว่าไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ใด ๆ ก็มิอาจเทียบได้กับสงครามที่ชิงสุยกู่”

ชิ่งมู่หลานพูดด้วยความชื่นชม “เป็นเพราะการต่อสู้ที่ชิงสุยกู่ พี่ชายของข้าจึงตกลงให้ข้ามาที่ซีเหอวานเพื่อฝึกวิชากับท่าน”

“ประโยคถัดไปของเจ้าคงไม่มีคำว่าแต่หรอกนะ?”

จินเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

“ใช่” ชิ่งมู่หลานกล่าว “ท่านอาจารย์ แต่ทำเลที่พวกโจรเขาเถี่ยกว้านครอบครองตอนนี้เป็นพื้นที่ที่ดี ยุทธวิธีของท่านในชิงสุยกู่น่าจะไร้ประโยชน์ ลักษณะภูมิศาสตร์ของภูเขาเถี่ยกว้านนั้นคล้ายคลึงกับภูเขาชิงสุ่ยมาก ป้องกันง่ายแต่โจมตียาก มีทางขึ้นภูเขาเพียงทางเดียว ท่านมีกองกำลังเพียงสามสิบคนเท่านั้น ท่านไม่สามารถบุกขึ้นไปได้แน่!”

“แล้วเหตุใดข้าต้องบุกขึ้นไปด้วย”

จินเฟิงถามกลับ “ข้าจะทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายลงมาเอง และกดดันให้พวกเขาดำเนินชีวิตอย่างอดอยาก แค่นั้นก็หมดปัญหาแล้วมิใช่หรือ?”

“ทำให้พวกเขาอดตายอย่างนั้นหรือ?!”

จู่ ๆ ชิ่งมู่หลานก็เบิกตากว้าง จากนั้นนางก็ตบต้นขาของตนเองอย่างแรง “ใช่! เหตุใดข้าถึงไม่มองมุมนี้กันนะ”

“มู่หลาน เจ้าต้องจำไว้ว่าวิถีแห่งสงครามคือการต่อสู้จนตัวตาย เจ้าต้องใช้เงื่อนไขที่มีอยู่ให้มากที่สุด เปลี่ยนข้อเสียให้เป็นข้อได้เปรียบ และมุ่งมั่นเพื่อชัยชนะ เข้าใจหรือไม่?”

“ขอบคุณที่ท่านอาจารย์สอนแนวคิดนี้ให้กับข้า!”

ชิ่งมู่หลานยืนขึ้นและทำความเคารพจินเฟิง โดยไม่สงสัยอีกว่าทหารผ่านศึกมากกว่าสามสิบคนจะจัดการกับโจรเขาเถี่ยกว้านได้อย่างไร

อาเหมยพยักหน้ายอมรับ

ชิ่งมู่หลานเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ในที่สุดอาเหมยก็เป็นคนกู้หน้าให้นางอีกครั้ง

“เมื่อลงสนามรบ พวกเจ้าถือว่าเป็นกองกำลังเดียวกัน จะให้อาเหมยแสดงฝีมือผู้เดียวไม่ได้”

จินเฟิงกล่าวว่า “มีคนจำนวนมากที่ตอนฝึกฝนเก่งมาก แต่เมื่อพวกเขาเข้าสู่สนามรบ ถือดาบและอาวุธจริง พวกเขากลับตัวเย็นเฉียบเมื่อเห็นเลือด คนเหล่านี้ไม่เพียงไม่สามารถช่วยเหลือสหายของพวกเขาได้ แต่ยังจะลากทุกคนลงเหวไปด้วยกันอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะไปสนามรบ เจ้าควรเห็นเลือดและชินกับมันเสียก่อน”

จินเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอาเช่นนี้แล้วกัน ครั้งนี้ที่จะออกไปโจมตีพวกโจร ข้าจะให้พวกเจ้าไปด้วยกัน แต่ก่อนอื่นต้องฝึกฝนทักษะของเจ้าล่วงหน้า หากมีใครกลัวเลือดจริง ๆ ก็จะได้คัดออก”

“เมื่อใดหรือ?”

ดวงตาของชิ่งมู่หลานเป็นประกายด้วยความคาดหวัง และมือของนางก็สั่นด้วยความตื่นเต้น

การนำกองทหารเข้าสู่สนามรบคือความปรารถนาสูงสุดของนาง แต่ตอนนี้นางไม่สามารถไปที่สนามรบได้ เช่นนั้นก็ฆ่าโจรเพื่อเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อนแล้วกัน!

โจรเขาเถี่ยกว้านได้ตั้งจุดสกัดกั้นที่ถนนถงซาน โดยมีเป้าหมายหลักคือขบวนเกวียนของซีเหอวาน ในตอนที่พวกของชิ่งมู่หลานเดินทางมา พวกโจรคิดว่าเป็นกองทหารม้า อีกทั้งพวกนางยังสวมชุดเกราะ พวกโจรจึงซ่อนตัวอยู่บนพื้นหญ้าโดยไม่แม้แต่จะโผล่หัวออกมาให้เห็น

ไม่เช่นนั้นก็คงเกิดการต่อสู้กันไปแล้ว

“อย่าเพิ่งรีบร้อนไป ปล่อยให้กระสุน… ปล่อยให้ลูกธนูไปรับหน้าก่อน”

จินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้ากลับไปเตรียมตัวเถิด เมื่อถึงเวลาข้าจะแจ้งให้ทราบอีกที”

“ตกลง ข้าจะรอการแจ้งข่าวจากท่านอาจารย์!”

ชิ่งมู่หลานวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น

แต่แล้วนางก็ต้องรอเป็นเวลาห้าหกวัน ชิ่งมู่หลานเริ่มเกิดความกังวลแต่นางไม่กล้าเร่งจินเฟิงจึงทำได้แค่อดทน

และเช่นเดียวกับชิ่งมู่หลาน พวกโจรเขาเถี่ยกว้านก็มีความกังวลพอ ๆ กัน

พวกเขาคิดว่าหลังจากดักปล้นขบวนขนส่งของซีเหอวานแล้ว จินเฟิงจะส่งคนมาเอาเรื่องในไม่ช้า ทว่าพวกเขารอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีคนจากซีเหอวานบุกมา พวกโจรจึงค่อย ๆ หมดความอดทน

พวกเขาไม่ใช่ชิ่งมู่หลาน ไม่จำเป็นต้องรอจินเฟิงมอบหมาย โจรเขาเถี่ยกว้านจึงรีบส่งคนมุ่งหน้าไปยังซีเหอวานทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์