บทที่ 132 ไปแสดงความจริงใจกันเถิด
“ข้าขอขอบคุณพี่ใหญ่!”
รองผู้นำโจรรีบหยิบป้ายเล็ก ๆ มาด้วยความเคารพแล้วเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นโจร แต่โจรเขาเถี่ยกว้านไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าโจรเขาเมาเมาเท่านั้น ทว่ายังมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าอีกด้วย
โจรเขาเมาเมาเป็นเพียงกลุ่มคนสิ้นหวังที่ไปรวมตัวกัน พวกนั้นไม่สนใจอนาคต ในหมู่บ้านไม่มีสตรีและไม่มีพวกเสบียงหรือธัญพืชมากนัก
เมื่ออาหารหมดหรือต้องการหญิงสาวก็จะต้องลงจากเขามาขโมย
และเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ พวกเขาจะฆ่าหญิงสาวที่ฉุดมาทิ้งเพราะหากเลี้ยงเอาไว้จะถือเป็นการสิ้นเปลืองเสบียง
แต่โจรแห่งเขาเถี่ยกว้านนั้นแตกต่างออกไป งานหลักของพวกเขาคือการเก็บส่วยข้าว พวกเขาจะไม่ปล้นหญิงสาวในดินแดนของตนเอง ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดความโกรธและความขุ่นเคืองได้
พวกเขาไม่ปล้นในอาณาเขตของตนเอง แต่จะไปปล้นอาณาเขตของโจรกลุ่มอื่น
นี่ถือได้ว่าเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ได้มีเฉพาะในหมู่กองโจรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่โจรกลุ่มอื่นก็มีแนวคิดเช่นเดียวกัน ตราบเท่าที่อีกฝ่ายไม่มาที่ดินแดนของตนเพื่อเก็บส่วยและฉุดคร่าหญิงสาว พวกเขาก็จะไม่บุกไปยังอาณาเขตของโจรกลุ่มอื่นเพื่อสร้างปัญหา
นอกจากนี้ ต้าคังยังมีหญิงค้ามนุษย์หรือที่เรียกกันว่าหยาผอซึ่งเชี่ยวชาญด้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะ โจรเขาเถี่ยกว้านสามารถซื้อหญิงสาวจำนวนมากจากหยาผอได้ตราบใดที่พวกเขามีเงินจ่าย
หญิงสาวที่ถูกปล้นหรือซื้อตัวมาเหล่านี้จะถูกพวกโจรจับขังไว้บนเขา และใช้วิธีการบางอย่างคุมกำเนิดให้พวกนาง จากนั้นพวกโจรก็จะสามารถระบายความใคร่ได้ตามใจชอบ
หากโจรคนใดสร้างคุณูปการ หัวหน้าของพวกเขาก็จะปฏิบัติต่อสตรีเหล่านี้ราวกับเป็นสิ่งของ ด้วยการมอบพวกนางให้เป็นรางวัลแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
แน่นอนว่ารางวัลนี้ไม่ได้มอบให้กับโจรที่ทำความดีไปเลย แต่เป็นการ ‘ให้ยืม’ เฉกเช่นเดียวกับรองผู้นำโจรที่ได้ยืมหญิงสาวไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งและจะต้องนำมาคืนเมื่อครบกำหนด
นี่ถือได้ว่าเป็นวิธีการที่โจรใช้เพื่อเอาชนะใจผู้คน
หลังจากที่รองผู้นำโจรจากไปแล้ว พี่รองของโจรเขาเถี่ยกว้านก็กำหมัดของเขาและขอความช่วยเหลือ “พี่ใหญ่ ข้าเต็มใจ…”
แต่เมื่อเขาเริ่มเอ่ยปาก เขาก็ถูกหัวหน้าใหญ่ขัดขึ้นเสียก่อน
“คนอื่นพากันเอะอะโวยวาย เจ้าก็เอากับเขาด้วยหรือ!”
ตอนนี้ไม่มีคนนอก ดังนั้นหัวหน้าใหญ่จึงหยุดเรียกอีกฝ่ายว่าพี่รองและพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “เจ้าลืมคำสั่งของโจวซือเหยียไปแล้วหรือ?”
เมื่อได้ยินชื่อของโจวซือเหยีย หัวหน้ารองก็หดคอของเขาโดยไม่รู้ตัว
ในฐานะผู้บังคับบัญชาลำดับที่สอง เขารู้ดีว่าความยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาเถี่ยกว้านล้วนเป็นเพราะโจวซือเหยีย
แม้ว่าเขาเถี่ยกว้านจะป้องกันได้ง่ายและโจมตียาก แต่มันก็ไม่สามารถอยู่ยงคงกระพันได้
ก่อนที่พวกเขาจะยึดครองภูเขาเถี่ยกว้าน ก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มโจรที่มีอำนาจครอบครองที่นี่อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดในเวลานั้นนายอำเภอเกิดขุ่นเคืองใจขึ้นมา จึงได้ริเริ่มตั้งค่ายทหารท้องถิ่นที่เชิงเขาเถี่ยกว้านเป็นเวลาสองปีครึ่ง เป็นการบีบให้พวกโจรทั้งหมดอดอาหารตายบนภูเขา
ทว่าตั้งแต่มีโจวซือเหยีย ทุกครั้งที่ทหารท้องถิ่นมาที่เขาเถี่ยกว้าน พวกเขาก็จะทำหน้าที่แบบขอไปที อย่างเช่นกินดื่มร่วมกันแล้วค่อยกลับออกไป
อีกทั้งเมื่อกลับไปยังจวนว่าการก็ยังแบกหน้าไปขอเบี้ยและเสบียงเพื่อสนับสนุนการปราบโจรด้วย
นี่คือวิธีที่ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา และโจวซือเหยียคือสะพานเชื่อมความสัมพันธ์
ครั้งก่อนที่เขาและหลิวเจียงหรือหัวหน้าโจรเขาเถี่ยกว้านไปที่จวนว่าการเพื่อพบกับโจวซือเหยีย โจวซือเหยียได้ขอให้พวกเขาจัดการกับจินเฟิง แต่ก็ได้ย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าทำร้ายจินเฟิงเด็ดขาด
“ซวนจื่อเป็นคนที่เรามอบหมายให้ไปที่นั่น แต่คนเลวอย่างจินเฟิงโจมตีเขา มันตบหน้าสหายเถี่ยกว้านของพวกเราทุกคน! แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย นี่มันน่าหงุดหงิดเกินไป!”
พี่รองเอ่ยอย่างไม่พอใจ “พี่ใหญ่ ชายที่ชื่อจินเฟิงไม่ใช่ชาวบ้านบนเขาธรรมดา ๆ อย่างนั้นหรือ? คนใหญ่คนโตอย่างโจวซือเหยียถึงต้องระมัดระวังในการจัดการเขาเช่นนี้?”
“เจ้าจะไปรู้อะไร ความสัมพันธ์ระหว่างจินเฟิงและชิ่งไหวนั้นไม่ธรรมดา”
หัวหน้าใหญ่กล่าวว่า “ครั้งหนึ่งชิ่งไหวเคยไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านของจินเฟิงเป็นเวลาหลายวัน จากนั้นก็พาเขาไปที่สนามรบ และเมื่อจินเฟิงกลับมา ชิ่งไหวก็ได้ส่งผู้คุ้มกันของเขาให้ติดตามจินเฟิงมาด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับคนผู้นี้เป็นอย่างมาก”
“ชิ่งไหวจากเรือนชิ่งเฟิงผู้นั้นน่ะหรือ?”
รองหัวหน้าโจรถามด้วยความประหลาดใจ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์