เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 136

บทที่ 136 เกินจะรับไหว

ปัก! ปัก! ปัก!

ขณะที่จินเฟิงดีดนิ้ว ลูกธนูขนาดใหญ่ก็ยิงออกมาจากป่าทางด้านซ้าย พุ่งไปทางกลุ่มโจรราวกับฝนดาวตก!

ธนูจ้งหนู่ที่ได้รับการดัดแปลงของจินเฟิงมีระยะสังหารที่น่าสะพรึงกลัวถึงสามลี้ แต่ระยะทางจากป่าถึงลานนวดข้าวอยู่ห่างออกไปเพียงสี่จั้งเท่านั้น ร่างของโจรจึงเปรียบเสมือนกระดาษอันเปราะบางเมื่อถูกลูกธนูอันทรงพลังของธนูจ้งหนู่โจมตี

ลูกธนูนี้คล้ายหอก มันพุ่งเข้ามาจากด้านซ้ายของกลุ่มโจรและสังหารพวกเขาเป็นแนวยาว พวกโจรกระเด็นออกไปทางด้านขวา เข้าไปในป่าและหายไปในที่สุด

โจรคนใดที่ถูกลูกธนูจะต้องจบชีวิตลงหรือได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก!

เพียงการยิงรอบแรก พวกโจรก็ได้รับบาดเจ็บเกือบร้อยคน!

!!!

โจรที่ไม่ได้รับบาดเจ็บและรอดชีวิตไปได้ต่างก็ตื่นตระหนก พวกเขากระจัดกระจายเหมือนแมลงวันหัวขาด

จังหวะนี้จินเฟิงยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง

ป่าด้านซ้ายของลานนวดข้าว ด้านหลังจะเป็นพื้นที่โล่ง

ในพื้นที่นั้นมีเครื่องเหวี่ยงหินหลายตัววางไว้ในมุมที่ต่างกัน

ความแตกต่างจากชิงสุยกู่คือในตะกร้าของเครื่องเหวี่ยงหินไม่ได้ถูกบรรจุหินจำนวนมาก แต่เป็นหนามกระสุนเหล็ก

หนามกระสุนมีความแหลมคมรอบด้าน จากโครงสร้างนี้สามารถรับประกันได้ว่าหลังจากที่มันถูกเหวี่ยงออกไปไม่ว่าจะตกลงมาอย่างไร หนามเหล็กด้านใดด้านหนึ่งจะหงายขึ้นเสมอ

การทำหนามกระสุนต้องใช้สินแร่เหล็กจำนวนไม่น้อย ซึ่งจินเฟิงได้สร้างมันขึ้นระหว่างการทดลองเตาหลอมใหม่ และต่อมาได้ทำการปรับเปลี่ยนเตาหลอม เดิมทีจินเฟิงวางแผนที่จะนำตะกรันเหล็กเหล่านี้เข้าไปหลอมอีกครั้ง แต่เมื่อเขารู้ว่าน่าจะมีโจรบุกมาเลยเก็บมันเอาไว้ก่อน

และตอนนี้เขาก็ได้นำมันมาใช้งานจริง ๆ

สายตาของฟางเหลยที่นอนอยู่บนต้นไม้ใหญ่จับจ้องไปที่ลานนวดข้าว

เมื่อเห็นท่าทางของจินเฟิง เขาก็ตะโกนส่งสัญญาณให้คนด้านล่างทันที “โจมตี!”

ทหารผ่านศึกที่เตรียมพร้อมมาเป็นเวลานานหยิบค้อนไม้ในมือขึ้นมาและทุบไปที่ไกปืนอย่างแรงทันที!

ปัก! ปัก! ปัก!

มีการยิงเครื่องเหวี่ยงหินหลายครั้งในเวลาเดียวกัน จากนั้นหนามกระสุนจำนวนมากก็ตกลงไปที่ลานนวดข้าวราวกับเป็นเมฆดำปกคลุม

พวกโจรที่เพิ่งเริ่มหลบหนีถูกเมฆดำมืดเหล่านั้นกลืนกินอย่างช้า ๆ

คราวนี้ โจรมากกว่าครึ่งถูกโจมตีและลานนวดข้าวก็กลายเป็นขุมนรกอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงเจิ่งนองเต็มลานนวดข้าว และเสียงร้องก็ดังขึ้นอย่างน่าสมเพช

ตอนนี้แม้แต่โจรที่โชคดีเพราะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทั้งสองรอบก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เพราะมีหนามกระสุนอยู่ใต้ฝ่าเท้าจำนวนมาก หากบังเอิญเหยียบเข้ามันจะปักเข้าฝ่าเท้าทันที พวกเขาไม่มีที่ให้ถอย และไม่สามารถหนีไปไหนได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วมาก

นับตั้งแต่ที่จินเฟิงสั่งโจมตีจนการต่อสู้สิ้นสุด รวม ๆ แล้วเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น

ที่บริเวณริมลานนวดข้าว ทั้งหัวหน้ากลุ่มโจรและผู้นำอีกหลายคนมีโอกาสหลบหนีเพราะพวกเขาไม่อยู่ในระยะการโจมตีของธนูและเครื่องเหวี่ยงหิน

แต่ในเวลานี้ จิตใจของพวกเขาต่างกระเจิดกระเจิง

ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวหน้าใหญ่

ก่อนที่จะมาถึง หัวหน้าใหญ่รู้ดีว่ามีนักแม่นธนูในซีเหอวาน ดังนั้นเขาจึงเตรียมการตอบโต้และสวมเกราะอ่อนไว้ใต้เสื้อผ้า

ชุดเกราะอ่อนนี้เขาได้มาจากพ่อค้าที่เคยลงมือสังหารตอนที่ยังหนุ่ม เขาไม่รู้ว่ามันทำจากวัสดุอะไร แต่มันสามารถป้องกันคมดาบได้

รวมไปถึงหมวกเกราะที่เขาสวมใส่ คันธนูธรรมดาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

เขาเลยไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเอง อีกทั้งเขายังมีโจรหลายร้อยชีวิตอยู่ข้างหลัง พี่ใหญ่ผู้นี้จึงเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจตั้งแต่ต้น

หากโจวซือเหยียไม่ขอให้เขาละเว้นจินเฟิง เขาคงไม่เสียเวลามาต่อรองเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความมั่นใจของหัวหน้าใหญ่พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง!

จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ กลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร

เขาขนผู้คนมาหลายร้อยชีวิต แต่พวกเขากลับหายไปในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้หรือ?

การฆ่าหมูหลายร้อยตัวยังไม่สามารถทำได้รวดเร็วเช่นนี้เลย?

“เป็นอย่างไร เจ้าพอใจกับวิธีการของข้าหรือไม่?”

ฟางเหลยตะโกนจนสุดเสียง

พวกโจรที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวรีบทิ้งอาวุธ และนั่งยอง ๆ พร้อมเอามือกุมหัวของตนเอาไว้

“ต้าจ้วง เจ้าพาคนของเจ้าไปนำคนที่เคลื่อนไหวได้ออกมา!”

ฟางเหลยตะโกน “กองสอง กองสาม เตรียมเชือก หากใครตุกติกก็ยิงพวกมันทิ้งซะ!”

“รับทราบ!”

ทหารผ่านศึกทุกคนตอบพร้อมกัน

“กองหนึ่ง ตามข้ามา!”

ต้าจ้วงมอบหน้าไม้ของเขาให้กับทหารผ่านศึกและเดินเข้าไปในลานนวดข้าวพร้อมกับคราด

ทหารทั้งห้าคนในกองของเขาใช้คราดกวาดหนามกระสุนบนพื้นและเดินหน้าไปประมาณหนึ่ง

เมื่อเปิดเส้นทางไปจนถึงจุดที่กลุ่มโจรอยู่ ต้าจ้วงก็เตะโจรจนล้มลง

“เดินออกไป!”

โจรเดินตามเส้นทางอย่างเชื่อฟังและออกจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหนามกระสุนจากนั้นก็ถูกทหารผ่านศึกที่ล้อมอยู่รอบนอกมัดไว้แน่น

สองเค่อต่อมา โจรกว่าร้อยชีวิตที่ยังสามารถเดินได้ด้วยตัวเองก็กลายเป็นนักโทษ

พวกที่ยังคงอยู่ในลานนวดข้าวไม่ตายก็พิการเพราะอานุภาพของธนูจ้งหนู่และเครื่องเหวี่ยงหิน

โจรเขาเถี่ยกว้านที่อยู่ในอำเภอจินชวนมานานหลายทศวรรษ สุดท้ายต้องพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ดวงตาของทหารผ่านศึกหลายคนเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นดีใจ

นี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของพวกเขาและเป็นการต่อสู้ที่สนุกที่สุดในชีวิต พวกเขาสามารถเอาชนะศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าเป็นสิบเท่าได้อย่างง่ายดาย

การต่อสู้ครั้งนี้ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะอวดอ้างได้ตลอดชีวิต

แต่จินเฟิงกลับหาวอย่างไม่สนใจและพูดออกมาอย่างสบาย ๆ

“มู่หลาน ถึงตาเจ้าแล้ว ไปจัดการที่เหลือซะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์