เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 138

บทที่ 138 ทางนั้นยังไม่ส่งข่าวมาอีกหรือ

“อาจวี๋ ไม่เลวเลย”

อาเหมยชื่นชมและเดินไปยังจุดที่กลุ่มโจรรวมตัวกัน มีโจรอยู่สามคนที่ยังคงร้องโหยหวน และสุดท้ายเสียงของพวกเขาก็หยุดลงเพราะดาบยาวของนาง

การแสดงออกของอาเหมยไม่เปลี่ยนไป ราวกับว่านางฆ่าไก่สามตัวไม่ใช่ชีวิตมนุษย์สามคน

บางทีการแสดงของอาเหมยอาจสร้างความมั่นใจให้กับทหารหญิงที่เริ่มทยอยยกดาบทีละคนได้ พวกนางจึงเริ่มมองหาเป้าหมาย

ในความเป็นจริง วิธีที่ดีที่สุดในการสังหารโจรเหล่านี้คือการใช้หอกยาว เพื่อไม่ให้ศัตรูที่แกล้งทำเป็นตายลอบโจมตีได้ง่าย

แต่เพื่อให้ทหารหญิงได้สัมผัสกับความตายในระยะประชิดและปรับตัวเข้ากับสนามรบโดยเร็วที่สุด จินเฟิงจึงกำหนดให้พวกนางใช้ดาบยาว

ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย จางเหลียงจึงแยกทหารชายออกเป็นสองกลุ่มให้กระจายตัวไปทั่วลานนวดข้าว โดยถือหน้าไม้และลูกธนูพร้อมตรึงขบวนทหารไว้

เมื่อพบโจรที่พยายามตุกติก ทหารชายจะทำการยิงทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่ฆ่าคน ทหารหญิงยังไม่คุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวมากนัก พวกนางยังจำเป็นต้องเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจ ดังนั้นกระบวนการจึงไม่รวดเร็วเท่าไร

การสังหารซ้ำครั้งสุดท้ายกินเวลานานกว่าครึ่งชั่วยามและยังไม่สิ้นสุด

ผู้ที่อ่อนแอ สตรี และเด็กที่ซ่อนตัวอยู่ในเนินเขาด้านหลังต่างก็ถูกเรียกกลับมาโดยหัวหน้าหมู่บ้าน ทุกคนยืนเงียบ ๆ รอบลานนวดข้าว มองดูทหารหญิงโจมตีพวกโจรจนหมดสิ้น

เสียงคำรามของพวกโจรในลานนวดข้าวเริ่มลดลงและเงียบหายไปในที่สุด

ไม่ว่าพวกโจรจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตก็ตาม ทุกคนจะมีรูที่คอไม่มากก็น้อย

ชิ่งมู่หลานค่อย ๆ เดินออกจากลานนวดข้าวพร้อมกับทหารหญิงคนอื่น ๆ

เนื้อตัวของพวกนางเต็มไปด้วยเลือด มีเลือดไหลหยดลงมาตามเส้นผมและเสื้อผ้า

ไม่เพียงแต่ทหารผ่านศึกอย่างจินเฟิงและจางเหลียงเท่านั้น แต่สตรีในหมู่บ้านที่เฝ้าดูอยู่ก็เห็นว่าทหารหญิงเหล่านี้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

สตรีในหมู่บ้านหลายคนถึงกับก้มหัวลงและไม่มีความกล้าที่จะมองไปที่เหล่าทหารหญิง

“เรียบร้อยแล้ว ท่านอาจารย์!”

ชิ่งมู่หลานกำหมัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพและพูดอย่างจริงใจ “ขอบคุณท่านอาจารย์!”

ในฐานะผู้บังคับบัญชาการทหารหญิง นางรับรู้ได้อย่างกระจ่างและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้มากที่สุด

นางยังเข้าใจความตั้งใจที่แท้จริงของจินเฟิงที่ให้นางพาทหารหญิงไปซ้ำดาบด้วย

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หญิงรับใช้ที่ติดตามนางมาหลายปีกลุ่มนี้จะมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าสู่สนามรบอย่างแท้จริง

“เหนื่อยหน่อยนะ!”

จินเฟิงไม่สนใจเลือดบนร่างกายของชิ่งมู่หลานและตบไหล่ของนางอย่างชื่นชม “รุ่นเหนียงเตรียมน้ำไว้ให้แล้ว พวกเจ้าไปอาบน้ำเถิด”

“อื้ม!”

ผู้คนที่เฝ้ามองอยู่รอบ ๆ หลีกทางให้ชิ่งมู่หลานออกไปพร้อมกับทหารหญิง

“เสี่ยวเฟิง พวกเราจะเอาอย่างไรต่อไปดี?”

หลังจากที่ชิ่งมู่หลานจากไปแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ยถามจินเฟิง

วันนี้มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นซึ่งมันแทบจะล้มล้างทัศนคติของหัวหน้าหมู่บ้านไปโดยสิ้นเชิง

จนถึงตอนนี้เขายังคงรู้สึกชาที่หนังศีรษะ ขาของเขายังคงอ่อนแรงเมื่อก้าวเดิน

“ในเมื่อทุกคนก็อยู่ที่นี่แล้ว รบกวนท่านอาหลิวแจ้งให้ทุกคนไปยังโรงงานสิ่งทอเถิด ข้ามีเรื่องจะพูดเล็กน้อย”

จินเฟิงยิ้มและพูดว่า “ที่นี่กลิ่นไม่พึงประสงค์เท่าไรนัก”

“แล้วจะทำอย่างไรกับที่แห่งนี้ดี?”

หัวหน้าหมู่บ้านถามพร้อมชี้ไปที่ลานนวดข้าว

“เมื่อสังหารโจรจากเขาเถี่ยกว้านได้ เราน่าจะได้รับรางวัลตอบแทน แต่เราต้องรอให้อู่จั้วมาชันสูตรพลิกศพก่อนจึงจะฝังพวกเขาได้”

จินเฟิงกล่าวว่า “ให้พี่เหลียงและพวกเฝ้าดูไปก่อน”

“เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน”

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้า พร้อมหันกลับไปแจ้งให้ชาวบ้านไปรวมตัวกันที่โรงงานสิ่งทอ

จินเฟิงกำชับให้จางเหลียงและทหารผ่านศึกคอยคุ้มกันนักโทษก่อน จากนั้นค่อยตามไปทีหลัง

เมื่อพวกเขามาถึงโรงงานสิ่งทอ กวานเสี่ยวโหรว ถังตงตง และเสี่ยวเอ๋อก็รออยู่ที่ประตูแล้ว

“สามี เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”

กวานเสี่ยวโหรวเห็นจินเฟิงกลับมาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที

หากค่าจ้างเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า กำไรอาจจะลดลง และอาจทำเงินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่เพื่อพวกเขาเหล่านี้ จินเฟิงยินดีที่จะแลก

เฮ!

เสียงปรบมือดังสนั่น

เมื่อเสียงปรบมือหยุดลง จินเฟิงก็พูดต่อ “นอกจากนี้ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ทุกคนจะไม่ต้องจ่ายส่วยประจำปีอีกแล้ว”

เมื่อเอ่ยมาถึงจุดนี้ จินเฟิงก็ตะเบงเสียงดังขึ้น “หากยังมีโจรที่กล้ามาเก็บส่วยข้าวอีก ชะตากรรมของพวกเขาก็จะไม่ต่างกับโจรเขาเถี่ยกว้าน!”

เฮ!

ผู้คนที่มารวมตัวกันที่โรงงานสิ่งทอกำลังดีใจจนเนื้อเต้น

ชาวบ้านทุกคนปรบมืออย่างครึกครื้น

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่จินเฟิงเลือกที่ตั้งสนามรบไว้ที่ซีเหอวาน เป็นเพราะเขามั่นใจว่าจะสามารถสกัดกั้นพวกโจรเขาเถี่ยกว้านได้

และเพื่อที่จะก่อตั้งอำนาจของตน การสกัดกั้นอำนาจของโจรที่จะมาเก็บส่วยประจำปี เพื่อลดการบาดเจ็บล้มตายของชาวบ้านในหมู่บ้านก็เป็นสิ่งที่ควร

ชาวบ้านอยู่ในร่มเงาของโจรมานานเกินไป

จินเฟิงทำสิ่งนี้เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าโจรไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น!

แน่นอนว่าการต่อสู้ครั้งนี้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดความหวาดกลัวในใจของชาวบ้านได้ทั้งหมด แต่จินเฟิงได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้ในใจของพวกเขาแล้ว สักวันหนึ่งมันจะหยั่งรากและงอกเงยขึ้นมาเอง

หลังจากเอาใจชาวบ้านแล้ว จินเฟิงก็หันไปหาจางเหลียงอีกครั้ง

“ทางนั้นยังไม่มีข่าวคราวกลับมาหรือ?”

จินเฟิงเหลือบมองไปในทิศทางของภูเขาเถี่ยกว้าน มีความกังวลในน้ำเสียง

เขาต้องทำการกระจายความเสี่ยง จริง ๆ แล้วจำนวนทหารผ่านศึกที่ได้รับคัดเลือกในตอนแรกไม่ใช่แค่สามสิบสองคน แต่มีจำนวนมากกว่าเจ็ดสิบคน ทว่าอีกสี่สิบคนที่เหลือถูกจินเฟิงซ่อนไว้ที่เขาเมาเมา

มีเพียงจงอู่และจางเหลียงเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แม้แต่ชิ่งมู่หลานก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ

ภารกิจของคนสี่สิบคนในปัจจุบันคือการใช้ประโยชน์จากการที่เขาเถี่ยกว้านซึ่งกำลังไร้ผู้คน และเข้ายึดครองทันที

ทว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวกลับมา นั่นทำให้จินเฟิงเป็นกังวลเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์