บทที่ 141 ม้าเนื้อ
“สมบัติของหลิวเจียงอย่างนั้นหรือ?”
จินเฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจขึ้นมา
โจรเขาเถี่ยกว้านเข้ามาครอบครองอำเภอจินชวนหลายปี ปริมาณส่วยต่อปีที่พวกเขารวบรวมได้ก็คงไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ
แม้ว่าพวกเขาจะต้องมอบส่วนหนึ่งให้กับโจวซือเหยียเพื่อเป็นบรรณาการ แต่พวกโจรก็ยังเก็บส่วนที่เหลือไว้ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น พวกโจรไม่เพียงแต่รวบรวมส่วยประจำปีแต่ยังเปิดโรงพนันใต้ดินในบางแห่งด้วย บางครั้งพวกเขาก็ลักพาตัวหรือปล้นพ่อค้าผู้มั่งคั่ง
สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างรายได้มากกว่าการเก็บส่วยรายปีเสียอีก
เพราะเงินส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องส่งให้โจวซือเหยีย นอกจากมอบเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แก่โจรคนอื่น ๆ ที่เหลือเกือบทั้งหมดล้วนตกไปอยู่ในมือของหลิวเจียงผู้เป็นหัวหน้าใหญ่
แม้แต่จินเฟิงก็ไม่สามารถเดาได้ว่าหลิวเจียงจะสะสมความมั่งคั่งไว้ได้มากเพียงใดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“พาข้าไปดู”
จินเฟิงโบกมือให้ทหารผ่านศึกปลดเชือกที่มัดซวนจื่อ
“พี่ใหญ่ตามข้ามา!”
ซวนจื่อลุกแล้ววิ่งขึ้นไปบนภูเขา
“ไม่ต้องวิ่งเร็วเช่นนั้นหรอก!”
ฟางเหลยยกหน้าไม้ขึ้นแล้วเล็งไปที่หลังของซวนจื่อ “อย่าคิดจะเล่นตุกติก ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าด้วยลูกธนูเพียงดอกเดียวนี้!”
“ข้าไม่กล้า ข้าไม่กล้าหรอก!”
ซวนจื่อชะลอความเร็วลงทันที
ภูเขาเถี่ยกว้านสูงไม่มากนัก จุดที่สูงที่สุดสูงไม่ถึงหกสิบจั้ง และเตี้ยกว่าเขารอบ ๆ หลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ภูเขาเถี่ยกว้านไม่เพียงป้องกันง่ายและโจมตียากเท่านั้น ทว่ายังมีความพิเศษมาก ภูเขาแห่งนี้ไม่ได้มีรูปทรงกรวยเหมือนภูเขาทั่ว ๆ ไป แต่บนยอดเขามีรูปร่างเหมือนกับถังใบใหญ่ที่คว่ำลง
บนยอดเขาเป็นพื้นที่ราบขนาดมหึมา ถึงจะไม่เหมาะแก่การทำเกษตรแต่ก็ไม่มีปัญหาต่อการดำรงชีพของผู้คน
ด้วยเหตุนี้เองที่เขาเถี่ยกว้านจึงเป็นถ้ำโจรมานับร้อยปีแล้ว
หลังจากขึ้นไปถึงยอดเขา จินเฟิงก็เห็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นสนามฝึกที่พวกโจรใช้ทำการฝึกซ้อมและจัดการประชุม
ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ของที่ราบมีกระท่อมเรียงเป็นแนว ซึ่งเป็นที่พักของพวกโจร
หัวหน้ากองโจรอย่างซวนจื่อมีห้องเดี่ยวเป็นของตัวเอง ในขณะที่โจรธรรมดาจะพักอยู่ในห้องรวมซึ่งมีสมา ชิกห้าถึงหกคนต่อหนึ่งห้อง
ทางทิศตะวันตกมีโรงอาหาร คอกม้า โกดัง และสถานที่อื่น ๆ
โถงที่ก่อด้วยอิฐและหินสูงอยู่ตรงกลางทางทิศเหนือ มีป้ายห้อยอยู่ที่ประตูเขียนว่าโถงจวี้อี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้นำโจรมาพบปะเพื่อหารือกันในเรื่องต่าง ๆ
ทั้งสองด้านของโถงจวี้อี้มีบ้านอิฐขนาดเล็กสองแถวเป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าใหญ่
ทันใดนั้นจินเฟิงก็เห็นร่างหนึ่งแวบเข้าไปในบ้านเล็ก ๆ แห่งนั้น
“มีคนอยู่! ทุกคนระวังด้วย! คุ้มกันท่านอาจารย์!”
ฟางเฟลยคำรามเสียงต่ำ จากนั้นทหารผ่านศึกหลายสิบคนก็ตั้งท่าโจมตีโดยมีจินเฟิงและชิ่งมู่หลานอยู่ตรงกลางอย่างรวดเร็ว
“นายท่านทั้งหลายไม่ต้องกังวลไป บนภูเขาไม่มีโจรอีกแล้ว ที่เห็นเมื่อครู่เป็นเพียงเด็กเท่านั้น”
ซวนจื่อรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ผู้นำกลุ่มโจรสามารถแต่งงานได้ ซึ่งภรรยาและลูก ๆ ของพวกเขาก็จะอาศัยอยู่ในลานแห่งนี้”
เขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดทางและไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรมากนัก เขาค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะทำให้ฟางเฟลยไม่พอใจและใช้หน้าไม้ยิงเข้า
“ต้าจ้วง พาคนไปดู!”
แม้ว่าซวนจื่อจะอธิบายเรื่องนี้ แต่ฟางเหลยก็ตัดสินใจสั่งให้คนไปตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย
“หมู่หนึ่งตามข้ามา!”
ต้าจ้วงรีบวิ่งเข้าไปในลานบ้านพร้อมกับทหารอีกสองสามนาย
หลังจากนั้นไม่นาน สตรีสามคนก็ออกมาพร้อมกับเด็กอีกสองคน
“เราค้นหาจนทั่วแล้ว ไม่พบบุรุษอยู่ด้านใน” ต้าจ้วงวิ่งไปรายงาน
“ลองไปค้นหาจุดอื่นให้ทั่ว”
จินเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วออกคำสั่ง
อย่างไรเขาเถี่ยกว้านก็ถูกเขายึดครองแล้ว และสมบัติของหลิวเจียงก็คงไม่หนีไปไหน ไม่สำคัญว่าเขาจะได้สมบัติเหล่านั้นช้าหรือเร็ว
เขาต้องเร่งกำจัดอันตรายเสียก่อน เพราะไม่อยากปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดตามมาทีหลัง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์