บทที่ 152 รับสมัครทหารหญิง
“ข้า…”
หัวหน้าหมู่บ้านชะงักและตบต้นขาอย่างแรง
ชาวบ้านธรรมดา ๆ อาจไม่รู้จักตัวตนของชิ่งมู่หลาน แต่ครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้านรู้ว่านางเป็นน้องสาวของชิ่งไหว และพวกเขาไม่สามารถทำให้นางขุ่นเคืองได้
แต่บุตรสาวของเขากำลังจะถูกชิ่งมู่หลานพาตัวไป และหัวหน้าหมู่บ้านก็อยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ขณะที่เขากำลังดิ้นรน จู่ ๆ หัวหน้าหมู่บ้านก็เห็นจินเฟิงซึ่งยืนอยู่ข้างเกวียนเพื่อดูเหตุการณ์ตรงหน้า
“จินเฟิง เจ้าช่วยตัดสินที!”
หัวหน้าหมู่บ้านวิ่งไปคว้าตัวบัณฑิตหนุ่ม “เจ้าว่าสิ่งที่แม่นางมู่หลานทำมันเกินกว่าเหตุหรือไม่?”
จินเฟิงสับสนงุนงง “…”
เขากำลังดูการแสดงอย่างสนุก แต่ทำไมจู่ ๆ เขาถึงถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วยเล่า?
“หัวหน้าหมู่บ้าน ข้ามีอย่างอื่นต้องทำ ข้าขอตัวก่อน”
จินเฟิงปรารถนาอย่างยิ่งว่าชิ่งมู่หลานจะสามารถระดมหญิงสาวที่เหมาะสมในหมู่บ้านไปฝึกฝนเพื่อต่อสู้กับพวกโจรได้ แล้วเขาจะทำลายความตั้งใจของชิ่งมู่หลานได้อย่างไร?
จากนั้นชายหนุ่มจึงพาเถี่ยฉุยวิ่งหนี
ทันทีที่เขาไปถึงทางเข้าหมู่บ้าน เถี่ยฉุยก็ตบบ่าจินเฟิงทันที
“ท่านอาจารย์ ดูทางนั้นสิ”
จินเฟิงหันกลับมาและเห็นชิ่งมู่หลานนำกลุ่มทหารหญิงเดินกลับมาจากถนนด้านนอกด้วยใบหน้าที่ดุดัน
“ข้าว่าเราเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะ”
จินเฟิงดูขมขื่นและหันหลังกลับพร้อมกับเถี่ยฉุยและคนอื่น ๆ
ชิ่งมู่หลานเป็นหญิงสาวที่มีอารมณ์รุนแรงเป็นอย่างมาก หากนางมีปัญหากับหัวหน้าหมู่บ้าน อาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากครั้งใหญ่
“ชายชราหลิว ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่ยอมให้เสี่ยวอวี้เข้าร่วมกองทหารหญิง เป็นเพราะเหตุใด?”
ชิ่งมู่หลานยังเดินมาไม่ถึง แต่เสียงของนางกลับดังไปถึงก่อนตัว
น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“เพราะนางเป็นลูกสาวของข้า นางจึงต้องเชื่อฟังข้า”
แม้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะกลัวชิ่งมู่หลาน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้เมื่อมีผู้คนมากมายเฝ้าดูการปะทะคารมครั้งนี้อยู่
เขาไม่สามารถอารมณ์เสียใส่ชิ่งมู่หลานได้ เขาจึงผลักเสี่ยวอวี้แทน “ไปโรงงานสิ่งทอกับข้า!”
“ข้ารู้ว่าท่านไม่อยากให้ข้าเป็นทหารหญิง เพราะท่านแค่อยากให้ข้าหาเงินให้ท่านเท่านั้น!”
เสี่ยวอวี้ผละตัวออกจากการฉุดดึงของหัวหน้าหมู่บ้าน จากนั้นดวงตาของนางก็เริ่มแดงขึ้น “ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ไม่เช่นนั้นท่านก็ทุบตีข้าให้ตายไปเลยเถิด!”
“เจ้า…”
หัวหน้าหมู่บ้านโกรธจนเคราสั่น ทันทีที่เขายกมือขึ้นจับไม้กวาด ชิ่งมู่หลานก็เข้ามาคว้าไม้กวาดไป
“ทำไม ถ้าข้าจะให้บทเรียนแก่บุตรสาวของข้า แม่นางก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือ?”
หัวหน้าหมู่บ้านถามพร้อมจ้องมอง
“ที่เจ้าไม่ยินยอมให้เสี่ยวอี้มากับข้า เป็นเพราะเรื่องเงินใช่หรือไม่?”
ชิ่งมู่หลานหรี่ตาถาม
“หากเป็นเรื่องเงินแล้วมันทำไม?”
หัวหน้าหมู่บ้านเองก็สับสนเช่นกัน เขาพูดออกมาอย่างไม่อาย “กว่าข้าจะเลี้ยงนางมาจนเติบใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ นางต้องมาช่วยข้าหาเงินก็ถูกแล้วมิใช่หรือ?”
“ที่เจ้าว่าก็ไม่ผิด”
ชิ่งมู่หลานพยักหน้าและหันไปมองเสี่ยวอวี้ “ตอนที่ทำงานในโรงงานสิ่งทอเจ้าสามารถทำเงินได้เท่าใด?”
“เดือนที่แล้วข้าได้สี่สิบเอ็ดเหรียญทองแดง ท่านพี่จินเฟิงกล่าวว่าเดือนนี้ค่าจ้างของข้าจะเพิ่มเป็นสองเท่าเนื่องจากข้าสามารถปั่นด้ายได้เร็วกว่าเมื่อก่อน ข้าคิดว่ารายได้ของข้าจะอยู่ราว ๆ เก้าสิบห้าเหรียญทองแดง”
เสี่ยวอวี้พูดตามความจริง
เริ่มแรกที่ทำงานที่นี่ คนงานหญิงจะได้รับค่าจ้างวันละหนึ่งเหรียญทองแดง ต่อมาหลังจากที่ถังตงตงเปลี่ยนการจ่ายค่าแรงเป็นรายชิ้น คนงานหญิงก็มีแรงใจในการทำงานมากขึ้นและมีทักษะมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นคนงานหญิงจำนวนมากจึงมีรายได้มากกว่าสี่สิบเหรียญทองแดงต่อเดือน
“เก้าสิบห้าเหรียญทองแดงใช่หรือไม่?”
ชิ่งมู่หลานพยักหน้า “เสี่ยวอวี้ ข้าจะให้ค่าจ้างเจ้าเดือนละสามร้อยเหรียญทองแดง และผลประโยชน์อื่น ๆ ทั้งหมดจะเหมือนกับของทหารผ่านศึกที่อยู่ภายใต้การดูแลของพี่เหลียง เจ้าคิดอย่างไร”
“สามร้อยเหรียญทองแดง?”
เสี่ยวอวี้ปิดปากของนางทันที
“เรื่องความแข็งแกร่งถือว่าผ่าน แต่เมื่อเรารับสมัครคน นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว เจ้ายังต้องเชื่อฟังคำสั่งอีกด้วย” ชิ่งมู่หลานกล่าว
“ไม่ต้องห่วง แม่นางมู่หลาน ตราบใดที่เจ้าให้ค่าจ้างข้า ข้าจะเชื่อฟังทุกอย่าง ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้” อาเพ่ยสัญญาอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ พรุ่งนี้เช้าเจ้าไปที่เขาด้านหลังเพื่อพบข้า ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการยกของหนักก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร” ชิ่งมู่หลานกล่าว
“แล้วค่าตอบแทนของข้าก็ได้สามร้อยเหรียญทองแดงเช่นกันหรือ?” อาเพ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ใช่ ตราบใดที่เจ้าผ่านการทดสอบของข้า เงินเดือนของเจ้าจะได้อย่างน้อยสามร้อยเหรียญทองแดง หากเจ้าได้เป็นหัวหน้าหรือสร้างคุณูปการ เจ้าจะได้รับเงินเพิ่มเติม!”
ชิ่งมู่หลานพูดเสียงดัง “นอกจากนี้ ทหารหญิงของเราจะสร้างหอพักเช่นเดียวกับทหารชาย แต่ละคนจะมีห้องพักเป็นของตัวเอง และหากใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการทำภารกิจของกองทัพสตรี ข้าก็จะรับผิดชอบเช่นกัน”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของอาเพ่ยก็เป็นประกายทันที
สตรีหลายคนที่กำลังดูอยู่ต่างรู้สึกอิจฉา
“แม่นางมู่หลาน ตอนนี้เจ้าก็พูดได้ดีน่ะสิ หากในอนาคตมีเรื่องเกิดขึ้นแล้วเจ้าหนีไปล่ะ?”
สตรีคนหนึ่งเอ่ยถาม
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา หญิงสาวหลายคนก็รู้สึกหนาวสั่นในใจ
ทุกคนเชื่อคำพูดของจินเฟิง นั่นเป็นเพราะจินเฟิงมีโรงงานหลายแห่งในซีเหอวาน และพระสงฆ์ไม่สามารถหนีออกจากวัดได้
แต่ชิ่งมู่หลานไม่ใช่คนท้องถิ่น ถ้านางหนีไปจะไปพบนางได้ที่ไหน?
“สิ่งนี้…”
ชิ่งมู่หลานเองก็รู้ว่าชาวบ้านไม่เชื่อนาง ดังนั้นนางจึงมองไปที่จินเฟิงเพื่อขอความช่วยเหลือ
จินเฟิงยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็พูดเสียงดัง “ถ้ามู่หลานหนีไป ข้าจะรับผิดชอบเอง”
นี่พวกชาวบ้านล้อเล่นหรือ? ชิ่งมู่หลานเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของผู้ปกครองมณฑล นางจะไม่มีเงินได้อย่างไร?
การเลี้ยงดูคนร้อยชีวิต สำหรับนางแล้วถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ แม้ว่านางจะหนีไปจริง ๆ แต่เขาก็ยังมีชิ่งไหวมิใช่หรือ?
ด้วยการรับประกันของจินเฟิง ชาวบ้านก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป อาเพ่ยจึงพูดทันที “แม่นางมู่หลาน พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปที่ภูเขาด้านหลังตรงเวลาแน่นอน!”
“ตกลง ข้าจะรอเจ้า!”
ชิ่งมู่หลานพยักหน้าและมองไปรอบ ๆ “มีใครอยากเข้าร่วมอีกหรือไม่? ในขณะนี้กองทัพสตรีของข้าวางแผนรับสมัครเพียงห้าสิบคน แต่เพื่อเห็นแก่ท่านอาจารย์จิน ข้าจะพิจารณาคนจากหมู่บ้านของเราก่อน หากคนที่นี่ไม่เข้าร่วม ข้าก็จะไปหมู่บ้านอื่น เมื่อข้าปิดการรับสมัครแล้ว จะมาหาว่าข้าไม่ให้โอกาสไม่ได้นะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์