เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 158

บทที่ 158 ซุ่มโจมตี

“รับทราบ!”

ทหารผ่านศึกมากกว่าสี่สิบชีวิตตอบรับคำสั่งอย่างแผ่วเบาและดักซุ่มอยู่ทุกมุมภายใต้ความมืดมิด

เหยียโก่วพัวไม่ใช่สถานที่เล็ก ๆ และกลุ่มโจรกลุ่มนี้ยังคงไม่พัฒนา วินัยของพวกเขาหละหลวมมาก และความระมัดระวังตัวเองก็ต่ำมากเช่นกัน พวกเขาให้คนเพียงสองคนเฝ้าที่ถนนบริเวณทางขึ้นเขาเท่านั้น และไม่มีโจรคนอื่น ๆ ที่คอยอยู่ลาดตระเวนรอบ ๆ ถ้ำโจรแม้แต่คนเดียว

โจรที่เหลือรวมตัวกันในกระท่อมเพิงหญ้าคาเพื่อเล่นการพนันจนถึงกลางดึกถึงจะแยกย้ายกัน

วันรุ่งขึ้นพวกโจรก็เข้านอนจนถึงช่วงสาย และเมื่อหาอะไรกินกันเสร็จพวกเขาก็เริ่มเล่นการพนันอีกครั้ง

ทหารผ่านศึกดักซุ่มจนถึงเที่ยงวัน แต่ไม่มีโจรคนใดสังเกตเห็นว่ามีคนอีกนับสิบอยู่บนภูเขา

มีพุ่มไม้อยู่ห่างจากกระท่อมเพิงหญ้าคาที่พวกโจรเล่นการพนันไปกว่าร้อยเมตร

หากพวกเขาไม่ได้เข้ามาใกล้และจ้องมองอย่างละเอียด คงไม่มีใครเดาได้ว่ามีคนสองคนซ่อนตัวอยู่ตรงกลาง

“เมื่อวานข้าเห็นแม่นางมู่หลานกระวนกระวายใจออกไป ข้าคิดว่าพวกนางจะมาโจมตีเหยียโก่วพัวในตอนเช้า แต่ใครจะรู้ว่าพวกนางยังไม่มา”

ทหารผ่านศึกคนหนึ่งหาวและบ่นว่า “หากข้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ พวกเราก็คงได้นอนหลับกันอย่างสบายสักตื่นแล้ว วันนี้ค่อยมาก็ยังได้”

เมื่อวานพวกเขามาดักซุ่มทั้งคืน ทหารผ่านศึกกลุ่มนี้ต่างก็ไม่ได้นอน นอกจากนี้ในฤดูร้อนยังมียุงเยอะมาก พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้จึงได้ถูกยุงกัดจนแสบไปหมด

“เจ้าลืมที่หัวหน้าเจิ้งพูดไปแล้วหรือ? นี่เป็นบททดสอบของท่านอาจารย์จินสำหรับพวกเราด้วย”

สหายที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าไม่เคยผ่านสนามรบมาก่อนเสียหน่อย บางครั้งเมื่อเกิดสงคราม ต้องต่อสู้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หลับได้นอน นี่แค่คืนเดียวก็ทนไม่ได้แล้วหรือ?”

“ระหว่างเข้าค่ายฝึกเมื่อเดือนที่แล้ว ข้าได้ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาด้านหลังเป็นเวลาสามวันสามคืนโดยไม่ขยับเลย ข้าจะทนไม่ไหวได้อย่างไร”

“ในเมื่อเจ้าสามารถทนได้ก็อย่าบ่นจู้จี้จุกจิก”

สหายเตือนว่า “อีกอย่างขณะดักซุ่มไม่ควรพูดพร่ำ หากเราถูกจับได้ขึ้นมา กลับไปเจ้ารอดูได้เลยว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!”

“ข้าแค่พูดเฉย ๆ เจ้าทำเป็นร้อนใจไปได้?”

สหายอีกคนอดไม่ได้ที่จะมุ่ยปาก “เจ้าจับตาดูไปก่อน ข้าจะพักสายตาสักครู่ อีกเดี๋ยวค่อยเปลี่ยนเวรกัน”

คราวนี้อีกฝ่ายไม่คัดค้าน

เพราะเขาไม่รู้ว่าทหารหญิงจะเริ่มลงมือเมื่อใด หากทหารหญิงล่าช้าไปสามหรือสี่วัน พวกเขาก็คงตายกันหมด

นี่คือเหตุผลที่เจิ้งฟางจัดให้พวกเขาดักซุ่มเป็นกลุ่มอย่างน้อยสองคน

จะได้สลับกันพักผ่อนเอาแรงได้

ทหารผ่านศึกรอจนถึงกลางดึก และในที่สุดชิ่งมู่หลานก็มาถึง…

อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้โจมตีโดยตรง แต่ส่งอาเหมยไปจัดการกับกลุ่มโจรที่รับหน้าที่เฝ้าเวรยาม จากนั้นจึงบุกไปถึงที่ซ่อนของพวกโจรอย่างเงียบ ๆ

จนถึงตอนนี้ พวกโจรยังคงรวมตัวกันอยู่ในกระท่อมเพิงหญ้าคาและเล่นการพนันอย่างบ้าคลั่ง

“ก็แค่คนกลุ่มเดียว ท่านอาจารย์คิดมากไปได้”

ชิ่งมู่หลานซ่อนตัวอยู่ในเงามืดพร้อมกับทหารหญิงและเยาะเย้ย “ทุกคน เอาหน้าไม้ออกมาแล้วยิงออกไปสองสามนัด!”

“รับทราบ!”

ทหารหญิงหยิบหน้าไม้ออกมาแล้วชี้ไปที่กระท่อมเพิงหญ้าคาที่พวกโจรอยู่

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พวกโจรที่กำลังเล่นการพนันในกระท่อมหันมาคว้าโล่ที่ทำจากไม้ขึ้นมาจากพื้นดินและปิดกระท่อมอย่างรวดเร็ว

คบเพลิงหลายลูกถูกโยนออกจากโรงเก็บหญ้าแห้ง พร้อมจุดเข้าที่กองหญ้าแห้งที่เตรียมไว้นานแล้ว เพื่อส่องสว่างบริเวณโดยรอบ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ซีเหอวานส่งคนมาเล่นงานพวกเราจริง ๆ!”

“พี่ใหญ่ พวกมันรนหาที่ตายจริง ๆ!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ดูนี่สิ พวกคนที่มาล้วนเป็นสตรี!”

“ขอข้าดูหน่อยเถิด จริงด้วยสินะ ผู้นำนางนี้งดงามไม่น้อย!”

“เมื่อวานพี่ใหญ่เพิ่งเอ่ยปากว่าจะออกไปหาหยาผอเพื่อซื้อม้าเนื้อมาจำนวนหนึ่ง ใครจะรู้ว่าวันนี้พวกนางจะพาตัวเองมาส่งถึงที่ มันช่วยให้เราประหยัดเงินไปได้มาก”

“ไอหยา พวกนางยังมีชุดเกราะมากกว่าสิบชุด หากนำของพวกนางมา ข้าก็จะได้มีไว้ใช้สำรอง”

“ชุดเกราะที่พวกนางสวมใส่นั้นเป็นของสตรี ข้าว่ามันคงไม่เหมาะเท่าใด”

เสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งของพวกโจรดังมาจากกระท่อม

“ตกหลุมพรางเข้าให้แล้ว!”

ตาข่ายใหญ่ถูกลากไปมาทำให้ทหารหญิงไม่สามารถยืนได้และล้มลงกับพื้นทีละคน

และมีทหารหญิงสองคนถูกดาบเล่มยาวของตนบาดตัวเองเข้าให้แล้ว

ทหารหญิงที่สง่างามมากเมื่อครู่ไร้พลังที่จะต้านทานทันที

ชิ่งมู่หลานยังคงสงบและพยายามตัดตาข่ายด้วยดาบยาวอีกครั้ง

น่าเสียดายขณะที่ดาบยาวถูกยกขึ้น ตาข่ายขนาดใหญ่ก็รัดแน่นขึ้นทันที ทั้งนางและทหารหญิงคนอื่น ๆ ถูกรัดกันเป็นกลุ่มกันไม่สามารถขยับได้

แม้แต่เจิ้งฟางก็คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาหันไปมองโหวจื่อ “เกิดอะไรขึ้น? ไหนเจ้าบอกว่าเจ้าสำรวจมาแล้วทุกตารางนิ้ว?”

“พวกเขาคงวางตาข่ายขนาดใหญ่นี้มานานแล้ว!”

โหวจื่อหน้าแดงและพูดว่า “ตอนที่ข้ามาที่นี่ครั้งที่แล้ว ข้าเห็นมันโล่งไปหมด เลยไม่ได้ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง”

“เหล่าเจิ้ง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รีบไปช่วยพวกนางเร็วเข้า”

ผู้ช่วยของเขากล่าวอย่างกังวลใจ

“ชีวิตของพวกนางยังไม่ตกอยู่ในอันตราย รอสักครู่”

เจิ้งฟางส่ายหัวและจ้องมองตรงไปข้างหน้า

ในพื้นที่โล่ง ชิ่งมู่หลานที่กำลังติดอยู่ในอวนรู้สึกขมขื่นในใจ

ก่อนมานางได้จัดกองกำลังไว้เป็นพิเศษและวางแผนหลายอย่าง

นางคิดว่านางระมัดระวังเพียงพอแล้วเมื่อต้องรับมือกับกลุ่มโจรสามสิบชีวิต แต่กลับกลายเป็นว่านางประเมินศัตรูต่ำไป

สิ่งที่จินเฟิงเคยพูดผุดเข้ามาในใจนางทันที

‘ห้ามประมาทศัตรูเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องชดใช้ให้กับความเลินเล่อด้วยเลือด!’

ในเวลานี้ชิ่งมู่หลานเต็มไปด้วยความเสียใจ

แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเสียใจอีกต่อไป

จากนั้นโล่ที่ล้อมกระท่อมก็ถูกยกออก และหัวหน้าโจรในชุดเกราะก็เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม

โดยที่ด้านหลังเขามีกลุ่มโจรที่ถือธนูยาวและดาบยาวตามมา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์