บทที่ 159 อาเหมยลงมือ
“หญิงชั่วพวกนี้ ข้าบอกให้พวกเจ้าหยุดดิ้นรนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนทุข์ แต่พวกเจ้ากลับไม่ฟัง”
หัวหน้าใหญ่ถ่มน้ำลายลงบนพื้นและมองไปที่ทหารหญิงด้วยความดูถูก
ชิ่งมู่หลานรู้สึกละอาย ทั้งโกรธและวิตกกังวล แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้
ดาบในมือของนางยาวเกินไป และนางก็ถูกทหารหญิงสองคนทับจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่าทางของพวกนางเมื่อครู่องอาจจนข้าคิดว่าพวกนางทรงพลังจริง ๆ แต่แล้วพวกนางก็ต้องมาถูกจับได้ทั้งหมดในคราวเดียว”
“สตรีก็ควรอยู่บ้านเลี้ยงลูกจะมาร่ายดาบแถวนี้มันสมควรแล้วหรือ?”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ พวกนางเหล่านี้อาจเป็นหญิงบริสุทธิ์และไม่มีลูก”
“เช่นนั้นข้าจะสนองบุตรให้พวกนางอย่างละคนดีหรือไม่!”
“เจ้าจะเป็นผู้รับไว้คนเดียวหรือ แล้วพวกข้าเล่า?”
“เช่นนั้นข้าปันให้เจ้าสองคน!”
พวกโจรยังชี้ไปยังทหารหญิงและพูดอย่างไร้ศีลธรรม
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าอาเหมยซึ่งอยู่ข้าง ๆ ชิ่งมู่หลาน ดึงกริชออกมาจากใต้แขนเสื้อของนาง
“หนึ่ง สอง สาม… สี่สิบสอง สี่สิบสาม… ห้าสิบหก ห้าสิบเจ็ด…”
เจิ้งฟางนับพวกโจรที่ออกมาจากกระท่อมแล้วจ้องมองไปที่โหวจื่อ “โหวจื่อ ไหนเจ้าว่าพวกโจรเหยียโก่วพัวมีกันสามสิบกว่าคนไง ตอนนี้ข้านับได้เกินหกสิบคนไปแล้ว และพวกเขาก็ยังเดินออกมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ!”
“แต่ตอนนั้นข้านับแล้วนับอีก ก็มีแค่สามสิบกว่าคนนะ!”
โหวจื่อก็รู้สึกหดหู่ใจเช่นกัน “เช่นนั้นคนที่เหลือมาจากไหน?”
การที่เขาไม่เห็นอวนขนาดใหญ่นี้ก็แล้วไป อย่างไรเสียก็เป็นเพราะพวกโจรฝังมันไว้ในที่โล่งล่วงหน้าแล้วโรยด้วยดิน ทำให้สังเกตเห็นมันได้ยาก
อย่างไรก็ตาม การตรวจจับจำนวนศัตรูนั้นสัมพันธ์กับการวางกำลังเชิงกลยุทธ์และยังเป็นทักษะพื้นฐานของหน่วยสอดแนมอีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นหน่วยสอดแนมที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้หลายร้อยครั้ง เพราะแม้ว่าเขาจะเข้าสู่วงการครั้งแรกก็ไม่ควรทำผิดพลาดอย่างโง่เขลาเช่นนี้
เมื่อโจรทั้งหมดออกมาจากกระท่อมก็นับจำนวนได้มากกว่าร้อยชีวิต จำนวนของโจรมากกว่าที่โหวจื่อระบุไว้มาก
“ข้าเข้าใจแล้วจะต้องมีห้องใต้ดินหรือสถานที่อื่น ๆ เพื่อซ่อนผู้คนไว้ใต้กระท่อมแห่งนี้เป็นแน่”
โหวจื่อพูด
“คงไม่ต้องรอให้เจ้าคาดเดาหรอก เพราะกระท่อมใหญ่แค่นี้ หากไม่มีที่ซ่อนผู้คนใต้ดิน คนมากกว่าร้อยชีวิตคงไม่สามารถแม้แต่จะยืนอยู่ในนั้นได้”
เจิ้งฟางถามด้วยใบหน้าที่มืดมน “เหตุใดครั้งที่แล้วที่เจ้ามาสอดแนมเจ้าจึงไม่สังเกตเห็น?”
“ครั้งก่อนที่ข้ามาที่นี่ พวกโจรกำลังเล่นการพนันอยู่ในกระท่อม ข้าก็เลยไม่มีโอกาสได้เข้าไปสำรวจด้านในอย่างละเอียด”
โหวจื่อพูดว่า “ข้าคิดว่ามันเป็นกระท่อมที่ผุพังที่ไม่มีกำแพงล้อมรอบ ข้ามองเพียงแวบเดียวก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยกลับ”
“ดูเหมือนว่าพวกโจรเหล่านี้จะเตรียมพร้อมมาเป็นเวลานานแล้ว และเราก็ตกหลุมพรางพวกมันเสียด้วย!”
เจิ้งฟางกล่าวพร้อมขมวดคิ้วแน่น
“คราวนี้เป็นความผิดของข้า กลับไปข้าจะขอโทษต่อพี่เหลียงและท่านอาจารย์จิน”
โหวจื่อเอ่ยตอบ
“ตอนนี้จะมาโทษว่าเป็นความผิดของผู้ใดไปก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้เราต้องเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือพวกนาง!”
หัวหน้าโจรได้เดินไปที่อวนขนาดใหญ่แล้ว เจิ้งฟางไม่สนใจว่าชิ่งมู่หลานจะสำนึกในความผิดของตนได้หรือไม่ เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ฆ่านักแม่นธนูเสียก่อน อย่าให้พวกเขาทำร้ายทหารหญิง”
“รับทราบ! คนแรกทางซ้ายมือข้าจัดการเอง!”
“คนถัดไปข้าจะจัดการ!”
“คนที่สามข้าเอง!”
ทหารผ่านศึกที่อยู่ข้าง ๆ เขายกหน้าไม้ขึ้นเช่นกัน
เจิ้งฟางเองก็ยกหน้าไม้ขึ้น ขณะที่เขากำลังจะออกคำสั่ง ทันใดนั้นก็เห็นอาเหมยรีบวิ่งออกจากอวน
อาเหมยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมีเป้าหมายที่ชัดเจน
หลังจากหลุดออกจากตาข่ายขนาดใหญ่ได้ นางก็กระโจนเข้าใส่หัวหน้าโจรทันที
“อยากตายสินะ!”
หัวหน้าใหญ่รีบยกดาบยาวในมือขึ้นมาแล้วโจมตีอาเหมย
อาเหมยก้มลงและหลบดาบยาวได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็คว้าข้อมือของหัวหน้าโจรที่กำลังเหวี่ยงดาบแล้วบิดมันอย่างแรงจากนั้นก็ผลักเขาลงไปกองที่พื้น
“ถอยไป ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเขาซะ!”
อาเหมยจ่อกริชไว้ที่คอของหัวหน้าโจรแล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“นังหญิงสารเลว ปล่อยพี่ใหญ่ข้าเดี๋ยวนี้!”
“ปล่อยพี่ใหญ่!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์