บทที่ 181 หลีกเลี่ยงไม่ได้
ถนนเส้นหลักกว้างเพียงไม่กี่เมตร โหวจื่อเพิ่งวิ่งผ่านพวกโจรไป และพวกโจรก็มองเห็นเขาแล้ว
ในป่าด้านล่างใกล้ทางหลัก พวกโจรกำลังคุยกันถึงเรื่องของเขาอยู่
“พี่ใหญ่ คนที่วิ่งข้ามถนนเมื่อครู่น่าจะมาจากซีเหอวานใช่หรือไม่?” โจรคนหนึ่งถาม
“ก่อนลงสนามรบย่อมมีหน่วยสอดแนม ซึ่งส่วนใหญ่รับผิดชอบในการลาดตระเวนและทำการเปิดถนน ครั้งหนึ่งจินเฟิงเคยติดตามชิ่งไหวในสนามรบ และเขาคงได้เรียนรู้กลอุบายมาบ้าง คนที่วิ่งผ่านเมื่อครู่ก็คงเป็นหนึ่งในคนของเขา คงมาสอดแนมดูพวกเรา”
โจรคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นทหารกล่าว
“แล้วพวกเขาจะหาเราพบหรือไม่?”
โจรบางคนเอ่ยถามอย่างกังวล
“พวกเราซ่อนตัวเป็นอย่างดี อีกอย่างเขาก็ขี่ม้าเร็วมาก พวกเขาจะทันสังเกตพวกเราได้อย่างไร?”
หัวหน้าโจรกล่าวว่า “แต่หากพวกเขาเห็นเราก็ไม่เป็นไร เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะไปยังตัวเมืองได้ เว้นแต่พวกเขาจะหันหลังกลับตอนนี้”
“ถ้าพวกเขาเลือกที่จะหันกลับไปจริง ๆ พวกเราที่ดักซุ่มมาตั้งนานจะไม่เสียเวลาเปล่าหรือ?”
โจรคนหนึ่งบ่นขึ้นมา “พวกของซานโก่วจือก็อาจตายเปล่า”
พวกเขาเดินผ่านเส้นทางเล็ก ๆ แห่งนี้ และต้องผ่านหน้าผาสูงชันยาวกว่าสามจั้ง ก่อนหน้านี้โจรสี่คนลื่นไถลลงไป พวกเขาไม่แม้แต่จะคว้าก้อนหินหรือสิ่งใดได้ทันจึงตกหน้าผาตาย
หลังจากโจรที่เหลือเข้ามาได้ก็ลอบซ่อนตัวอยู่ในป่า ยุงตามภูเขาดุมากเสียจนพวกเขามีตุ่มแดงเต็มตัว
หากถูกจินเฟิงพบเข้า หรือหากอีกฝ่ายตัดสินใจถอยกลับไป นั่นก็แปลว่าพวกเขามารอเก้อใช่หรือไม่?
“พวกเราซ่อนตัวได้ดีถึงขนาดนี้ เมื่อครู่พวกเขาคงยังไม่ทันสังเกตเห็น บางทีรออีกสักพักพวกจินเฟิงอาจจะมาก็ได้”
หัวหน้าโจรกล่าวต่อ “รออีกสักหนึ่งก้านธูป ถ้าพวกเขายังไม่มา เราก็จะเป็นฝ่ายบุกไปหาพวกเขา!”
“พี่ใหญ่ พวกเขาขี่ม้านะ เราจะตามทันได้อย่างไร?”
โจรคนหนึ่งถาม
“เจ้าคิดว่าเหตุใดข้าจึงเลือกมาโจมตีพวกเขาที่เฮยเฟิงหลิ่งเล่า?”
หัวหน้าโจรพูดอย่างภาคภูมิใจ “พวกเขาจะวิ่งไปที่ใดก็ตาม เราก็สามารถจับพวกเขาได้ทัน แม้ว่าเราจะงีบหลับแล้วตื่นมา เราก็ยังไล่ตามพวกเขาทัน!”
ถนนบนเฮยเฟิงหลิ่งเป็นถนนที่คดเคี้ยว จากจุดซุ่มโจมตีที่พวกโจรปักหลักในตอนนี้ หากต้องการลงไปด้านล่างมีระยะทางเพียงสามสิบจั้งเท่านั้น แต่พวกจินเฟิงต้องใช้เวลาขี่ม้าวนไปรอบ ๆ กว่าหนึ่งก้านธูปถึงจะลงไปได้
“พี่ใหญ่ พวกเรามีกำลังคนตั้งมากมาย แล้วยังต้องรอสิ่งใดอยู่หรือ? เหตุใดพวกเราไม่บุกลงไปและฆ่าพวกเขาให้ตายเสียเล่า?”
รองหัวหน้าโจรเบ่งกล้ามของเขาแล้วพูดอย่างอดไม่ไหว
“ผู้ติดตามจินเฟิงต้องเป็นผู้ที่มีฝีมือดีเป็นแน่ หากเราทำการต่อสู้ระยะประชิด สหายของเราอาจต้องล้มตายนับสิบชีวิต ชีวิตของพี่น้องของพวกเราไม่มีค่าอย่างนั้นหรือ?”
หัวหน้าโจรพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไหน ๆ ก็ต้องรอแล้ว เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมือธนูเถิด เหตุใดเราต้องเอาชีวิตพี่น้องเราไปเสี่ยงด้วย?”
“ข้า…”
รองหัวหน้าโจรก้มศีรษะลงและไม่กล้าเอ่ยตอบ
เมื่อโจรรอบ ๆ ได้ยินสิ่งที่พี่ใหญ่ของพวกเขาพูดก็รู้สึกอบอุ่นในใจและรู้สึกว่าได้พบเจ้านายที่ดีแล้ว
เมื่อเห็นว่าการเอาชนะใจผู้คนบรรลุผลแล้ว หัวหน้าโจรจึงกล่าวต่อ “สหาย ทุกคนตั้งสติให้ดี ขอแค่วันนี้จินเฟิงพ่ายแพ้ วันพรุ่งนี้ข้าจะให้ทุกคนได้ไปจรรโลงใจที่หอนางโลมและฉลองอย่างเต็มที่สามวันสามคืน!”
“พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล เมื่อจินเฟิงเดินทางมาถึงเฮยเฟิงหลิ่ง ก็อย่าได้คิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไป!”
“ม้าที่หน่วยสอดแนมขี่มาเมื่อครู่นั้นแข็งแกร่งมากและสามารถวิ่งได้เร็วยิ่งนัก หากเราจับพวกเขาได้ ข้าคงต้องขอลองขี่ดูสักครั้ง!”
“อีกทั้งเขายังมีดาบยาวห้อยอยู่ที่เอวด้วย ข้าได้ยินมาว่ามันคมมากจนสามารถตัดเหล็กได้ราวกับตัดดินเหนียวเชียวล่ะ!”
“เช่นนั้น หน้าไม้ของพวกมันก็เป็นของข้าแล้วกัน!”
…
พวกโจรคุยกันอย่างมีชีวิตชีวาโดยไม่รู้เลยว่าโหวจื่ออยู่ข้างหลังพวกเขาแล้ว โหวจื่อหมอบอยู่บนที่สูงและพรางตัวเองเอาไว้พร้อมกับนับจำนวนพวกโจรทีละคน
“หนึ่ง สอง สาม…”
ใบหน้าของโหวจื่อเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนับแล้ว เขาก็ถอยกลับไปอย่างเงียบ ๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกโจรไม่รู้ว่าที่ตั้งของพวกเขาถูกโหวจื่อค้นพบแล้ว…


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์