เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์ นิยาย บท 186

บทที่ 186 เมาไม่ได้สติ

กวางเหยวียนเป็นป้อมปราการที่ใช้เข้าและออกชวนสู่หรือแอ่งเสฉวนมาตั้งแต่สมัยโบราณ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ทหาร ดังนั้นกำแพงเมืองจึงถูกสร้างขึ้นสูงกว่าสามฉื่อและทอดยาวจนสุดลูกหูลูกตา

ทหารถือหอกยืนอยู่บนกำแพงเมือง มองดูคนที่เดินขวักไขว่บนถนนด้านล่างอย่างเบื่อหน่าย

นอกกำแพงเมืองมีร่องรอยการถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นรอยฟันจากขวานหรือดาบ และคราบเขม่าควันนับไม่ถ้วน สีของดินใต้กำแพงเมืองก็แตกต่างจากที่อื่น ๆ เห็นได้ชัดว่ามันถูกอาบไปด้วยเลือดหลายต่อหลายครั้ง

องค์ประกอบทุกสิ่งสามารถบอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นที่นี่

กลุ่มของจินเฟิงเดินทางมาถึงที่ประตูทิศใต้ อาจเป็นเพราะชุดเกราะของทหารหญิงที่โดดเด่น เมื่อจินเฟิงและคนอื่น ๆ เข้าไปใกล้ ๆ ทหารที่ยืนพิงประตูเมืองอย่างเกียจคร้านต่างก็หยิบอาวุธของพวกเขาขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

อาเหมยตะโกนออกมาเสียงเข้ม ก้าวไปข้างหน้าและหยิบสัญลักษณ์แทนตัวออกมา หลังจากนั้นท่าทางของทหารป้องกันเมืองก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขาปล่อยให้กลุ่มของจินเฟิงเดินเข้าไปด้านในด้วยความเคารพโดยไม่ได้ตรวจสอบสัญลักษณ์แทนตัวด้วยซ้ำ

ทางเข้าประตูเมืองเป็นถนนหินกว้างกว่าสามจั้ง เนื่องจากเมื่อวานฝนเพิ่งตกจึงมีโคลนติดบนรองเท้าของคนเดินถนนอยู่บนพื้นเล็กน้อย

แต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความกระตือรือร้นของพ่อค้าแม่ค้าแม้เพียงนิด ถนนทั้งสองด้านเต็มไปด้วยเสียงตะโกนของพ่อค้าทำให้บรรยากาศโดยรอบมีชีวิตชีวามาก

“พี่เขย ที่นี่คือตัวเมืองหรือ? คึกคักมากทีเดียว!”

เสี่ยวเอ๋อโผล่หัวออกจากรถม้าแล้วมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น “โห มีถังหูลู่ขายด้วยล่ะ ไอหยา มีพ่อค้าบะหมี่ด้วย…”

“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดที่นี่คือตัวเมือง ในตอนบ่ายคนเยอะมาก หากเป็นที่จินชวน ยามนี้คงไม่มีใครอยู่บนถนนแล้ว”

กวานเสี่ยวโหรวและรุ่นเหนียงมาในตัวเมืองเป็นครั้งแรก พวกนางมองออกไปข้างนอกด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ส่วนถังตงตงเติบโตขึ้นมาในเมืองและคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้เป็นอย่างดี ในเวลานี้ใบหน้าของนางสลดลง เห็นได้ชัดว่ากำลังนึกถึงบางสิ่งที่ไม่มีความสุข

แม้ว่าทหารผ่านศึกจะอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาก็ไม่ลืมหน้าที่ของตนเองและเฝ้าดูผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาอย่างระมัดระวัง

ในขณะนี้พวกเขาทุกคนต่างก็ถือดาบยาวเอาไว้ในมือ ส่วนทหารหญิงต่างก็สวมชุดเกราะ แค่ผ่านมาพบเห็นก็พอจะรู้แล้วว่าไม่ควรมีเรื่องด้วย ดังนั้นคนที่เดินผ่านไปมาจึงเลือกที่จะออกห่างและหลบพวกเขาไปก่อน

ในชีวิตที่แล้ว จินเฟิงเคยเห็นตลาดกลางคืนที่มีชีวิตชีวากว่านี้มาก และเขาก็เคยเบียดเสียดกับผู้คนในรถไฟใต้ดินที่แออัด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนเดินถนนในชุดโบราณจำนวนมาก อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมโบราณอยู่โดยรอบ ราวกับว่าเขากำลังเยี่ยมชมเมืองที่ปรากฏในละครโทรทัศน์

อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าและสถาปัตยกรรมในยุคนี้ดูจำเจมาก ในตอนแรกอาจรู้สึกว่าแปลกใหม่ แต่หลังจากเดินไปตามถนนและเห็นทุกอย่างซ้ำ ๆ จินเฟิงก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ

เมื่อตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจากสีหน้าของถังตงตง เขาจึงชะลอฝีเท้าลงและถามด้วยรอยยิ้ม “ตงตง วันนี้เราจะพักที่ใดกันหรือ?”

ถังตงตงเรียกสติของตนกลับมา จากนั้นนางก็ยิ้มแล้วตอบว่า “พักที่โรงเตี๊ยมจ้าวเจียแล้วกัน อยู่ใกล้กับตลาดนายหน้า ถึงสี่แยกข้างหน้าแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นเดินต่อไปอีกสามแยกก็จะถึงที่หมาย”

จินเฟิงพูดคุยกับถังตงตงอยู่พักหนึ่ง และรถม้าก็หยุดที่ทางเข้าโรงเตี๊ยมพอดิบพอดี

โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวาง ด้านหน้าเป็นอาคารไม้สามชั้น ซึ่งเป็นอาคารคลาสสิกแบบจีนทั่วไป มีคานแกะสลักและชายคาโค้งดูมีเสน่ห์ทีเดียว

“นายท่านทั้งหลาย หยุดพักรับประทานอาหารหรือต้องการหาที่พักแรมหรือ?”

เมื่อเสี่ยวเอ้อร์เห็นผู้คนมากมาย เขาก็คิดว่าพ่อค้าใหญ่กำลังมาจึงเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้ม

“พวกข้ามาหาที่พักแรม พวกเจ้ามีเรือนที่ยังว่างหรือไม่?” เถี่ยฉุยเอ่ยถาม

“หากนายท่านต้องการหาที่พักแรม มาที่โรงเตี๊ยมจ้าวเจียของเรานับว่าถูกต้องแล้ว ในตัวเมืองแห่งนี้ที่พักของเราถือว่าดีเยี่ยมที่สุด!” เสี่ยวเอ้อร์พูดอย่างกระตือรือร้น

“เอาล่ะ นำทางไปเถิด”

เถี่ยฉุยนำพวงเหรียญทองแดงจำนวนหนึ่งให้กับเสี่ยวเอ้อร์ที่โรงเตี๊ยมทันที “เลือกเรือนที่ดีที่สุดให้แก่ท่านอาจารย์ข้า หากมีหนูและแมลง อย่าหาว่าข้าไม่กล่าวเตือน!”

“ไม่ต้องเป็นกังวล รับรองว่านายท่านจะได้พักผ่อนอย่างสุขสบายจนคราวหน้าอยากจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน”

เสี่ยวเอ้อร์เก็บเหรียญทองแดงก่อนจะยกยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นก็พยักหน้าและโค้งคำนับพร้อมพาพวกเขาตรงไปยังที่พัก

“เรือนแห่งนี้ใหญ่ที่สุดในโรงเตี๊ยมของเรา มีทั้งหมดสิบห้อง ครัวและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน นอกจากนี้ยังมีคอกม้าด้านหลังด้วย เหมาะสำหรับนายท่านเป็นอย่างยิ่ง”

พูดจบเสี่ยวเอ้อร์ก็เปิดประตูลานบ้าน “นายท่านคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”

เถี่ยฉุยไม่ตอบ แต่มองไปที่จินเฟิง

บัณฑิตหนุ่มมองดูและเห็นว่าเรือนแห่งนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่และสภาพแวดล้อมค่อนข้างเงียบสงบ เขาจึงพยักหน้า

บทที่ 186 เมาไม่ได้สติ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์