บทที่ 189 ไม่มีวันขายเรือนร่าง
“ท่านพี่ ดูนางสิ นางกำลังชวนพี่เขยไปหอนางโลม!”
เสี่ยวเอ๋อชี้ไปที่ชิ่งมู่หลานแล้วพูดด้วยความโกรธ “ข้าไม่อยากเป็นพี่น้องกับเจ้าแล้ว ครั้งหน้าไม่ต้องมากินอาหารที่บ้านพวกข้าอีก!”
“เด็กน้อย เจ้าจะไปรู้อะไร?”
ชิ่งมู่หลานลูบผมของเสี่ยวเอ๋อ “เหล่าใต้เท้าไปหอนางโลมแล้วอย่างไรหรือ? ข้าเองก็ไม่ได้บอกว่าให้พี่เขยของเจ้าไปที่นั่นเพื่อทำเรื่องเสื่อมเสียสักหน่อย”
“ใครว่าข้าไม่รู้เรื่อง ข้าเคยได้ยินพี่เถี่ยจือและสหายของเขาบอกว่าจะไปที่หอนางโลมเพื่อหาสตรีอย่างว่า!”
เสี่ยวเอ๋อกล่าวอย่างไม่มั่นใจ
แม้แต่กวานเสี่ยวโหรวก็ยังแสดงท่าทีไม่ไว้วางใจ
นางไม่ได้คัดค้านที่จินเฟิงจะรับอนุภรรยาเพิ่ม แต่นางไม่อยากให้สามีไปยังสถานที่เหล่านั้น
แต่จินเฟิงเข้าใจว่าชิ่งมู่หลานหมายถึงอะไร
ในสมัยโบราณ ช่องทางหาความสำราญนั้นมีน้อย หอนางโลมคุณภาพสูงบางแห่งไม่เพียงแต่ทำกิจการค้ามนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับปัญญาชนในการเข้าสังคมอีกด้วย
บางครั้งก็จะมีเรื่องราวของหญิงงามในหอนางโลมถูกนำออกมาเผยแพร่จนเป็นเรื่องให้ผู้คนได้พูดถึง
“พวกเจ้าคิดอะไรอยู่?”
ชิ่งมู่หลานพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “หอวาโยวสันต์มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะลงสมัครฮวาขุย หมายความว่ามันเป็นหอนางโลมระดับสูง แตกต่างจากหอนางโลมชั้นต่ำในอำเภอจินชวน พวกเขาไม่เพียงแต่ทำการขายเนื้อหนังเท่านั้น แต่ปัญญาชนในเมืองต่างไปฟังเพลงกันที่นั่นโดยถือว่าเป็นเรื่องปกติ”
เมื่อกวานเสี่ยวโหรวได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของนางก็ผ่อนคลายลง
แต่เสี่ยวเอ๋อยังคงเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง “ท่านพี่ นางต้องโกหกท่านเป็นแน่”
“แม่นางมู่หลานไม่ได้กล่าวเท็จหรอก”
ถังตงตงเดินเข้ามา “เป็นเรื่องปกติที่บัณฑิตในเมืองจะไปที่หอนางโลม หากไม่ไปที่นั่นก็อาจถูกหัวเราะเยาะได้ว่าเป็นผู้ไม่เคยเห็นโลก”
“ตงตง ข้าบอกให้เจ้าพักผ่อนมิใช่หรือ? เหตุใดเจ้าจึงออกมาเล่า?”
กวานเสี่ยวโหรวย้ายเก้าอี้ไปที่ถังตงตงอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่รู้ว่าเสียวเป่ยเป็นตายร้ายดีอย่างไร ข้าจะนอนหลับได้ลงหรือ?”
ถังตงตงเงยหน้าขึ้นมองกวานเสี่ยวโหรวแล้วพูดว่า “เสี่ยวโหรว หอวาโยวสันต์เป็นหนึ่งในหอนางโลมที่ดีที่สุดในเมือง ไปฟังเพลงอย่างเดียวย่อมได้ เสียวเป่ยเป็นญาติคนเดียวของข้า เสี่ยวโหรวช่วยข้าด้วยนะ…”
“ตงตง เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ข้ายังไม่ได้บอกสักคำว่าจะไม่ให้สามีของข้าไป”
กวานเสี่ยวโหรวเป็นคนจิตใจอ่อนโยน และถังตงตงก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง นางหันไปหาจินเฟิงเพื่อช่วยพูดแทนทันที “สามี เจ้าไปที่นั่นสักครั้ง แล้วดูว่าจะทำอย่างได้บ้างเถิด”
“เรื่องของตงตง ข้าจะต้องช่วยอย่างแน่นอน”
จินเฟิงมองไปที่ชิ่งมู่หลาน “แล้วเจ้ามีแผนการอย่างไรบ้าง?”
“หากเป็นเรื่องอื่นก็อาจจะพูดง่ายหน่อย แต่หากท่านพี่ของข้ารู้ว่าข้าต้องการไถ่ตัวนางโลมออกมา เขาต้องพาตัวข้ากลับไปเป็นแน่” ชิ่งมู่หลานเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้
นางสนใจในเรื่องศิลปะการต่อสู่ อีกทั้งยังมีข่าวลือในซื่อชวนว่านางชอบสตรีเพศเดียวกัน เรื่องนี้ทำให้พี่ชายของนางไม่พอใจอย่างมาก และหากนางไปพูดเรื่องการไถ่ตัวหญิงสาวออกมาจากหอนางโลมกับเขา เรื่องนี้คงอธิบายได้ไม่ง่ายนัก
ชิ่งมู่หลานไม่สามารถช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ จินเฟิงจึงได้แต่มองไปที่ถังตงตง “คงไม่เหมาะหากจะไปที่หอนางโลมตั้งแต่เช้าตรู่ เช่นนั้นเจ้าพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่า การคัดเลือกฮวาขุยนั้นเป็นมาอย่างไร”
“การคัดเลือกฮวาขุยจะจัดขึ้นทุกปี ในตัวเมืองมีหอนางโลมทั้งหมดหกแห่งที่มีสิทธิ์เข้าร่วม รวมไปถึงสถานเริงรมย์หลวงด้วย โดยหอนางโลมแต่ละแห่งสามารถส่งหญิงสาวเข้าร่วมได้สี่คน”
ถังตงตงกล่าวว่า “ในวันคัดเลือก ผู้สนับสนุนสามารถไปยังสถานที่นั้น ๆ เพื่อซื้อดอกไม้และมอบให้หญิงสาวที่ตนหมายปอง หากหญิงสาวคนใดได้รับดอกไม้มากที่สุดจะได้เป็นฮวาขุยในปีนั้น”
“นั่นหมายความว่าถ้าพ่อค้าผู้มั่งคั่งตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่ง เขาก็สามารถทำให้นางเป็นฮวาขุยได้ด้วยตัวเองใช่หรือไม่?”
“ใช่ เมื่อสามปีที่แล้ว มีพ่อค้าเกลือในเปี้ยนจิงใช้เงินไปหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นตำลึงเงินในคืนเดียวเพื่อแม่นางจื่อเยียนจากหอจินเยว่ สิ่งนี้ทำให้มูลค่าของแม่นางจื่อเยียนในเปี้ยนจิงเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และการเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาก็ต้องจ่ายเงินหนึ่งร้อยถึงสองร้อยเหรียญทองแดง!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์