บทที่ 19 ขอซื้อ
เย็นวันนั้น ในที่สุดเสี่ยวเอ๋อก็ได้กินข้าวที่นางเฝ้าฝันถึงอีกครั้ง
เด็กหญิงตัวน้อยกินข้าวชามใหญ่ ไม่รวมต้มเนื้ออีกอย่าง หากจินเฟิงไม่ห้ามไว้ นางคงกินเพิ่มอีกครึ่งชามเป็นแน่
“สามี ข้าสร้างความลำบากให้เจ้า…”
กวานเสี่ยวโหรวเดินมาส่งจินเฟิงที่ประตูโรงตีเหล็ก สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ข้าแต่งงานกับเจ้า แต่ก็ยังนำปัญหาของครอบครัวตัวเองมาให้อีก…”
ในบ้านนี้มีเตียงเพียงหลังเดียว คนสามคนคงนอนไม่พอแน่
แม้ว่าบ้านทางปีกตะวันออกจะได้รับการจัดระเบียบเรียบร้อย แต่ก็ยังไม่มีเตียง ครั้นจะให้เสี่ยวเอ๋อไปนอนบนบานประตูก็คงไม่เหมาะ จินเฟิงจึงทำได้เพียงพาตัวเองมานอนแทน
“เด็กโง่ เจ้ากำลังพูดอะไร เราเป็นครอบครัวเดียวกัน นี่ไม่เป็นปัญหาหรอก”
ชายหนุ่มลูบศีรษะของกวานเสี่ยวโหรว “อีกอย่าง เสี่ยวเอ๋อก็เป็นเด็กที่รู้ความ”
ในโลกนี้มีคนน่าสงสารมากเกินไป จินเฟิงไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ แต่กวานเสี่ยวโหรวเป็นภรรยาของเขา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทนเห็นน้องสาวของนางอดตายโดยไม่คิดช่วย
จริง ๆ การนอนในโรงตีเหล็กก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเช่นกัน แต่ในซีเหอวานไม่มีช่างไม้ บัณฑิตหนุ่มจึงทำได้เพียงไหว้วานจางเหลียงและจางหม่านชางให้เข้าเมืองไปซื้อไม้กระดานพร้อมกับเครื่องมือช่างไม้ต่าง ๆ ด้วยกัน โดยพวกเขาจะเป็นผู้ลงมือทำเตียงด้วยตัวเอง
ด้วยความสามารถของจินเฟิง ชายหนุ่มใช้เวลาเพียงหนึ่งวันในการสร้างเตียงขนาดเล็ก
จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างไนปั่นด้ายสำหรับกวานเสี่ยวโหรว
เพราะเป็นงานที่ละเอียดอ่อนและเครื่องมือก็ล้าสมัยจึงเกิดความล่าช้าขึ้น
“จินเฟิงไม่ได้ไปล่าสัตว์มาหลายวันแล้วหรือ?”
“ใช่ ข้าเห็นเขาเอาแต่ยุ่งอยู่กับกองไม้เหล่านั้นทั้งวัน”
“เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าคิดว่านิสัยเขาเปลี่ยนไปแล้ว ใครจะไปรู้ว่าพอมีเงิน เขาจะเริ่มกลับมาเกียจคร้านอีกครั้ง”
“แต่เซี่ยกวางขโมยเงินเขาไปจนหมดมิใช่หรือ?”
“ใช่ เขาถูกขโมยไปมากกว่าครึ่ง แต่ก็ยังพอมีเหรียญทองแดงติดตัวอยู่บ้าง”
“ก็ถือว่าไม่น้อย”
“เหรียญทองแดงไม่กี่พวงจะใช้ได้นานเท่าไรกัน เดินแกว่งไปแกว่งมาไม่กี่วันก็คงหมด ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าหลังจากนั้นจินเฟิงจะเอาอะไรกิน”
…
ก่อนหน้านี้บรรดาสตรีในหมู่บ้านคิดว่าการมีจินเฟิงจะทำให้พวกนางกล้าขึ้นไปเก็บผักบนเขา แต่หลังจากรอมาหลายวัน พวกนางก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของบัณฑิตหนุ่ม เขาเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้านและทำงานช่างไม้ ด้วยเหตุนี้พวกนางจึงเริ่มนินทาเขาอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้แต่หลินอวิ๋นฟางก็ทนไม่ไหว นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เมื่อนางรู้ว่าจินเฟิงยังไม่ออกจากบ้าน จึงอดไม่ได้ที่จะวิ่งไปเกลี้ยกล่อมกวานเสี่ยวโหรว
“เสี่ยวโหรว คนในหมู่บ้านเริ่มติฉินนินทาว่าสามีของเจ้าน่ะเอาแต่อยู่บ้านเฉย ๆ…”
“ท่านพี่ สามีของข้าไม่ได้อยู่เฉย ๆ เขากำลังสร้างไนปั่นด้ายให้ข้า มันมีประโยชน์มากทีเดียว ข้าปั่นด้ายเพียงวันเดียวแต่ได้จำนวนมากกว่าที่เคยปั่นถึงห้าวัน”
กวานเสี่ยวโหรวกล่าวอย่างตื่นเต้นและชื่นชมในตัวสามี
ยุคสมัยนี้ยังไม่มีโรงงาน นอกจากการทำไร่ทำนาแล้ว รายได้ทางเดียวของสตรีช่วงนอกฤดูเก็บเกี่ยวคือการปั่นด้าย
เมื่อได้ยินกวานเสี่ยวโหรวกล่าวว่าไนปั่นด้ายที่จินเฟิงทำ ทำให้การปั่นด้ายหนึ่งวันของนางเทียบเท่ากับการทำงานห้าวัน หลินอวิ๋นฟางก็ตามลูกพี่ลูกน้องไปที่ห้องทางทิศตะวันออกทันที
ไนปั่นด้ายของต้าคังเป็นไนปั่นด้ายโบราณที่ต้องใช้มือและมีแกนหมุนเพียงอันเดียว เมื่อใช้งาน มือข้างหนึ่งจะหมุนวงล้อและมืออีกข้างจะคอยดึงม้วนเส้นด้าย นอกจากจะทำงานไม่สะดวกแล้วยังทำให้การทำงานล่าช้าอีกด้วย
แต่ไนปั่นด้ายที่จินเฟิงทำขึ้นมาใหม่ขับเคลื่อนด้วยคันเหยียบ ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถปล่อยมือได้เท่านั้น ทว่าเขายังเพิ่มจำนวนแกนหมุนเป็นสี่ แกน ส่งผลให้ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ใช้งานจึงรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าเดิม
หลินอวิ๋นฟางเฝ้าดูกวานเสี่ยวโหรวปั่นด้ายขนาดใหญ่ในช่วงเวลาสั้น ๆ พลันดวงตานางก็เบิกกว้างเมื่อเห็นประโยชน์ของมัน
นางลืมจุดประสงค์ของการมาที่นี่ไปเสียสิ้น หลินอวิ๋นฟางอุทานพร้อมกับเอ่ยชมเชย “เสี่ยวโหรว ไนปั่นด้ายนี้ทำงานได้อย่างรวดเร็วจริง ๆ สามีของเจ้าฉลาดมาก เขาคิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน”
ถ้ามีไนปั่นด้ายแบบนี้ นางก็จะไม่ต้องขึ้นเขาไปเก็บผักป่า และสตรีในบ้านก็จะได้ผลัดเปลี่ยนกันมาปั่นด้าย เช่นนั้น รายได้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับให้ทั้งครอบครัวดื่มกิน
ตั้งแต่นั้นมาบ้านของจินเฟิงก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
สตรีในหมู่บ้านต่างก็มาดูไนปั่นด้ายใหม่ของกวานเสี่ยวโหรว
เมื่อพวกนางพบว่าไนปั่นด้ายใหม่นั้นใช้งานได้รวดเร็วกว่าแบบเก่าหลายเท่า สตรีในหมู่บ้านต่างก็สนใจและมาขอให้บัณฑิตหนุ่มช่วยสร้างมันให้
น่าเสียดายที่ชายหนุ่มไม่สามารถรับปากได้
ช่างน่าตลกเสียจริง การทำไนปั่นด้ายนั้นต้องใช้เวลาหลายวัน มือของเขาต้องเกิดแผลพุพองมากมาย แล้วจะทำให้สตรีทุกคนในหมู่บ้านได้อย่างไร
เมื่อจินเฟิงไม่ตอบตกลง เหล่าหญิงสาวก็ไม่มีทางเลือกอื่น พวกนางทำได้แค่กลับไปก่อน และใช้ประโยชน์จากเวลาที่กวานเสี่ยวโหรวไม่ได้ทำงานมาขอยืมใช้
กวานเสี่ยวโหรวกลายเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่บ้าน
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์